BMW 5 Series Sedan

THB 2,999,000 - 3,739,000
Executive เกรด
Sedan ตัวถัง
AT รูปแบบเกียร์
2.0L ปริมาตรกระบอกสูบ
เช็คสเปค

รุ่นย่อยและราคา BMW 5 Series Sedan

2024 - 2025 BMW 5 Series Sedan มีให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อยพร้อมราคาเริ่มต้นอยู่ที่ THB 2,999,000 ถึง THB 3,739,000 รุ่นเริ่มต้นของ 5-series-sedan คือ 2021 BMW 5 Series Sedan 530e Elite ที่ราคา THB 2,999,000 ส่วนรุ่นท็อปสุด BMW 5 Series Sedan มาพร้อมราคา THB 3,739,000.

ขายรถคันเดิมเพื่อซื้อรถมือสองคุณภาพดีได้ง่ายและสะดวก

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

2021 BMW 5 Series Sedan 530e Elite

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

BMW 5 Series Sedan 2024 มีรูปภาพและรูปถ่ายทั้งหมด 202 รูป รวมรูปภาพ & รูปถ่ายภายใน 88 รูป รูปภาพ & รูปถ่ายภายนอก 97 รูป รูปเครื่องยนต์และทอื่นๆ 17 รูป ชมมุมมองด้านหน้า มุมมองด้านหลัง ด้านข้างและมุมมองด้านบนของ BMW 5 Series Sedan 2024 รุ่นใหม่ได้ที่นี่.

รีวิว BMW 5 Series Sedan

ภาพรวม

2021 BMW 5-Series Sedan ปรับโฉมภายนอกใหม่ไฉไลกว่าเดิม

BMW 5-Series คือรถซีดานไซส์กลางที่ได้รับความนิยมอย่างมากไม่แพ้คู่แข่งเลย โดยได้รับการตอบรับที่ดีตลอดทุกรุ่นว่าเป็นรถนั่งที่มีสมรรถนะดีและมีพื้นที่ในห้องโดยสารที่กว้างขวาง โดยบีเอ็มได้เปิดตัว 5-Series มาแล้วถึง 7 เจนเนอเรชั่นโดยเจนปัจจุบันมีรหัสตัวถังว่า G30 ซึ่งการเปิดตัว G30 ในตอนแรกแม้คุณสมบัติของรถจะเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่ดีไซน์ของรถไม่ได้แตกต่างจาก F10 ซึ่งเป็นรถเจนที่แล้วมากนัก ทำให้คนค่อนข้างมีฟีดแบคในเรื่องนี้มาก ดังนั้นสำหรับรุ่นไมเนอร์บีเอ็มได้รับฟังฟีดแบคนั้นอย่างดีโดยทำการปรับปรุงหน้าตาและโดยเฉพาะไฟหน้าไฟท้ายที่ดูโดดเด่นกว่ารุ่นก่อนไมเนอร์มาก ทำให้ G30 รุ่น LCI ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นเรียกได้ว่าครบเครื่องแล้ว สำหรับในประเทศไทยเองมีการเปิดตัว 5-Series รุ่นประกอบในประเทศเมื่อต้นปี 2021 นี้เองโดยทำตลาดใน 2 เครื่องยนต์ 3 รุุ่นย่อย เปิดตลาดด้วย 530e Elite ที่เป็นเครื่องเบนซินพ่วงระบบปลั้กอินไฮบริดในราคาต่ำกว่า 3 ล้าน รุ่นกลางคือเครื่องดีเซลมาในรหัสที่คุ้นเคย 520d และรุ่นท้อป 530e M-Sport ที่ 3.79 ล้าน ถูกกว่ารุ่นก่อนปรับโฉม 2 แสนบาท ซึ่งบีเอ็มตั้งใจมาถล่มเบนซ์ E-Class ด้วยออฟชั่นและราคาอย่างแน่นอน

ราคา BMW 5-Series Sedan

BMW 530e Elite PHEV ราคา 2,999,000 บาท
BMW 520d M-Sport ราคา 3,539,000 บาท
BMW 530e M-Sport PHEV ราคา 3,739,000 บาท

