Pickup ตัวถัง | 2.0 - 3.0L ปริมาตรกระบอกสูบ | AT รูปแบบเกียร์ | 213 - 397PS กำลังสูงสุด |
2023 - 2024 Ford Ranger Raptorมีให้เลือกถึง 3รุ่นย่อยพร้อมราคาเริ่มต้นอยู่ที่ THB 1,690,000 ถึง THB 1,869,000 รุ่นเริ่มต้นของ Ranger Raptor คือ Ford Ranger Raptor 2.0L EcoBlue 2022ที่ราคา THB 1,690,000 ส่วนรุ่นท็อปสุด Ford Ranger Raptor มาพร้อมราคาTHB 1,869,000
THB 1,729,000
THB 17,434 /เดือนTHB 1,690,000
THB 17,041 /เดือน*สำหรับอ้างอิงเท่านั้น คุณสามารถปรับเครื่องคิดเลข ตามสถานการณ์จริงของคุณได้
Ford Ranger Raptor 2025 มีรูปภาพและรูปถ่ายทั้งหมด 350 รูป รวมรูปภาพ & รูปถ่ายภายใน 168 รูป รูปภาพ & รูปถ่ายภายนอก 144 รูป รูปเครื่องยนต์และทอื่นๆ 38 รูป ชมมุมมองด้านหน้า มุมมองด้านหลัง ด้านข้างและมุมมองด้านบนของ Ford Ranger Raptor 2025 รุ่นใหม่ได้ที่นี่.
เกรดPickup | ตัวถังPickup | รูปแบบเกียร์AT | ปริมาตรกระบอกสูบ2.0 - 3.0L | กำลังสูงสุด213 - 397PS | จำนวนที่นั่ง5 |
ฟอร์ด ค่ายรถสัญชาติอเมริกันในประเทศไทย เปิดตัว 2020 ฟอร์ด เรนเจอร์ ราคาเริ่มต้นในรุ่นตอนเดียวหรือสแตนดาร์ดแค็บอยู่ระหว่าง 559,000 – 649,000 บาท เรนเจอร์ รุ่น 2 ประตูหรือโอเพ่นแค็บมีราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 559,000 – 739,000 บาท และเรนเจอร์ รุ่น 4 ประตูหรือดับเบิลแค็บมีราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 789,000 – 1,699,900 บาท โดยรุ่นสูงสุดมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ TDCI Bi-Turbo มีพละกำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร
ฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นรถกระบะที่ผลิตโดยฟอร์ด ในประเทศไทย ทำตลาดในกลุ่มรถกระบะที่มีคู่แข่งมากมาย โดยได้รับการปรับโฉมล่าสุดในช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมา เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบมีอัตราการประหยัดน้ำมันประมาณ 10 – 11 กม.ต่อลิตร
แม้จะเปิดตัวมานานแล้ว แต่ฟอร์ด (Ford) ก็ยังเดินหน้าจัดเต็มเพิ่มออพชั่นและชุดแต่งให้กับรถปิกอัพรุ่นท๊อปของพวกเขาอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ ดับเบิลแค็บ ไวล์ดแทร็ค (New 2020 Ford Ranger Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak) ที่ยังครองการเป็นผู้นำในด้านราคาจำหน่ายที่สูงที่สุดสำหรับรถปิกอัพรุ่นมาตรฐาน
เพราะหากไม่นับเจ้าฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ (Ford Ranger Raptor) ที่นับเป็นโครตแห่งรถปิกอัพราคา 1.69 ล้านบาทแล้ว เจ้าปิกอัพรุ่นที่ว่านี้ก็คือรุ่นที่แพงที่สุดในวงการปิกอัพ ด้วยสนนราคาค่าตัว 1.265 ล้านบาท และแม้จะมีใครหาญกล้าทำราคาพรีเมียมระดับไหนมา ก็ยังไม่ขึ้นมาถึงตัวเลขของฟอร์ดอยู่ดี
อะไรคือความดีงามของรถที่ทำให้ฟอร์ดกล้าตั้งราคาจำหน่ายรถรุ่นนี้แพงขนาดนี้ ทั้งที่รถเองก็มีอายุอานามมาระดับหนึ่ง แถมที่สำคัญก็คือ เราเห็นรถกระบะรุ่นนี้ของฟอร์ดวิ่งเต็มท้องถนนไปหมด ไปลองขับกับพวกเราดูแล้วจะรู้ว่าค่าตัวที่จ่ายไปนั้น จะว่าแพงก็แพงนะ แต่ถ้าจ่ายไหว แล้วจะไปมองคันอื่นทำไมล่ะ
