Executive เกรด | SUV ตัวถัง | AT รูปแบบเกียร์ | 2.0L ปริมาตรกระบอกสูบ |
2024 - 2025 Land Rover Range Rover Velar มีให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อยพร้อมราคาเริ่มต้นอยู่ที่ THB 4,800,000 ถึง THB 5,500,000 รุ่นเริ่มต้นของ range-rover-velar คือ 2020 Land Rover Range Rover 2.0 Velar Base ที่ราคา THB 4,800,000 ส่วนรุ่นท็อปสุด Land Rover Range Rover Velar มาพร้อมราคา THB 5,500,000.
Land Rover Range Rover Velar 2024 มีรูปภาพและรูปถ่ายทั้งหมด 37 รูป รวมรูปภาพ & รูปถ่ายภายใน 14 รูป รูปภาพ & รูปถ่ายภายนอก 18 รูป รูปเครื่องยนต์และทอื่นๆ 5 รูป ชมมุมมองด้านหน้า มุมมองด้านหลัง ด้านข้างและมุมมองด้านบนของ Land Rover Range Rover Velar 2024 รุ่นใหม่ได้ที่นี่.
Land Rover ได้ทำตลาด Range Rover ซึ่งเป็น SUV ไซส์ใหญ่สุดและหรูสุดของค่ายมาอย่างยาวนาน ในขณะเดียวกันก็ได้ชิมลางตลาดโดยการทำ Premium Urban SUV สำหรับคนเมืองในรุ่น Evoque ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม เพื่อเป็นการอุดช่องว่างไซส์ตัวถังขนาดกลางที่ Discovery อาจจะหรูไม่พอ จึงได้ส่ง Range Rover Velar เข้ามาทำตลาด SUV พรีเมี่ยมไซส์กลางเพื่อตอบสนองคนที่ต้องกลาง SUV หรู 5 ที่นั่งไซส์กำลังพอดี โดยใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Jaguar F-Pace สำหรับประเทศไทย Velar ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร เครื่องเดียวแต่แบ่งการตกแต่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย โดยเปิดราคาที่ 5.99 ล้าน ถึง 6.99 ล้าน แต่ตั้งแต่ปลายปี 2018 ได้มีการปรับลดราคาเริ่มต้นลงเพื่อทำให้แข่งขันในตลาดได้ง่ายขึ้น
Range Rover Velar S ราคาเริ่มต้น 5,999,000 บาท ปรับราคาเป็น 4,900,000 บาท
Range Rover Velar S R-Dynamic ราคาเริ่มต้น 6,499,000 บาท ปรับราคาเป็น 5,900,000 บาท
Range Rover Velar HSE ราคาเริ่มต้น 6,999,000 บาท เลิกทำตลาดรุ่นย่อยนี้
Range Rover Velar เหมือนเป็นการนำส่วนผสมระหว่างด้านหน้าของพี่คนรอง Range Rover Sport และด้านท้ายของ Evoque มาขัดเกลาให้ออกมาเป็นรถรุ่นใหม่ที่ลงตัวและดูทันสมัย ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูอันเป็นเอกลักษณ์รมดำ ไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมรับกับกระจังหน้าพร้อมไฟเดย์ไลท์และไฟหน้าแบบ LED มีตัวอักษร Range Rover แปะอยู่บนฝากระโปรงหน้า มีช่องดักลมด้านล่างขนาดใหญ่และช่องดักลมซ้ายขวาโดยในรุ่นกลางขึ้นมาจะมีไฟตัดหมอกบนช่องดักลมด้านข้างด้วย ด้านข้างของ Velar ดูสวยกว่าพี่น้องทุกรุ่นด้วยครึ่งคันบนเป็นสีดำซึ่งเป็นการตัดทูโทน มือจับซ่อนอยู่ในประตูโดยจะยืดออกมาเมื่อคุณพกกุญแจเดินเข้าไปใกล้รถเท่านั้น มีช่องหลอกด้านข้างบริเวณเหนือซุ้มล้อหน้ายาวมาถึงประตูหน้าดูเท่ แนวหลังคาเริ่มลาดหลังจากเสา C ขึ้นไปและเสา D ขนาดใหญ่ที่ดูลงตัว รุ่นเริ่มต้นมาพร้อมกับล้อขนาด 21นิ้ว และรุ่นท้อปมากับขนาด 22นิ้ว ใหญ่สะใจแม้แต่รุ่นล่าง ด้านท้ายไฟเป็นตัว U 2ตัวติดกัน มีคำว่า Range Rover แปะอยู่ตรงกลาง มีการตัดดำลากยาวจากไฟท้ายด้านหนึ่งไปถึงอีกด้านหนึ่ง สเกิร์ตล่างมีแถบโครเมี่ยมสี่เหลี่ยมคางหมูคว่ำตัดเหมือน Evoque ท่อไอเสียเป็นท่อเดี่ยวแยกซ้ายขวา โดยรวมคือดูลงตัวกว่า Evoque ตัวปัจจุบันและไซส์กำลังพอเหมาะ