ภาพภายนอก

การออกแบบภายนอก

บีเอ็ม 5-Series รุ่นปรับปรุงโฉมได้รับการปรับดีไซน์ไม่กี่จุดแต่เป็นจุดที่สำคัญที่ทำให้หน้าตาของมันดูโดดเด่นกว่าตัวเก่ามาก และได้รับการตอบรับที่ดี โดยจุดที่เปลี่ยนไปได้แก่ โคมไฟหน้า กระจังหน้า และโคมไฟท้ายที่ดูโดดเด่นสุดในการปรับโฉมครั้งนี้ โดยไฟหน้ามาพร้อมกับไฟเดย์ไลท์ทรงใหม่เป็นรูปตัว L 2 วงซ้อนกัน ซึ่งโคมได้รับการรมดำมาจากโรงงาน เสริมลุคความสปอร์ตมากขึ้น กระจังหน้าทรงไตคู่ยังคงเป็๋นไตแบบแนวนอนเช่นเดิม แต่มีการขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นอีกหน่อย ครีบเปิดปิดกระจังสีดำในรุ่น Elite รุ่นบนขึ้นมาจะเป็นครีบโครเมี่ยมและตัดด้วยขอบโครเมี่ยมในทุกรุ่นย่อย ดูลงตัวกว่าของพี่ใหญ่ 7-Series สำหรับไฟท้ายเป็นที่พูดถึงมากที่สุดเพราะเป็นการออกแบบให้ไฟท้ายมีลักษณะนูนออกมาแบบ 3 มิติ โดยก้อนไฟหรี่และไฟเบรคจะมีลักษณะเป็นตัว C หนาๆ ซึ่งโคมก็ได้รับการรมดำมาเช่นเดียวกัน โดดเด่นสุดๆเวลาขับตามท้าย นอกนั้นสัดส่วนโดยรวมรวมถึงด้านข้างก็ยังคงเหมือนเดิม แต่การเปลี่ยนจุดที่สำคัญได้ทำให้เจ้า G30 LCI เสมือนกลายเป็นรถคนละรุ่นกับ G30 โฉมแรกไปเลย สำหรับการตกแต่งในรุ่น Elite กับ รุ่น M-Sport จะมีความแตกต่างกันตรงบริเวณสเกิร์ตรอบคัน สำหรับด้านหน้า M-Sport จะมาพร้อมช่องดักลมล่างขนาดใหญ่ซ้ายกลางขวาพร้อมตะแกรงลายรังผึ้งสีดำ ส่วนรุ่น Elite จะเป็นช่องดักลมยาวต่อกันหมดแบนและมีทำมุมสามเหลี่ยมบริเวณซ้ายขวาซึ่งดูเรียบไปหน่อย ทริมตัดขอบในบริเวณต่างๆที่ M-Sport จะเป็นสีดำทั้งหมดส่วน Elite จะเป็นสีโครเมี่ยม และลายล้ออัลลอลแบบ M ซึ่งในรุ่น 530e M-Sport จะได้ขนาด 19 นิ้ว ส่วนรุ่นอื่นได้ล้อ 18 นิ้ว สำหรับช่องชาร์จไฟในรุ่น 530e จะอยู่บริเวณหลังซุ้มล้อหน้าฝั่งซ้าย ท่อไอเสียจะได้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูทุกรุ่นย่อย ดีไซน์โดยรวมดูลงตัวและสปอร์ตมากขึ้นกว่าโฉมก่อนในทุกรุ่นย่อย

มิติตัวรถ

มิติตัวรถ Ferrari 488 Pista Spider
รุ่นย่อย 520d 530e
ความยาว(มม.) 4,963 4,963
ความกว้าง(มม.) 1,868 1,868
ความสูง(มม.) 1,479 1,483
ระยะฐานล้อ(มม.)  2,975 2,975
ปริมาตรการบรรจุของ (ลิตร) 530 410