ฟอร์ด เรนเจอร์ ดับเบิลแค็บ ไวล์ดแทร็ค รุ่นเดียวที่ใช้เครื่องยนต์ ไบ-เทอร์โบ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เคาะราคาจำหน่ายที่ 1.265 ล้านบาท
ตารางรายละเอียดทางเทคนิค | |
---|---|
ขนาดตัวถัง (กว้างxยาวxสูง) | 1,867x5,434x1,848 มิลลิเมตร |
ความยาวฐานล้อ | 3,220 มิลลิเมตร |
เครื่องยนต์ | ดีเซล ไบ-เทอร์โบ |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 1,996 ซีซี. |
กำลังสูงสุด | 213 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง | อัตโนมัติ 10 จังหวะ |
ช่วงล่างด้านหน้า | อิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง |
ช่วงล่างด้านหลัง | แหนบซ้อน |
ระบบบังคับเลี้ยว | พาวเวอร์แบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า |
ความจุถังน้ำมัน | 80 ลิตร |
มาตรฐานไอเสีย | ยูโร 4 |
เช็คสเปค
แม้จะออกแบบชุดแต่งมาเพื่อเน้นความสวยงามที่เพิ่มมากขึ้น แต่คนออกแบบของฟอร์ดนั้นก็ทำให้ชุดแต่งไวล์ดแทร็คสามารถใช้งานได้จริง ไม่เกะกะกีดขวางเมื่อนำรถเข้าไปใช้งานออฟโรด แม้จะมีคนติงเรื่องชุดแต่งฝากระบะที่ลดพื้นที่การบรรทุกลง แต่ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาของคนที่ซื้อไปแต่อย่างใด
มิติตัวถังของ Ranger มีความยาว 5434 มม. ความกว้าง 1867 มม. ความสูง 1848 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 3220 มม.
ชุดแต่งของไวล์ดแทร็คที่ว่า รวมไปถึงกระจังหน้าและกันชนหลังพิเศษของรุ่นโดยเฉพาะ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวและไฟส่องสว่างข้างตัวรถ ที่สามารถพับและปรับด้วยระบบไฟฟ้าได้ รวมไปถึงบันไดข้างสีดำที่ตกแต่งด้วยกาบสีเงิน
ล้ออัลลอย 18 นิ้วลายใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยฝากระบะหลังที่มาพร้อมระบบผ่อนแรงอีซี่ลิฟท์ พื้นปูฝากระบะท้าย มาพร้อมช่องต่อไฟ 12 โวลต์ที่ด้านหลัง สำหรับการประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง
ติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ ไฟตัดหมอกหน้าแบบแอลอีดี ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ มาพร้อมสปอร์ตบาร์และราวหลังคา ซึ่งทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทร็คนั้น สวยงามและสามารถนำไปใช้งานได้จริง
ห้องโดยสารภายในของฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทร็คนั้น ได้รับการนับว่าเป็นห้องโดยสารของรถปิกอัพที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่ลงตัว ตำแหน่งการวางอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการใช้งาน หรือความสะดวกสบายในห้องโดยสารก็ถือว่ายืนหนึ่งมาทั้งสิ้น
การตกแต่งห้องโดยสารเป็นหนังสลัลผ้าและเดินด้ายสีส้มทั้งคันรถ ไล่ไปตั้งแต่แผงคอนโซล แดชบอร์ด ไปจนถึงเบาะที่นั่ง ซึ่งด้ายสีส้มนี้ก็จะเปลี่ยนโทนสีไปตามสีส้มที่เป็นสีขายของไวล์ดแทร็คแต่ละรุ่น ที่ทำขายมาก็ปาเข้าไป 3 เจนเนอเรชั่นแล้ว ทั้งคอนโซลกลางใช้เส้นตรงเป็นส่วนใหญ่ มีหน้าจอ LCD แบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้วอยู่ตรงกลาง ซึ่งจะเป็นสะดวกในการใช้งาน
