รุ่นย่อยและราคา Mercedes-Benz S-Class Cabriolet
Ownership Cost Mercedes-Benz S-Class Cabriolet
* สำหรับอ้างอิงเท่านั้น คุณสามารถปรับเครื่องคิดเลข ตามสถานการณ์จริงของคุณได้
Pros & Cons


Pros
- รูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นหรูหรา ภานอกของ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium มีการออกแบบมาให้ดูหรูหราโดดเด่นมีเอกลักษณ์โดยเฉพาะชุดกระจังหน้าแบบ Diamond Grille ให้หน้ารถดูโดดเด่น และไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System เสริมความหรูหราพรีเมี่ยมเข้าไปอีกโดยการประดับไฟหน้าด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ และหลังคาเปิดประทุนแบบ Fabric Soft-Top สุดมาก
- ภายในกว้างขวางนั่งสบาย ภายในคือจุดที่โดดเด่นที่สุดหนึ่งจุดของ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium เลยก็ว่าได้เพราะมีความกว้างขวาง นั่งสบาย ระบบเพื่อความสะดวกสบายต่างๆครบครัน วัสดุอุปกรณ์ต่างๆก็ใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยม เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa ตัดเย็บแบบ Diamond Cut พร้อมฟังก์ชั่นนวด มีไฟ Ambient Light ปรับเปลี่ยนได้64สี ไว้เพิ่มบรรยากาศ
- เครื่องยนต์แรงซะใจ ถ้าคุณซื้อ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium มาแล้วคุณไม่ขับเองถือว่าผิดเลย เพราะคุณจะไม่ได้สัมผัสความแรง ความสนุกสนานในการขับขี่ ของเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตรแบบ Twin-Turbocharged 469 แรงม้า ที่สามารถวิ่ง 0 -100 ในเวลา 4.6 วินาที แรงมาก ขับสนุกซะใจมาก
- ระบบช่วงล่าง หนึบ แน่น นานๆจะได้สัมผัสระบบช่วงล่างที่ปรับเซ็ทมาได้อย่างลงตัวทั้งให้ความนุ่มนวล ในช่วงความเร็วต่ำ ดูดซับแรงจากพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบได้ดี ในขณะที่ใช้คาวมเร็วสูงระบบช่วงล่างชุดนี้ก็ยังให้ความหนึบ แน่น มั่นคง และมั่นใจในการขับขี่ การเค้าโค้งด้วยความเร็วก็ทำได้ดีรถไม่มีอาการโคลงแต่อย่างใด


Cons
- ขับในเมืองไม่คล่องตัว Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium เป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ และยาว ดังนั้นการขับขี่ในตัวเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อาจจะสู้รถที่มีขนาดเล็กกว่าไม่ได้ ลัดเลาะไม่คล่องตัว รวมไปถึงการเข้าตรอกซอยที่มีถนนแคบก็ทำได้ไม่ดีเท่ารถเล็ก
- กินน้ำมันเอาเรื่อง Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium เป็นรถยนต์ซีดานขนาดใหญ่ ที่มีเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ที่มีพละกำลังที่ยอดเยี่ยมขับสนุก แต่มันแลกมาด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมืองทำได้แค่ 5.2 กิโลเมตรต่อลิตร และเมื่อขับออกนอกเมืองอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 10.7 กิโลเมตรต่อลิตร กินน้ำมันเอาเรื่องอยู่
- อะไหล่ราคาสูง Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium เป็นรถยนต์ซีดานขนาดใหญ่แบบลักชัวรี่ ทำให้อะไหล่ และวัสดุ ทุกชิ้นต้องเป็นระดับเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น จึงไม่แปลกที่การเข้าเซอร์วิส ซ่อมแซม เปลี่ยนอะไหล่ ที่ศูนย์บริการแต่ละครั้งย่อมมีราคาสูงกว่ารถทั่วไปอยู่พอสมควร
- ราคาค่าตัวแพง ท่านไหนที่อยากได้รถสุดลักชัวรี่ นั่งสบาย ไฮไซ ขับสนุก อย่างMercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium มาครอบครองคงจะต้องยอมจ่ายค่าตัวที่สูงถึง 16,720,000 บาท ถือว่าราคาแพงมาก แต่เพื่อแลกกับความโดดเด่น เทคโนโลยี สมรรถนะ และความสะดวกสบายถ้าคุณมีเงินเหลือเฟือจัดไปผิดหวัง
รีวิว Mercedes-Benz S-Class Cabriolet
- ภาพรวม
- ภาพภายนอก
- การออกแบบภายใน
- องค์ประกอบ
- ระบบพลังงาน
- ประสบการณ์การขับขี่
- อัตราความประหยัดน้ำมัน
- สรุป
ภาพรวม
Mercedes-Benz S-Class ความสมบูรณ์แบบของการตกแต่งภายนอก และความหรูหราร่วมสมัยในการตกแต่งภายใน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหรูหราทันสมัยและความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาสก้าวล้ำไปอีกระดับใน ฟังก์ชั่นคอมฟอร์ทที่เป็นนวัตกรรมใหม่สร้างประสบการณ์การขับขี่ระดับพิเศษ ตั้งแต่ที่นั่งคนขับ ไปจนถึงห้องโดยสารด้านหลัง สำหรับ The S-Class ในบ้านเราโดย บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด คือ Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium สวยหรูหรามาก โดยราคารุ่น Coupe 15.99 ล้านบาท และรุ่น Cabriolet เปิดประทุนราคา 16.72 ล้านบาท โดยรายละเอียดทั้ง 2 รุ่นมีความต่างกันอยู่ที่ “หลังคา” เท่านั้น ครั้งนี้เรานำ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium มาให้ทุกท่านได้รู้จักกัน