การออกแบบภายใน

การออกแบบภายใน

สำหรับดีไซน์ภายในการวางตำแหน่งต่างๆยังคงเหมือนกับรุ่นก่อนปรับโฉม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนสุดคือมาตรวัดที่ในรุ่นปัจจุบันจะเป็นมาตรวัดจอดิจิตอลแบบ Live Cockpit หมดแล้ว โดยรุ่น Elite จะได้ Live Cockpit Plus ที่เป็นเหมือนมาตรวัดอนาล็อคเสมือน 2 วงและรุ่น M Sport จะได้ Live Cockpit Professional ที่เป็นมาตรวัดดิจิตอลล้วนที่ปรับแต่งได้มากกว่า เบาะนั่งจะได้เป็นเบาะหนังทรงสปอร์ตหนัง Dakota ในทุกรุ่นย่อย พวงมาลัยในรุ่น Elite จะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 4 ก้าน สำหรับรุ่น M-Sport จะได้พวงมาลัย 3 ก้านแบบ M-Sport พร้อมแพดเดิลชิฟต์ให้ปรับเล่นเกียร์เองได้ บริเวณคอนโซลกลางเหมือนเดิมมาพร้อมจอกลางรถแบบทัชสกรีนขนาด 8.8 นิ้วในรุ่น Elite และ 10.25 นิ้ว ที่รองรับการสั่งการด้วยมือเฉพาะรุ่น M-Sport ปุ่มกดเพื่อสตาร์ทรถยังอยู่บนคอนโซลกลางฝั่งซ้ายของพวงมาลัยเช่นเดิม เพราะ G30 LCI ยังไม่ได้รับการปรับปรุงบริเวณคอนโซลเกียร์ใหม่ให้เหมือนพวก 4-Series ที่หัวเกียร์ไม่ได้ใช้ทรงใบไม้แล้วและปุ่มสตาร์ทรถอยู่ตรงข้างเกียร์ สำหรับการตกแต่งคอนโซลรุ่น Elite จะตกแต่งด้วยวัสดุดำเงา Piano Black และสำหรับรุ่น M-Sport จะตกแต่งด้วยลวดลายแบบอลูมิเนียมสีอมเทาพร้อมตัดทริมด้วยแถบโครเมี่ยม มีช่องแอร์ให้ผู้โดยสารด้านหลังบริเวณตรงกลาง เบาะหลังเป็นแบบ 2+1 ที่นั่งโดยเบาะตรงกลางดึงมาเป็นที่พักแขนได้พร้อมที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง มีม่านบังแดดข้างแบบดึงซ่อนอยู่ในบานประตูดึงมาเกี่ยวไว้ด้านบนของประตูเพื่อบังแดดได้ และในรุ่นท้อปได้หลังคาซันรูฟแบบเปิดปิดได้ด้วยไฟฟ้าด้วย โดยรวมด้านในดีไซน์ยังคงคล้ายเดิมยกเว้นมาตรวัดที่เปลี่ยนไปเป็นจอดิจิตอลหมดแล้ว สำหรับสีเบาะภายในขึ้นอยู่กับการเลือกสีตัวถังภายนอกโดยมีภายในให้เลือก 3 สี คือเบาะสีน้ำตาลส้ม Cognac เดินด้าย เบาะสีดำเดินด้ายขาว และเบาะสีดำเดินด้ายน้ำเงิน

เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก

บีเอ็มได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นโดยได้ไฟหน้าแบบ Adaptive LED ที่สามารถปรับองศาการส่องสว่างตามการหมุนพวงมาลัยได้ และมาพร้อมระบบเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติ ระบบ Comfort Access เข้าออกรถแบบไม่ต้องหยิบกุญแจออกมา และยังสามารถใช้ iPhone ให้เป็นกุญแจรถแบบดิจิตอลได้อีกด้วย ระบบประตูดูด (Soft-close) ที่ทำให้ไม่ต้องใช้แรงกระแทกประตูในการปิด ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองข้างฝั่งคนขับแบบตัดแสงอัตโนมัติ กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับไฟฟ้าพร้อมระบบดันหลัง โดยเบาะคนขับสามารถบันทึกตำแหน่งได้ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Brake hold ระบบปรับอากาศแบบ 2 โซน และแบบ 4 โซน เฉพาะรุ่น 530e M-Sport ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร หน้าจอแสดงข้อมูลรถแบบยิงขึ้นกระจก (HUD) เฉพาะรุ่น M-Sport ขึ้นไป ระบบความบันเทิงรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเครื่องเสียงจาก Harman Kardon เฉพาะรุ่น M-Sport ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันจากจุดหยุดนิ่งเฉพาะรุ่น 530e M-Sport

องค์ประกอบ

ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive safety)

  • ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก (ABS)
  • ระบบกระจายแรงเบรค (EBD)
  • ระบบเสริมแรงเบรค (BA)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC)
  • ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC)
  • ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Dynamic Braking Lights)
  • ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection)
  • ถุงลมคู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านถุงลม

ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active safety)

  • ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attentiveness Assistant)
  • ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร (Lane Departure Warning) *
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา (Lane Change Warning) *
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง (Crossing-traffic Warning Rear) *
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจเจอรถและคนเดินถนนที่ความเร็วต่ำ (City Braking Function) * 
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยจอด (Rear Collision Prevention) *
  • ระบบเตือนป้ายจราจรและทางแยก (Crossroads Warning with Braking Intervention) *
  • ระบบเตือนสถานะของยาง (Runflat Indicator)
  • เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า และ ด้านหลัง
  • กล้องมองภาพด้านหลัง
  • กล้องมองภาพรอบคันแบบ 360 องศา **

* เฉพาะรุ่น M-Sport
** เฉพาะ 530e M-Sport

ระบบพลังงาน

ขุมพลังและสมรรถนะ

สำหรับขุมพลังขอเกริ่นถึงเครื่องดีเซลสหกรณ์ที่ที่คุ้นเคยกันดีของบีเอ็มที่ประจำการอยู่ในหลายรุ่นก่อน โดยเครื่องดีเซลสี่สูบเทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร รหัส B47D20 ที่ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1750 - 2500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง สมรรถนะสำหรับรุ่นดีเซลยังคงไว้ใจได้โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกล็อคไว้ที่ 235 กม./ชม. อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยทำได้น่าประทับใจที่ 20 กม./ชม. อัตราการปล่อยไอเสียอยู่ที่ 132 กรัม/กม. ซึ่งด้วยสมรรถนะที่ดีและการบริโภคน้ำมันที่ต่ำบีเอ็มจะยังคงทำตลาดในรหัส 20d ไปอีกพักใหญ่
และมาถึงขุมพลังที่สะอาดมากขึ้นกับเครื่องยนต์ที่พ่วงมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบปลั้กอินไฮบริด โดยเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบเทอร์โบขนาดความจุ 2.0 ลิตร ในรหัส B48 ที่บีเอ็มใช้กับรถรุ่นย่อย 20i อยู่แล้วโดยตัวเครื่องยนต์สามารถสร้างแรงม้าได้ 184 ตัว ที่ 5000 - 6500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1350 - 4000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสโดยสามารถสร้างแรงม้าได้ 109 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร โดยกำลังรวมสูงสุดทั้งระบบทำได้ 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร และพิเศษถ้าไฟในแบตเตอร์รี่เหลือพอคุณสามารถใช้โหมด XtraBoost โดยมอเตอร์จะยอมปล่อยพลังขั้นสุดของมันเป็นเวลา 10 วินาที โดยจะทำให้แรงม้ารวมทั้งระบบมีถึง 292 ตัว เลยทีเดียว เรียกได้ว่ากดปุ้ปกลายเป็นรถสปอร์ตเจ้าพลังทันที สำหรับสมรรถนะสามารถทำอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกล็อคไว้ที่ 235 กม./ชม. เท่ากัน สำหรับอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงเฉลี่ยซึ่งในการทดสอบมีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานด้วยทำให้เครื่องยนต์ในบางจังหวะไม่ต้องทำงานสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้ที่ 55.6 กม./ลิตร อัตราการปล่อยไอเสียอยู่ที่ 41 กรัม/กม. ซึ่งต้องย้ำอีกครั้งว่าที่ตัวเลขดีขนาดนี้เพราะมีการชาร์จไฟให้เต็มก่อนทดสอบทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาทำงานมากขึ้น