การออกแบบของแดชบอร์ดนั้นมีความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก โดยไม่ต้องใช้ตัวชี้วัดทางกลแบบดั้งเดิม มีตัวชี้วัดความเร็วตัวชี้เชิงกลที่มีขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลาง อีกทั้งยังมีหน้าจอ LCD วางอยู่ทั้งสองด้านของมาตรวัดความเร็ว เพื่อแสดงข้อมูลที่หลากหลายของรถ
เบาะที่นั่งคนขับแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง กุญแจรีโมทพร้อมปุ่มสตาร์ทรถ คอนโซลกลางมีระบบทำความเย็น พร้อมช่องต่อไฟ 12 โวลต์ 3 ตำแหน่งและ 230 โวลต์ 1 ตำแหน่ง เสียบปลั๊กชาร์ตไฟทำงานได้ตลอดการเดินทางอย่างต่อเนื่อง
พวงมาลัยและหัวเกียร์พัฒนามาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา สวิตช์ควบคุมมากมายบนพวงมาลับ แสดงผลผ่านหน้าจอทีเอฟทีคู่ขนาด 4.2 นิ้ว จอกลางขนาดใหญ่ใช้ควบคุมทุกอย่างในรถได้อย่างง่ายดาย ซึ่งห้องโดยสารใหม่นี้ก็ถือว่ารักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้ต่อไป
แพลตฟอร์มด้านหลังของ เรนเจอร์ มีขนาดเท่ากับรถกระบะทั่วไปที่มีขนาดตัวรถเท่ากัน ซึ่งจะไม่ค่อยมีข้อดีเด่นที่ชัด
5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อ 2019 Ford Ranger Double Cab 2.0 Bi-Turbo Wildtrak รุ่นท็อปสุดจี๊ด
ฟอร์ดนั้นติดตั้งระบบการช่วยเหลือด้านการขับขี่และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาอย่างครบครันและเหนือชั้นกว่ากระบะยี่ห้ออื่น ๆ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมระยะห่างของรถ ที่ทำงานร่วมกับระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน และมาพร้อมระบบช่วยจอดอัจฉริยะอีกด้วย
สำหรับด้านความปลอดภัยนั้น ฟอร์ด เรนเจอร์มาพร้อมคานเหล็กนิรภัยด้านข้าง ถุงลมนิรภัย 6 จุด ที่ด้านหน้า ด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา ทำให้การขับขี่แบบออฟโรดทำได้ง่ายขึ้น
มาพร้อมระบบตรวจการชนด้านหน้า ที่สามารถตรวจจับการชนคนเดินถนน ทำงานร่วมกับระบบเบรกอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด แถมตัวรถของฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทร็คนั้น ยังมีความสามารถในการลุยน้ำ 800 มิลลิเมตรเหมือนกับเรนเจอร์ทุกรุ่น
ระบบเครื่องเสียงของรถนั้นรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้งแอปเปิล คาร์เพลย์และแอนดรอยด์ ออโต้ มาพร้อมระบบนำทาง ระบบสั่งงาน SYNC3 รองรับภาษาไทย ลำโพง 6 ตำแหน่ง และยังมีเครื่องเล่นซีดี/เอ็มพี3 ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วย
เครื่องยนต์ไบ-เทอร์โบรุ่นเดียวที่นำมาติดตั้งในฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทร็ค คือรุ่นเดียวกับที่ใช้ในพี่ใหญ่อย่างแร็พเตอร์ โดยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร มาพร้อมเทอร์โบคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ เรียกกำลังอย่างต่อเนื่องทั้งการขับขี่บนถนนและแบบออฟโรด