มิติตัวรถ Range Rover Velar | |||
---|---|---|---|
รุ่น | Range Rover Velar | ||
ความยาว(มม.) | 4,803 | ||
ความกว้าง(มม.) | 2,032 | ||
ความสูง(มม.) | 1,665 | ||
ระยะฐานล้อ(มม.) | 2,874 | ||
ความสูงใต้ท้องรถ (มม.) | 213 |
การออกแบบภายในมาพร้อมหน้าจอดิจิตอลขนาดใหญ่ 3 ตำแหน่งทั้งบริเวณมาตรแสดงความเร็ว จอกลางแสดงระบบความบันเทิงของรถ (Pivi Pro) และจอบริเวณเหนือคอนโซลเกียร์ที่เป็นที่ทำงานของระบบปรับอากาศอัตโนมัติและโหมดการขับขี่ของตัวรถ มีการใช้วัสดุบุนุ่มทั่วทั้งคอนโซลและแผงประตูของรถทำให้บรรยากาศภายในดูพรีเมี่ยม โดยช่องแอร์กลางและไฟฉุกเฉินอยู่เหนือจอ Pivi Pro โดยตัวจอเองสามารถปรับระดับการเงยหน้าจอให้เข้ากับคนขับได้ พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นแบบ 4 ก้านหุ้มหนัง หัวเกียร์เป็นแบบหมุนตามสไตล์ Range Rover เบาะนั่งหุ้มหนังขนาดใหญ่และปรับด้วยไฟฟ้า เบาะหลังเป็นแบบ 3 ที่นั่งโดยตรงกลางสามารถดึงเบาะมาเป็นที่พักแขนได้ และเบาะหลังสามารถปรับเอนได้เพื่อเพิ่มความสบายในการนั่ง มีช่องแอร์ให้ผู้โดยสารตอนหลัง ภายในโดยรวมคือไม่ต่างกับพี่น้องร่วมค่าย คือสวยหรู และมีพื้นที่ให้ผู้โดยสารแต่ละคนได้ดี
ของเล่นต่างๆในเจ้า Velar ที่มีมาให้ได้แก่ ระบบไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติพร้อมระบบปรับไฟสูงต่ำอัตโนมัติ และมีระบบส่องสว่างต่อเมื่อจอดรถเข้าบ้าน (Follow Me Home) ระบบปรับน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบเข้าออกรถแบบไม่ต้องหยิบกุญแจ (Keyless Entry) ระบบเปิดปิดฝาท้ายไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้มือ เบาะนั่งปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร กระจกมองข้างแบบปรับลดแสงอัตโนมัติพร้อมระบบไล่ฝ้า กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ระบบเครื่องเสียงจาก Meridian 11ลำโพง 380 วัตต์ ระบบแผนที่นำทางในตัว และสำหรับรุ่น HSE จะได้เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบนวดและระบบอปรับอากาศตัวเบาะได้ว่าจะเอาเบาะอุ่นหรือเบาะเย็น เครื่องเสียงจะเพิ่มเป็น 17 ลำโพง 825 วัตต์ กระหึ่มทั้งห้องโดยสาร
Range Rover ทำตลาด Velar ในประเทศไทยด้วยเครื่องยนต์เพียงแบบเดียวได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 4000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 1500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะจาก ZF ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ตามเอกลักษณ์ประจำค่าย สำหรับสมรรถนะของเจ้า Velar สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ได้ภายใน 8.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 210 กม./ชม. สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยสามารถทำได้ที่ 17.9 กม./ลิตร โดยมีอัตราการปล่อยไอเสียเฉลี่ยที่ 145 กรัม/กม.