ประสบการณ์การขับขี่

ประสบการณ์การขับขี่

ช่วงล่างของ 3 รุ่นย่อยนี้ถ้าไล่ลำดับจากความนุ่มไปจนถึงแข็งจะได้แก่ 530e Elite > 530e M-Sport > 520d M-Sport ตามลำดับ ทำให้ถ้าคนที่เน้นความนุ่มสบายในการขับขี่ 530e ทั้งสองรุ่นเหมาะสม แต่ถ้าอยากบู้ขึ้นมา 530e M-Sport ที่มาพร้อมช่วงล่างแบบแปรผันจะเล่นได้หลายบทบาทมากกว่า สำหรับ 520d ที่ได้ช่วงล่างตายตัวแบบ M-Sport มามันให้ความรู้สึกตึงตังมากกว่าซึ่งถ้าขับที่ความเร็วสูงมันให้ความมั่นใจที่ดี แต่ถ้าขับใช้งานทั่วไปมันค่อนข้างไม่ค่อยสบายที่จะใช้งานมากเท่าที่ควร สำหรับพละกำลังสำหรับรุ่นเครื่องดีเซลสามารถให้ความสนุกได้ การส่งกำลังต่อเนื่องจนพอเริ่มถึง 170 กม./ชม. ที่กำลังเริ่มแผ่วจนช้าเรื่อยๆในการไล่ระดับความเร็วสูงสุด ถ้าใช้งานความเร็วทั่วไปมันให้ความมั่นใจได้ดีทุกอย่างและแอบประหยัดน้ำมันด้วย ขณะที่รุ่นปลั้กอินไฮบริด ถ้าคุณกระทืบคันเร่งไปเลยมันมีช่วงล้อฟรีด้วย ซึ่งด้วยพละกำลังที่มากกว่า สำหรับช่วงล่างของ 530e Elite ถ้าขับเร็วมันจะแอบน่ากลัวแต่ถ้าขับแบบปกติรถจะทำงานได้เงียบมากด้วยขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามาช่วยเยอะกว่า การใช้งานในเมืองไม่มีปัญหาเลย ส่วน 530e Sport สามารถลบจุดด้อยด้านการไล่ความเร็วได้ มันทำได้ทุกอย่างที่ 530e Elite และ 520d ทำได้ และทำได้ดีกว่าด้วย

ความสะดวกสบายของการนั่งรถ

ความสะดวกสบายในการโดยสาร

ภายในห้องโดยสารยังเน้นการนั่งที่สบายเหมือนรุ่นที่แล้ว พื้นที่วางขากว้าง พื้นที่เหนือศีรษะ การเข้าออกรถทำได้สะดวกกว่าคู่แข่งร่วมชาติด้วยบานประตูเปิดได้กว้างกว่า เบาะนั่งขนาดใหญ่พร้อมระบบปรับไฟฟ้าได้หลายทิศทางรับกับขนาดตัวได้หลากหลาย ระบบเครื่องเสียง Harman Kardon ให้คุณภาพเสียงที่ดีในหลากหลายแนวเพลง การเก็บเสียงทำได้ดีขึ้นนิดหน่อย แต่อย่างที่บอกเรื่องช่วงล่าง 520d จะมีความตึงตังจากช่วงล่างส่งมายังห้องโดยสารมากไปหน่อย