สมรรถนะของรถนั้นดุเดือดอย่างต่อเนื่องด้วยสมรรถนะสูงสุด 213 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่รอบต่ำตั้งแต่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที เรียกว่าสามารถให้อัตราเร่งแซงที่ดีและดุเดือดกันตั้งแต่กดคันเร่ง
การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ที่ยังมีคนสงสัยถึงความทนทานของเกียร์ลูกนี้อยู่ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบใดใด นอกจากการรับรู้ได้ว่าเกียร์ลูกนี้ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยม และการชิฟท์เกียร์ไปมาในการขับขี่ก็ทำได้อย่างราบเรียบและสนุกสนานไม่น้อย
เรนเจอร์ ทั้งรุ่นมีโหมดระบบขับเคลื่อน 2 ประเภทให้เลือก ได้แก่ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4ล้อ
สมรรถนะของรถนั้นดุเดือดอย่างต่อเนื่องด้วยสมรรถนะสูงสุด 213 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่รอบต่ำตั้งแต่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที เรียกว่าสามารถให้อัตราเร่งแซงที่ดีและดุเดือดกันตั้งแต่กดคันเร่ง
เรนเจอร์มีเครื่องยนต์เทอร์โบเดี่ยว 2.0L คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ได้รับผลดีในการใช้พลังงาน เมื่อขับบนถนนภูเขา พลังงานออกมาได้ราบเรียบและไม่ได้เกิดปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ในขณะที่ขับในเขตเมือง การใช้แรงบิดต่ำที่ดีเยี่ยมของเครื่องยนต์ดีเซลทำให้การขับขี่ด้วยความเร็วต่ำนั้นเป็นไปได้ง่าย
การใช้งานของระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดนั้นน่าชื่นชมมาก เนื่องจากมีหลายเกียร์และมีความเร็วรอบเครื่องยนต์ต่ำเมื่อขับด้วยความเร็วสูงและคงที่ ในถนนของเมืองที่มีรถเร่งและลดความเร็วอยู่เสมอนั้น กระปุกเกียร์สามารถเข้าใจจุดประสงค์ของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี และเลื่อนเกียร์ให้ขึ้นและลงได้ทันเวลา
ในการขับขี่ประจำวัน ผู้ขับขี่สามารถหมุนพวงมาลัยได้ง่าย แต่ว่าในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง การหมุนพวงมาลัยจะค่อย ๆ หนักขึ้น ซึ่งมันจะเอาใจผู้ขับขี่ แม้ว่าขนาดตัวรถของ เรนเจอร์ ใหญ่มาก และมีจุดศูนย์ถ่วงสูง แต่ก็จะทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบายในการขับขี่
เทียบกระบะค่าตัว 1 ล้านบาทเศษ Ford Ranger vs Mitsubishi Triton
ฟอร์ด เรนเจอร์ ดับเบิลแค็บ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ไวล์ดแทร็ค คือรถกระบะที่ค่าตัวสูงถึง 1.265 ล้านบา แน่นอนว่าราคาระดับนี้ หากบอกว่าซื้อปิกอัพมาขับ หลาย ๆ คนอาจจะเกาหัวว่าจำเป็นไหมที่จะต้องจ่ายขนาดนี้ และแพงขนาดนี้จะกล้าเอาไปลุยจริง ๆ หรือ
แต่หากไปไล่ดูอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ที่ฟอร์ดติดตั้งมาให้ ก็จะพบว่าระบบเหล่านี้นั้น หาได้ยากที่จะมีมาอย่างครบครันในรถกระบะรุ่นอื่น ๆ และหลายระบบนั้น สามารถนำไปเทียบเคียงกับบรรดารถยนต์หรูหราที่ราคาไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทอย่างแน่นอน
