[AutoFun] เมื่อพูดถึงยางล้อรถยนต์ แน่นอนว่าทุกคนคงรู้จักดีเพราะมันเป็นเพียงส่วนเดียวที่สัมผัสกับท้องถนน แต่ต้องรับน้ำหนักตัวรถทั้งคัน อีกทั้งยางล้อยังเป็นส่วนหนึ่งของระบบกันสั่นสะเทือน ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในรถยนต์และเราควรต้องเข้าใจมัน
นี่คือวิดีโอข้อมูลคร่าวๆของคุณสมบัติของยาง:
ข้อมูลรายละเอียดยางอยู่ที่ไหน
นอกจากยี่ห้อแล้ว ยางรถยนต์ยังมีการระบุรายละเอียดเฉพาะของยางนั้นๆ ซึ่งรายละเอียดจะมีทั้งตัวอักษรและตัวเลขซึ่งอยู่บนหน้ายาง
ตัวเลขตัวอักษรหน้ายางคืออะไร
เมื่อเรารู้แล้วว่ารายละเอียดเฉพาะยางนั้นอยู่บนหน้ายาง ซึ่งตัวเลขและตัวอักษรเหล่านี้ล้วนมีความหมาย เพราะเป็นตัวบ่งบอกถึงขนาดยาง ขอบเขตในการใช้งาน ตัวเลขและตัวอักษรเหล่านี้ทำให้เรารู้ว่ายางรถยนต์ขนาดนี้แบบนี้เหมาะกับรถของเราไหม
เราจะพาคุณไปดูกันว่าตัวเลขและตัวอักษรนั้นหมายถึงอะไรบ้าง
1. ขนาดและข้อมูลจำเพาะ
ในชุดตัวเลข 205/55 R16 ที่เห็นบนแก้มยางนั้นเป็นรายละเอียดเฉพาะของยางนั้นๆ รหัสนี้บ่งบอกถึงตัวเลข 205 คือ ความกว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร 55 คือความสูงของแก้มยางหรือซีรีย์ มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์หรือคิดง่ายๆก็คือ 65% ของ 205 มิลลิเมตร ซึ่งอัตราส่วนเปอร์เซ็นต์ที่น้อยหมายถึงยางมีความบาง ทำให้มีความสามารถกันสั่นสะเทือนลดน้อยลงด้วย
ตัวอักษร R คือชนิดโครงสร้างของยางแบบเรเดียล ยางเรเดียลหมายถึงยางที่ประกอบด้วยชั้นผ้าใบพันรอบยางในมุม 90 องศากับเส้นรอบวงของยาง ใต้ดอกยางมีชั้นผ้าใบหรือแถบเหล็กเสริมหน้ายาง ซึ่งทำให้ยางเรเดียลนี้จะมีความยืดหยุ่นและมีความแข็งแรงสูงกว่ายางแบบธรรมดา ยางเรเดียลจึงสามารถยึดเกาะถนนได้ดีกว่า โดยเฉพาะขณะเลี้ยวโค้ง ทำให้ยางเรเดียลกลายเป็นยางที่นิยมมากในปัจจุบัน
2. ดัชนีการรับน้ำหนัก
เมื่อรู้ความหมายของตัวอักษรและตัวเลขหน้ายางแล้ว ต่อไปเราจะมาเปรียบเทียบว่าความสามารถในการรับน้ำหนักสูงสุดของยาง 1 เส้นที่ลมยางตามมาตรฐานเป็นเท่าไหร่
ตารางเปรียบเทียบดัชนีการรับน้ำหนัก | |||
---|---|---|---|
ดัชนีรับน้ำหนัก | รับน้ำหนักสูงสุดต่อล้อ | ดัชนีรับน้ำหนัก | รับน้ำหนักสูงสุดต่อล้อ |
85 | ≤515kg | 89 | ≤580kg |
86 | ≤530kg | 90 | ≤600kg |
87 | ≤545kg | 91 | ≤615kg |
88 | ≤560kg | 92 | ≤630kg |
3. ค่าการสึกหรอของยางรถยนต์
เมื่อเราซื้อยางนอกจากจะรายละเอียดของตัวยางแล้ว ก็ต้องเปรียบเทียบค่าสึกหรอของยาง ซึ่งมาจากการทดสอบยางจากโรงงาน ซึ่งก็คือค่า Treadwear โดยถ้าค่าตัวเลขน้อย การสึกหรอสูงของยางจะสูงทำให้ใช้งานได้สั้น แต่ก็มีข้อดีคือเกาะถนนดี แต่ถ้าค่าตัวเลขมากการสึกหรอจะน้อย อายุการใช้งานจะยาว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเกาะถนนได้ไม่ค่อยดีมาก
นอกจากนี้ค่า Treadwear ยังเปรียบเทียบความนิ่มแข็งของยางด้วย ซึ่งจำคำนวณออกมาเป็นตัวเลขระดับต่างๆ เช่น 100, 300, 400, 700, 800 ตัวเลขเหล่านี้เป็นผลการทดสอบของเนื้อยาง ทำให้เราสามารถเลือกได้ว่ายางตัวไหนเหมาะกับการใช้งานของเรา
4. วันที่ผลิตและระยะเวลาการสึกหรอ
5. ข้อมูลสำคัญอื่นๆ
นอกจากข้อมูลที่กล่าวมาแล้ว ยี่ห้อของผู้ผลิตยางรถยนต์หรือเทคโนโลยีที่ใช้ก็จะปรากฏบนแก้มยางเช่นกัน รายละเอียดเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากผู้ผลิตแต่ละแห่งใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ซึ่งรายละเอียดนี้ก็เป็นตัวเลือกต้นๆที่ทำให้คนสนใจเช่นกัน