ในฐานะผู้ขับขี่ตำแหน่งการขับขี่ทำได้ดี การจะใช้งานอุปกรณ์หยิบจับได้สะดวก สำหรับสมรรถนะรถถ้าเทียบกับคู่แข่งจากยุโรปเหมือนกันต้องถือว่าไม่เน้นแรง แต่เน้นความนุ่มนวลในการขับมากกว่า อัตราเร่งใช้ได้เน้นการไหลขึ้นแบบต่อเนื่องมากกว่า ไม่กระชากหลังติดเบาะ พวงมาลัยนิ่งให้ความมั่นใจได้เมื่อขับที่ความเร็วสูง ระบบขับเคลื่อนให้การยึดเกาะที่ดีมาก มั่นใจ แต่โค้งแคบต้องอาศัยความระมัดระวังบ้าง โหมด Sport จะทำให้การเร่งดีขึ้นมาหน่อยเดียวแต่ช่วงล่างก็ไม่ได้แข็งขึ้นมาแต่อย่างใด โดยรวมคือเน้นการขับขี่ที่นุ่มนวล นิ่ง ลุยทางออฟโรดได้ดี แต่ไม่เน้นซิ่ง
สำหรับห้องโดยสารต้องบอกว่าค่อนข้างโปร่งสบาย พื้นที่เหนือศีรษะมีมาให้เพียงพอ พื้นที่วางขาโอเค ตำแหน่งการนั่งสบายเบาะหลังสามารถปรับเอนได้ด้วย การเก็บเสียงยังมีเสียงลมลอดเข้ามาพอสมควรแต่สามารถเปิดเพลงกลบได้เพราะเครื่องเสียงที่ให้มาคุณภาพดีมาก ตั้งแต่รุ่นกลางขึ้นมาจะได้ Sunroof ด้วยที่จะช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูโปร่งขึ้นด้วย
สำหรับครอบครัวไหนที่ต้องการรถไว้สำหรับเดินทางไกลและสามารถขับในทางทุรกันดารแบบกึ่งๆโหดได้ โดยที่ยังคงความนุ่มนวลและความสุนทรีย์ในการเดินทางไว้สำหรับทุกคนในครอบครัว เจ้า Range Rover Velar นี่ถือว่าเป็นคำตอบ ด้วยขนาดตัวถังที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ดีไซน์รูปทรงทันสมัย ภายในหรูหรา ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีโหมดสำหรับสภาพถนนต่างๆทั้งขับลุยน้ำยันลุยหิมะ ระบบความบันเทิงที่มาพร้อมกับลำโพงกำลังขับสูง และเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้แรงบิดเหมาะสมกับภาระของงาน แม้ราคาเปิดตัวจะค่อนข้างแพงแต่แลนด์โรเวอร์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ปรับลาคาลดลง 500,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าที่ยังลังเลตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ถ้าคุณไม่ได้ชอบซิ่งและมีขับไปลุยป่าบ้าง จัดไป
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2024 Land Rover Range Rover Velar รุ่นใหม่ในไทยอยู่ที่ 5.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรถึง 5.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรและตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2020 Land Rover Range Rover 2.0 Velar S R-Dynamic อยู่ที่ 5.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Land Rover Range Rover Velar S อยู่ที่ 5.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, และตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2020 Land Rover Range Rover 2.0 Velar Base อยู่ที่ 5.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร.
ประเภทเชื้อเพลิง | รูปแบบเกียร์ | อัตราสิ้นเปลือง |
---|---|---|
Diesel(1999cc) | AT | 5.6 L/100km |
Diesel(1999cc) | AT | 5.7 L/100km |
มีระบบปรับอากาศและรุ่นย่อยของLand Rover Range Rover Velar ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 2.0 Land Rover Range Rover Velar S R-Dynamic | 2020 2.0 Land Rover Range Rover Velar Base | Land Rover Range Rover Velar S |
ระบบปรับอากาศ | ใช่ | ใช่ | ใช่ |
มีเบาะผ้าและรุ่นย่อยของLand Rover Range Rover Velar ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 2.0 Land Rover Range Rover Velar S R-Dynamic | 2020 2.0 Land Rover Range Rover Velar Base | Land Rover Range Rover Velar S |
เบาะผ้า | ไม่มี่ | ไม่มี่ | ไม่มี่ |
มีระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะและรุ่นย่อยของLand Rover Range Rover Velar ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 2.0 Land Rover Range Rover Velar S R-Dynamic | 2020 2.0 Land Rover Range Rover Velar Base | Land Rover Range Rover Velar S |
ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ | ใช่ | ใช่ | ใช่ |