เชื่อว่ากลุ่มลูกค้าที่จะซื้อรถคันนี้ ก็คงไม่ใช่กลุ่มที่อยากจะได้กระบะบ้าน ๆ สำหรับการใช้งานขนของหรือส่งสินค้าทั่ว ๆ ไป แต่กลุ่มลูกค้าที่อยากลองขับรถกระบะ แต่ต้องเป็นกระบะที่ให้ความมั่นใจในการขับขี่ และตอบสนองความต้องการของพวกเขาในระดับนั้นได้ต่างหาก
ถ้าถามว่าฟอร์ดประสบความสำเร็จกับกระบะที่มาพร้อมชุดแต่งพิเศษราคาล้านขึ้นหรือไม่ ก็คงต้อวกวาดตาไปทั่วท้องตลาดในขณะนี้ จะพบว่าผู้ผลิตรถปิกอัพเกือบทุกราย ล้วนแล้วแต่ทำรถปิกอัพราคาเกิน 1 ล้านบาทกันทั้งสิ้น และแน่นอนว่าเรนเจอร์ ไวล์ดแทร็คคือผู้นำในตลาดนี้อย่างแท้จริง
สิ่งที่แตกต่างกันไปก็คือ ฟอร์ดนั้นมีระบบต่าง ๆ ติดตั้งในรถมาตั้งแต่เริ่มต้น และหลาย ๆ ระบบอุปกรณ์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเพิ่มเติมเข้าไปได้ในภายหลัง เพราะฉะนั้นหากมีความสามารถในการจ่ายไหว และต้องการรถปิกอัพไฮโซสักคันไว้ขับหล่อ ๆ ก็ต้องจัดคันนี้ล่ะครับ
เปิดจุดเด่น-จุดด้อย Ford Ranger กระบะเกิดมาแกร่งทั่วแผ่นจริงหรือ?
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2025 Ford Ranger Raptor รุ่นใหม่ในไทยอยู่ที่ 11.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร,และ ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Ford Ranger Raptor Double Cab 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT 2022 อยู่ที่ 11.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Ford Ranger Raptor 2.0L EcoBlue 2022 อยู่ที่ 11.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, และ ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2022 Ford Ranger Raptor X อยู่ที่ 11.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร.
ประเภทเชื้อเพลิง | รูปแบบเกียร์ | ผู้ผลิตเรียกร้อง |
---|---|---|
Diesel(1996cc) | AT | 11.5 L/100km |
Diesel(2956cc) | AT | 11.5 L/100km |
Ford Ranger Raptor 2025 มีทั้งหมด 4 สีให้เลือกในประเทศไทย ได้แก่ FORD PERFORMANCE BLUE, ARCTIC WHITE, ABSOLUTE BLACK, CONQUER GREY.
FORD PERFORMANCE BLUE
Ford Ranger Raptor แข่งขันกับ Ford Ranger, Ram 2500, Ram 1500, Ram 3500, Ram 1500 Classic.
1 รุ่นย่อย
1 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
5 รุ่นย่อย
2 รุ่นย่อย
9 รุ่นย่อย
9 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
2 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
2 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
4 รุ่นย่อย
2 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
5 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
1 รุ่นย่อย
4 รุ่นย่อย
5 รุ่นย่อย
มีช่องจ่ายไฟสำรองและรุ่นย่อยของFord Ranger Raptor ได้แก่
รุ่นย่อย | Ford Ranger Raptor 2.0L EcoBlue |
ช่องจ่ายไฟสำรอง | ใช่ |
มีกระจกไฟฟ้าด้านหน้าและรุ่นย่อยของFord Ranger Raptor ได้แก่
รุ่นย่อย | Ford Ranger Raptor 2.0L EcoBlue |
กระจกไฟฟ้าด้านหน้า | ใช่ |
มีไฟเตือนสถานะเครื่องยนต์และรุ่นย่อยของFord Ranger Raptor ได้แก่
รุ่นย่อย | Ford Ranger Raptor 2.0L EcoBlue |
ไฟเตือนสถานะเครื่องยนต์ | ใช่ |