รุ่นย่อยและราคา Mercedes-Benz E-Class Coupe
Ownership Cost Mercedes-Benz E-Class Coupe
* สำหรับอ้างอิงเท่านั้น คุณสามารถปรับเครื่องคิดเลข ตามสถานการณ์จริงของคุณได้
ข่าวสาร Mercedes-Benz E-Class Coupe


• Mercedes-Benz E-Class Coupe
ราคา Mercedes-Benz CLE ขายไทยเริ่มต้น 3.95 - 5.25 ล้านบาท สปอร์ตคูเป้พลัง Mild-Hybrid 449 แรงม้า2024 Mercedes-Benz CLE (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลอี) เจเนเรชั่นใหม่ ควบรวม C-Coupe และ E-Coupe เข้าไว้ด้วยกัน เปิดตัวในไทยแล้วแบบประกอบในประเทศ ขายด้วย 2 รุ่นย่อยในราคาดังนี้ CLE 300 4Matic Coupé AMG Dynamic...
Mr.Argus
07.09.2024


• Mercedes-Benz E-Class Coupe
เผยโฉม 2024 Mercedes-Benz CLE ยุบรวมคูเป้สองรุ่น พร้อมขุมพลัง 6 สูบ 375 แรงม้า2024 Mercedes-Benz CLE (2024 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลอี) เผยโฉมแล้วอย่างเป็นทางการ เป็นการยุบ C-Class Coupe และ E-Class Coupe รวมเป็นรุ่นเดียว และค่ายดาวสามแฉกเตรียมเปิดจำหน่ายอีกครั้งในต้นปีหน้า มิติตัวถังระหว่าง C-Class และ E-Class Coupe ...
Salin
10.07.2023


• Mercedes-Benz E-Class Coupe
รถสปอร์ต 7 รุ่นนี้เตรียมเลิกขายในปี 2024 เป็นรถดีที่ค่ายรถไม่อยากขายอีกต่อไปรถสปอร์ต ถูกสร้างมาเพื่อเป็นรถให้ความเร้าใจ ตื่นเต้น แก่เจ้าของรถ รวมถึงเป็นของสะสมสำหรับคนมีฐานะ ด้วยราคาที่แพง และปริมาณที่ผลิตออกมาน้อย แต่ก็มีรถสปอร์ต 6 รุ่นที่คนเลิกซื้อแล้ว ทำให้ต้องเลิกทำตลาดไปในปีหน้า Audi TT Audi TT (อาวดี้ ทีที) มันเคยเป็นโรสเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงมากในยุค Y2K ด้วยรูปทรงกะทัดรัด...
Mr.Argus
09.05.2023


• Mercedes-Benz E-Class Coupe
Mercedes-Benz ยืนกรานเหตุผลหั่นรถสปอร์ตทิ้งจนเกือบเกลี้ยงMercedes-Benz CLE Coupe Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ปรับกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะทำให้รถสปอร์ตคูเป้และเปิดประทุนลดจาก 8 รุ่น เหลือเพียง 3 รุ่น รถสปอร์ตรุ่นใหญ่อย่าง S-Class Coupe และ Cabriolet ถูกยุติการจำหน่ายก่อนแทนที่ด้วย Mercedes-AMG SL ขณะที่...
KS
04.10.2022


• Mercedes-Benz E-Class Coupe
5 รถหรูมือสอง น่าใช้ ทันสมัยไม่ตกรุ่น ราคาไม่ถึงล้านรวมรถหรูมือสองที่ยังดูแล้วไม่ตกรุ่น ทุกแบบตัวถัง มีรูปทรงเข้ากับยุคสมัย มีพื้นฐานที่ใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน มีเอกลักษณ์แบบที่รถรุ่นใหม่ก็ทดแทนไม่ได้ หาซื้อโดยใช้งบไม่เกิน 1 ล้านบาท ให้คุณได้สัมผัสรถหรูราคาถูกที่มีด้วยกัน 5 รุ่นโดยไม่เรียงลำดับดังนี้ ซื้อรถมือสองกับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพ 175 จุด พร้อมรับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาคงที่...