สรุป

BMW 5-Series รหัสตัวถัง G30 รุ่นปรับโฉม คือการปรับโฉมหน้าตาที่ดูคล้ายรุ่นเก่ามากเกินไปให้มีเอกลักษณ์มากขึ้น โดยเพิ่มความสปอร์ตดุดันมากขึ้นแต่ยังคงความภูมิฐานไว้ได้อย่างดี ทำให้ดูเป็นรถรุ่นใหม่มากกว่าแค่ตัวปรับโฉมธรรมดา สำหรับภายในที่ก่อนปรับโฉมทำได้ดีแล้วก็ยังคงไว้ แต่มีการอัพเดตมาตรวัดให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้น มีการเพิ่มระบบช่วยเหลือคนขับในรุ่นกลางอย่าง 520d มากขึ้น ไม่กั้กไว้แต่รุ่นท้อปอีกต่อไป และอุปกรณ์ในรุ่นเริ่มต้นก็ดีขึ้นถ้าเทียบกับรุ่นก่อนปรับโฉมในราคาที่ถูกกว่ากันตอนเปิดตัวด้วย เห็นได้ถึงความตั้งใจในการทำตลาดเซกเมนต์นี้ของบีเอ็มจริงๆ กำลังเครื่องยนต์ในรุ่นไฮบริดเรียกได้ว่าเหลือๆ และรุ่นดีเซลก็ยังคงไว้ใจได้เช่นเคย โดยทุกรุ่นมาพร้อมความประหยัดน้ำมันที่น่าพอใจในเครื่องยนต์ของมัน ถ้ามองหารถสำหรับผู้บริหารไซส์กลาง หรือรถซีดานสำหรับครอบครัว 5-Series ตัวนี้มีทุกอย่างที่คุณต้องการ

อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2024 BMW 5 Series Sedan รุ่นใหม่ในไทยอยู่ที่ 1.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรถึง 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรและตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 BMW 5 Series Sedan 530e Elite อยู่ที่ 1.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 BMW 5 Series Sedan 530e M Sport อยู่ที่ 1.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, และตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2021 BMW 5 Series Sedan 520d M Sport อยู่ที่ 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร.

ประเภทเชื้อเพลิง รูปแบบเกียร์ อัตราสิ้นเปลือง
Diesel(1995cc)AT5 L/100km
Petrol(1998cc)AT1.8 L/100km

รถแนะนำสำหรับคุณ

รุ่นรถ BMW10 อันดับรถซีดาน10 อันดับรถเบนซินอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
Kia

EV9

THB 3,899,000

ชมรุ่นรถ
XPeng

G6

THB 1,060,000 - 1,410,000

ชมรุ่นรถ
ฮิต
Deepal

L07

THB 1,329,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ

ระบบปรับอากาศของBMW 5 Series Sedanมีอะไรบ้าง

มีระบบปรับอากาศและรุ่นย่อยของBMW 5 Series Sedan ได้แก่

รุ่นย่อยBMW 5 Series Sedan 530e Luxury2020 2.0 BMW 5 Series Sedan 530e M Sport2020 2.0 BMW 5 Series Sedan 520d M Sport
ระบบปรับอากาศใช่ใช่ใช

ที่พักแขนตรงกลางเบาะหลังของBMW 5 Series Sedanมีอะไรบ้าง

มีที่พักแขนตรงกลางเบาะหลังและรุ่นย่อยของBMW 5 Series Sedan ได้แก่

รุ่นย่อยBMW 5 Series Sedan 530e Luxury2020 2.0 BMW 5 Series Sedan 530e M Sport2020 2.0 BMW 5 Series Sedan 520d M Sport
ที่พักแขนตรงกลางเบาะหลังใช่ใช่ใช

พนักพิงด้านคนขับปรับ สูง / ต่ำของBMW 5 Series Sedanมีอะไรบ้าง

มีพนักพิงด้านคนขับปรับ สูง / ต่ำและรุ่นย่อยของBMW 5 Series Sedan ได้แก่

รุ่นย่อยBMW 5 Series Sedan 530e Luxury2020 2.0 BMW 5 Series Sedan 530e M Sport
พนักพิงด้านคนขับปรับ สูง / ต่ำใช่ใช่