Mr.Argus
12.07.2022


• Mercedes-Benz E-Class Coupe
รวม 10 รถใหม่เด่นสุด ในงานมอเตอร์โชว์ 2021 มีสเปคและราคา ยกเว้น Great Wall Motorงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2021 มีรถใหม่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในไทยหลายรุ่น เราจึงขอรวบรวมรถใหม่ 10 รุ่นที่เด่นสุด รถที่คนมุงเยอะ พร้อมบอกสเปคและราคาหมดทุกรุ่น ยกเว้น ORA Good Cat ที่อยู่ในรายชื่อรถดัง แต่ยังไม่บอกราคาให้ทราบ BMW M4 BMW M4 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม4)...
Mr.Argus
29.03.2021
รีวิว Mercedes-Benz E-Class Coupe
- ภาพรวม
- ภาพภายนอก
- การออกแบบภายใน
ภาพรวม
2021 Mercedes-Benz E-Class Coupe’
Mercedes-Benz (เมอร์ซีเดส-เบนซ์) ใช้ชื่อ E-Class อย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 1993 โดยก่อนหน้านี้มักจะห้อยคำว่า E ไว้ด้านท้ายชื่อรุ่นมากกว่าหรือเน้นเรียกเป็นรหัสตัวถังแทน โดย E-Class ออกแบบมาให้เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง สำหรับตัวถัง 2 ประตูถ้านับตั้งแต่ปี 1993 เป็นต้นมาจะมี E-Class Coupe’ ใน E-Class เจนเนอเรชั่นแรก ก่อนที่เจนเนอเรชั่นที่สองกับสามจะถูกแยกรุ่นไปใช้ชื่อว่า CLK-Class ก่อนที่จะกลับมาใช้ชื่อว่า E-Class Coupe อีกครั้งในเจนเนอเรชั่นที่ 4 และเจนเนอเรชั่นที่ 5 ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นล่าสุดในปัจจุบัน โดยรหัสตัวถังของรุ่นคูเป้ในเจนปัจจุบันคือรหัส C238 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในโลกปลายปี 2016 ซึ่งมากับบอดี้ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเจนเนอเรชั่นที่แล้วเล็กน้อยแต่ดีไซ์โดยรวมคือหรูหราขึ้นชัดเจนเหมือนนำดีไซน์ของ S-Class Coupe’ มาปรับใช้ได้อย่างลงตัว
สำหรับประเทศไทยได้มีการนำเข้ามาจำหน่ายในตอนแรกได้แก่รุ่น E300 AMG ในเดือนมีนาคมปี 2017 ในราคา 4.54 ล้านบาท อีกหนึ่งปีให้หลังได้ทำตลาดในรุ่น E200 AMG แทนโดยราคาถูกลง 150,000 บาท แต่แรงม้าก็หายไปด้วย และถัดมาอีกหนึ่งปีในปี 2019 เมอร์ซีเดส-เบนซ์ก็ได้นำเข้าตัวแรง AMG E53 4MATIC+ ในราคา 6.99 ล้านบาท หลังจากนั้นเดือนพฤษภาคม 2020 ตลาดโลกก็ได้มีการปรับปรุงโฉมของเจ้า E-Class Coupe ขึ้นมาโดยเป็นการเปลี่ยนดีไซน์ไฟหน้าและสเกิร์ตเล็กน้อยแต่ไฟท้ายยังเหมือนเดิม ซึ่งทางเบนซ์ประเทศไทยก็ได้นำเอา E200 AMG ตัวปรับโฉมแล้วเข้ามาเปิดตัวครั้งแรกในงาน Bangkok Motor Show 2021 ในราคา 4.55 ล้านบาท พร้อมออฟชั่นแน่นเอี๊ยด ทำให้ในปัจจุบันมี E-Class Coupe ทั้ง 2 โฉมจำหน่ายพร้อมกันในไทยโดยโฉมเดิมจำหน่ายในรหัสตัวแรง E53 และโฉมปรับปรุงใหม่ในรหัส E200
ภาพภายนอก
Mercedes-Benz E-Class Coupe’ ตัวรถถูกดีไซน์ให้เน้นความเป็นรถ GT Coupe มากขึ้น ด้านหน้าให้ความรู้สึกว่ารถกว้างด้วยกระจังหน้าที่ออกแบบให้แผ่กว้างไปตามแนวนอน มีสัญลักษณ์ตราดาวขนาดใหญ่แปะบนกระจัง สำหรับรุ่น E53 จะมีเส้นคาดกระจังขนาดใหญ่ สีดำตัดกรอบเงินพร้อมโลโก้ AMG อยู่ในแนวเส้นด้านขวา ส่วนรุ่น E200 จะเป็นเส้นสีเงินบางๆเส้นเดียวคาดโลโก้ กระจังหน้าในรุ่นกรอบปรับโฉมจะมีลักษณะเหมือนปากตอนยิ้ม ขณะที่รุ่นปรับโฉมแล้วจะมีลักษณะที่กลับด้านกันทำให้ดูเหมือนปากคว่ำดูเหมือนโกรธอยู่ กระจังหน้ารุ่น E200 จะได้เป็นแบบ Diamond Grille ที่มีการตกแต่งด้วยจุดสีเงินทั่วทั้งกระจังในขณะที่รุ่น E53 จะได้กระจังตาข่ายสีดำเข้มๆ ช่องดักลมด้านล่างของทั้ง 2 รุ่นใช้ดีไซน์ร่วมกัน โดยมีช่องดักลมด้านข้างซ้ายขวาที่ใหญ่ และช่องดักลมตรงกลางที่กว้างแต่เตี้ยลงหน่อยเพื่อให้มีที่ไว้ติดกรอบป้ายทะเบียน โดยช่องดักลมถูกตกแต่งด้วยกรอบทริมสีดำ และมีครีบสีดำ 2 ครีบตัดบริเวณกลางช่องดะกลมซ้ายขวา ส่วนที่แตกต่างกันจริงๆของทั้ง 2 โฉมคือโคมไฟหน้า สำหรับรุ่น E53 ที่เป็นโฉมเดิมจะได้ไฟเดย์ไลท์แบบ LED 2 เส้น ลากจากมุมโคมด้านบนฝั่งนอกตัวรถมาพาดกลางโคมด้านล่างผ่านโคมลูกแก้ว Multibeam LED ตรงกลางโดยลักษณะโคมจะโค้งรับกับกระจังหน้า ขณะที่รุ่นปรับโฉมแล้วจะมีการเปลี่ยนรูปทรงโคม มีความคล้ายทรงหยดน้ำมากขึ้น ไฟเดย์ไลท์เป็นแบบเส้นเดียวลากยาวจากด้านบนก่อนมาหักศอกลงบริเวณช่วงโคมด้านในที่รับกับกระจัง ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ใช้ร่วมกันกับพวกเบนซ์ยุคใหม่เช่น A-Class เป็นต้น
ด้านข้างตัวรถแทบไม่เห็นความแตกต่างระหว่างสองรุ่น กระจกมองข้างสีดำและกรอบกระจกห้องโดยสารตัดขอบด้วยสีดำเหมือนกัน แนวหลังคาลาดบริเวณหลังเสา B อันบางเฉียบไปจรดฝากระโปรงหลังได้อย่างสวยงาม เสา C ทรงเฉียงทำให้มีพื้นที่กระจกโอเปร่าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง (ถ้ามีคนอยากนั่งหลังนะ) สิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง 2 รุ่นคือล้ออัลลอยโดยในรุ่น E200 จะได้ล้อซี่ลาย AMG 10 ก้านปัดเงาขนาด 19 นิ้ว ที่ดูหรูหราสงยงาม ในขณะที่รุ่น E53 จะได้ล้อลาย 5 ก้านคู่สีทูโทนเงินตัดดำจาก AMG ขนาด 20 นิ้ว ที่ดูสปอร์ตกว่า พร้อมมีโลโก้ TURBO 4MATIC+ แปะอยู่บริเวณเหนือหลังซุ้มล้อหน้า สำหรับด้านท้ายดีไซน์ไฟท้ายของทั้ง 2 โฉมยังคงเหมือนกันโดยเป็นไฟท้ายแนวเรียวยาว มีเม็ด LED เรียงเป็นแถบดูสวยงาม พร้อมไฟเลี้ยวและไฟถอยแบบเส้นบริเวณด้านบนสุดของโคม ถัดลงมาจะมีช่องลม(หลอก) บริเวณด้านซ้ายและขวาของรถหลังซุ้มล้อหลังที่โป่งออกมานิดหน่อย ให้รถดูสปอร์ตและดูกว้าง
สำหรับรายละเอียดที่ต่างกันของ 2 รุ่นอยู่บริเวณชายล่างของสเกิร์ตหลัง โดยรุ่น E200 ชายล่างสีดำด้าน ท่อไอเสียซ้ายขวาทรงใบไม้ตัดกรอบสีเงิน มีดิฟฟิวเซอร์เล็กๆสีดำ 3 ครีบตรงกลางรถโดยมีแถบโครเมี่ยมตัดขอบลากจากท่อไอเสียด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ส่วนรุ่น E53 จะมาพร้อมกับชายล่างสีดำด้านเช่นกันแต่มาพร้อมท่อไอเสียทรงกลมคู่ทั้งซ้ายขวา ตัดด้วยขอบโลหะสีเงินลากพาดจากท่อไอเสียฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่งด้วยเส้นที่หนากว่า ดิฟฟิวเซอร์สีดำด้านขนาดใหญ่กว่าชัดเจน และมีสปอยเลอร์แบบตูดเป็ดสีดำเล็กๆแปะอยู่บนฝากระโปรงด้านท้าย ดีไซน์โดยรวมดูแตกต่างกันไม่มาก เพราะรถถูกออกแบบมาได้สวยงามลงตัวอยู่แล้ว ต่างกันที่รายละเอียดปลีกย่อยที่ให้ดูสปอร์ตขึ้นเท่านั้น
การออกแบบภายใน
การออกแบบภายในเลย์เอาท์ของทั้ง 2 โฉมตำแหน่งต่างๆรวมถึงช่องแอร์ทรงกลมทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ทริมในการตกแต่งจะต่างกันโดยรุ่น E53 จะได้ทริมโลหะ Metal-Weave สีเงินด้านตัดกับหนังสีดำเดินด้ายแดง ส่วนรุ่น E200 จะได้เป็นลายไม้สีดำตัดกับหนังสีดำเดินด้ายสีขาว และพวงมาลัยที่ตัว E200 จะได้เป็นพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ล่าสุดของเบนซ์มาประจำการในห้องโดยสาร เป็นพวงมาลัย 3 ก้าน ท้ายตัดแป้นตรงกลางเป็นวงกลมเข้ากับเบ้าโลโก้ตราดาวพอดี ซึ่งในรุ่น E53 ก็เป็นท้ายตัดเหมือนกันเพราะปกติรุ่น AMG รหัสเลข 2 ตัว จะได้พวงมาลัยแบบนี้ โดยได้เป็นพวงมาลัย 4 ก้าน ก้านโลหะหุ้มด้วยหนังตัดสลับกับผ้าอัลคันทาร่าเดินตะเข็มแดงพร้อมมาร์คบอกตำแหน่งคืนศูนย์ที่ 12 นาฬิกาสีแดง มาตรวัดรวมถึงจอกลางจะใช้เป็นจอดิจิตอล 2 จอติดกันขนาดจอละ 12.3 นิ้ว โดยมาตรวัดสามารถแสดงรวมถึงปรับรูปแบบและสไตล์มาตรวัดได้หลากหลายด้วยปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย สำหรับจอกลางจะเป็นแบบทัชสกรีนที่แสดงระบบความบันเทิง แผนที่ รวมถึงแสดงไดนามิกของรถเพิ่มเติมได้โดยสามารถใช้งานนอกจากสัมผัสที่จอแล้วยังควบคุมผ่านทัชแพด บริเวณกลางรถได้อีกด้วย บริเวณคอนโซลกลางที่ที่กั้นระหว่างผู้โดยสาร 2 ฝั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในรุ่นปรับโฉมเพราะได้เอามาตรนาฬิกาวงกลมแบบเข็มออกไปแล้ว ถ้าใครชอบความคลาสสิคตัว E53 ยังมีให้คุณดูเวลาแบบอนาล็อคอยู่ ที่เท้าแขนทำเรียบไปในระดับเดียวกับอุโมงค์กลางรถซึ่งถูกออกแบบให้ต่ำที่ช่องวางแก้วและให้สูงขึ้นบริเวณช่วงแขนพอดี สำหรับเบาะนั่งของทั้ง 2 รุ่นเป็นเบาะแบบสปอร์ตกึ่งบัคเก็ตซีทเหมือนกัน รูปทรงเดียวกันต่างกันที่วัสดุที่ใช้โดยสำหรับรุ่น E200 จะหุ้มด้วยหนัง Nappa โดยมีภายในให้เลือก 2 สีคือสีดำล้วนตะเข็บขาว หรือสีทูโทนดำแดงตะเข็บขาว ซึ่งถ้าเลือกสีทูโทน บริเวณแผงประตูก็จะตกแต่งด้วยสีทูโทนเช่นกัน ส่วนรุ่น E53 จะเป็นหนังเทียมสีดำ AMG Artico ตัดกับผ้าอัลคันทาราซึ่งเบนซ์จะเรียกว่า Dinamica Microfibre พร้อมเดินตะเข็บด้ายสีแดง สำหรับเบาะหลังก็จะใช้วัสดุแบบเดียวกับเบาะหน้า พร้อมมีเข็มขัดนิรภัยให้ 4 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารทุกคน โดยรุ่น E200 จะได้เข็มขัดนิรภัยสีดำส่วนรุ่น E53 จะได้สีแดง และทั้ง 2 รุ่นยังมีหลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟที่มีชัตเตอร์ปิดแสงได้ด้วย ยังไม่ทิ้งความหรูไป
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง Mercedes-Benz E-Class Coupe
ประเภทเชื้อเพลิง | รูปแบบเกียร์ | ผู้ผลิตเรียกร้อง |
---|---|---|
Petrol | AT | 8.4 L/100km |
Petrol | AT | 9.3 L/100km |
เปรียบเทียบ Mercedes-Benz E-Class Coupe
รถแนะนำสำหรับคุณ
แบรนด์รถยนต์ยอดนิยมในไทย
FAQ Mercedes-Benz E-Class Coupe
มัลติมีเดีย ของ Mercedes-Benz E-Class Coupe มีดังนี้
รุ่นย่อย | 2020 2.0 Mercedes-Benz E-Class Coupe E 200 AMG Dynamic |
หน้าปัดบอกระยะทางแบบดิจิตอล | ใช่ |
ไมล์สะสมของระยะในเมือง | |
หน้าปัดบอกระยะทางแบบมัลติทริป | ใช่ |
มาตรวัดความเร็วรอบ | ใช่ |
ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า | |
ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง | |
ระบบนำทาง | ใช่ |
นาฬิกาแบบดิจิตอล | ใช่ |
หน้าจอแสดงอุณหภูมิภายนอกรถยนต์ | |
ระบบสั่งการด้วยเสียง | |
สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย | ใช่ |
เสาอากาศวิทยุแบบฝัง, สั้น หรือครีบฉลาม | ใช่ |
เสาอากาศกำลังไฟ | ไม่มี่ |
ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth | ใช่ |
เครื่องเล่น CD | |
เครื่องเล่นดีวีดี | |
แอพพลิเคชั่น CarPlay จากบริษัท Apple | ใช |
ระบบเชื่อมต่อ | |
ช่องเชื่อมต่อ USB และ/หรือ AUX | ใช่ |
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย | |
ลำโพงด้านหน้า | ใช่ |
ลำโพงด้านหลัง | ใช่ |
ระบบเครื่องเสียงวิทยุ FM/AM | ใช่ |
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส | ใช่ |
ระบบเครื่องเสียงแบบ 2DIN | ใช่ |
ระบบเครื่องเสียงแบบ พร้อม | |
ระบบกรองอากาศในห้องโดยสาร | ใช่ |
มีล็อคประตูป้องกันเด็กและรุ่นย่อยของMercedes-Benz E-Class Coupe ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 2.0 Mercedes-Benz E-Class Coupe E 200 AMG Dynamic |
ล็อคประตูป้องกันเด็ก | ใช่ |
มีปริมาตรกระบอกสูบและรุ่นย่อยของMercedes-Benz E-Class Coupe ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 2.0 Mercedes-Benz E-Class Coupe E 200 AMG Dynamic |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 1991 |
มีกล่องอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการทำงานของรถยนต์และรุ่นย่อยของMercedes-Benz E-Class Coupe ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 2.0 Mercedes-Benz E-Class Coupe E 200 AMG Dynamic |
กล่องอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการทำงานของรถยนต์ | ใช่ |
มีเบาะนั่งปรับระดับได้และรุ่นย่อยของMercedes-Benz E-Class Coupe ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 2.0 Mercedes-Benz E-Class Coupe E 200 AMG Dynamic |
เบาะนั่งปรับระดับได้ | ใช่ |