ราคาจำหน่าย
Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium ราคา 16,720,000 บาท
ภาพภายนอก
Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium เป็นรถรุ่นที่ 6 (6th Generation) ที่พัฒนามาจากโครงสร้างพื้นฐานของตระกูล S-Class และ ยังเป็นรถเปิดประทุน 4 ที่นั่ง รุ่นแรกของ Mercedes-Benz นับตั้งแต่ปี 1971 โครงสร้างตัวถัง และ พื้นห้องโดยสารส่วนหลังที่เป็นอะลูมิเนียม ทำให้น้ำหนักของรถยนต์รุ่นนี้ลดลงจนเทียบเท่า S-Class Coupe เลยทีเดียว S 560 Cabriolet AMG Premium มาพร้อมชุดกระจังหน้าแบบ Diamond Grille สีเงิน ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม และการประทับตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ที่ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski Crystals) จำนวน 47 ชิ้น ประกอบด้วยไฟ Daytime Running Light 17 ชิ้น และ ไฟเลี้ยว 30 ชิ้น ในขณะที่ด้านหลังล้ำสมัยด้วยชุดไฟท้ายแบบ OLED (Organic Light Emitting Diode) ซึ่งใช้หลอดไดโอดเปล่งแสงขนาดบางเคลือบอยู่ใต้กระจกของไฟท้ายจำนวน 33 ชิ้นต่อ 1 ข้าง สำหรับทำหน้าที่ควบคุมตำแหน่ง และความสว่างของแสง หลังคาเปิดประทุนแบบ Fabric Soft-Top ที่ออกแบบให้มีความหนาถึง 3 ชั้น ซึ่งความพิเศษก็คือชั้นนอกสุดได้ทำการเคลือบสารบูทีล (Butyl) เพื่อช่วยลดระดับเสียงรบกวนเข้ามาภายในห้องโดยสาร พับปิดได้ในเวลาเพียง 19 วินาที ขณะรถวิ่งไม่เกิน 50 กม./ชม. ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 20 นิ้ว และชุดดิสก์เบรก พร้อมคาลิปเปอร์ประทับตราสัญลักษณ์ Mecedes-Benz
มิติตัวถัง
ยาว x กว้าง x สูง : 5,027 x 1,899 x 1,417 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,945 มิลลิเมตร
การออกแบบภายใน
การออกแบบภายใน
ภายในห้องโดยสารเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียม ด้านบนของแดชบอร์หน้า และ ด้านบนแผงประตู หุ้มด้วยหนัง มีระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up Display และระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONICเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa แบบ Exclusive Package ตัดเย็บแบบ Diamond Cut เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Climatised พร้อมฟังก์ชั่นระบบอุ่น และ ระบายอากาศปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมบันทึกตำแหน่ง Memory Seat เบาะนั่งด้ารหลัง แบบ Multi-Contour พร้อมฟังก์ชั่นนวด Energizing 4 รูปแบบ ระบบบันทึกความจำตำแหน่ง กระจกมองข้าง และ พวงมาลัย Memory พวงมาลัย Multifunction แบบสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัด หุ้มด้วยหนัง Nappaพร้อมเพาเวอร์ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button ผ้าหลังคา และ แผงบังแดด หุ้มด้วย DINAMICA microfiber ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Ambient Light ปรับเปลี่ยนได้ 64 สี และฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร AIR Balance Package ชุดคันเร่ง และ แป้นเบรกแบบสปอร์ต นอกจากนี้ยังมี ระบบ COMAND Online รองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play / Android Auto ระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charging ระบบควบคุม และ สั่งงานหน้าจอกลางด้วย Touchpad ระบบเสียง 3D Surround Burmester High-end ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth และ Navigation System กาบบันไดสแตนเลส พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz แบบเรืองแสง
องค์ประกอบ
ระบบความปลอดภัย
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance Package ประกอบด้วย
- ระบบ Active Emergency Stop Assist เตือนเมื่อผู้ขับไม่มีการตอบสนองต่อการขับขี่
- ระบบ Evasive Steering Assist ระบบช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า
- ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า
- ระบบ Active Blind Spot Assist ช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา
- ระบบ Active Lane Keeping Assist ช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร
- ระบบ Active Brake Assist ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น Cross Traffic
- ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE System และ PRE-SAFE impulse system
- ระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE system
- โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบเบรก Adaptive Brake พร้อมฟังก์ชั่น Hold
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-Start Assist
- ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน Adaptive Brake Light
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบจำกัดความเร็ว Speedtronic
- ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ ASSYST service interval indicator
- ระบบเตือนแรงดันลมยาง tyre pressure loss warning system
- ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Attention Assist
- ฟังก์ชั่นที่ฉีดน้ำกระจกบังลมหน้าที่ใบปัดน้ำฝน Magic Vision Control
- ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Parking Pilot including Active Parking Assist
- เซนเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด Parktronic
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 degree camera
- ระบบ Night View Assist Plus
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
- ม่านถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง
- โครงสร้างนิรภัยขณะพลิกคว่ำ (Roll-over Protection)
ระบบพลังงาน
ขุมพลัง
เครื่องยนต์เบนซินพิกัด 4.0 ลิตรแบบ V8 Twin-Turbocharged 469 แรงม้า ที่ 5,250 – 5,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดมหาศาลด้วยตัวเลข 700 นิวตันเมตรที่ 2,000 -4,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหลัง ผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-Tronic) ที่มากับระบบ Dynamic Select เลือกฟังก์ชันการขับขี่ได้ถึง 5 รูปแบบ คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual โดยมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 4.6 วินาที พร้อมท็อปสปีดที่จำกัดไว้ 250 กม./ชม.
ประสบการณ์การขับขี่
ประสบการณ์การขับขี่
เมื่อก่อนรถหรูรดับ Mercedes-Benz S-Class ส่วนมากเจ้าของซื้อมามักจะไม่ได้ขับเอง เพราะส่วนมากจะมีคนขับรถ และเจ้าของจะนั่งเหลัง ซึ่งไม่ผิด เพราะรถระดับนี้เบาะที่นั่งด้านหลังนั่งสบายเหมือนอยู่บนโซฟาระดับหรูที่บ้านเลย แต่อยากให้คิดซะใหม่ครับเพราะถ้าคุณได้ลองขับ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium คุณจะไม่อยากนั่งด้านหลังอีกเลย เพราะเมื่อกดคันเร่งลงไปรถก็ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจ การขับขี่ภายในตังเมืองดูจะเกรงๆไปซะหมด เพราะด้วยราคาที่สูงขนาดตัวถังที่ทั้งยาวทั้งใหญ่ มันทำให้การขับขี่ภายในตัวเมืองไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไหร่นัก ลัดเลาะตามช่องว่างไม่ได้เลย หลงเข้าซอยเล็กแคบแถมตัน อยากจะกลับรถคงลำบากพอสมควร มุ่งหน้าตรงออกนอกเมืองดีกว่า หาพื้นที่ให้เพื่อลองอัตราเร่งของ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium คันนี้แบบยาวๆ กดคันเร่งลงไปรอบเครื่องยนต์ฟาดขึ้นอย่างรวดเร็ว (ผมในขณะที่โหมดการขับขี่ที่ใช้โหมด Sport และ Sport+ เป็นหลัก) แต่ไม่ได้กระชาก ความเร็วเพิ่มขึ้นแบบ สุภาพ นุ่มนวล และรวดเร็ว ด้วยอัตราการตอบสนองที่ต่อเนื่อง จากแรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ที่ถ่ายทอดกำลังรับส่งอย่างเป็นจังหวะ จนทำให้ทุกครั้งที่เติมคันเร่งลงไป จะรู้สึกถึงพละกำลังที่มีให้ใช้อย่างไม่ขาดสาย ขับไปแบบเพลินๆด้วยระบช่วงล่างที่ปรับเซ็ทมาได้อย่างดี ให้ความนุ่มนวล แน่น หนึบ ทำให้เราไม่รู้สึกว่ารถขับด้วยความเร็วแตะ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปตอนไหน พอเห็นก็รีบยกเลยครับ ฮาฮา ขับสนุกควบคุมง่ายรถนิ่งมาก การเค้าโค้งด้วยความเร็วก็ยังคงทำได้ดีให้ความมั่นใจในการขับขี่
อัตราความประหยัดน้ำมัน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 10.7 กม./ลิตร
สรุป
Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium คันนี้มันจะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดว่าถ้าซื้อ S-Class แล้วจะต้องหลังเบาะด้านหลังอย่างเดียว เพราะ S 560 Cabriolet AMG Premium คันนี้มีทั้งรูปทรงที่หรูหรา หลังคาเปิดรับลมได้ มาพร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์เบนซินพิกัด 4.0 ลิตรแบบ V8 Twin-Turbocharged 469 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 4.6 วินาที พร้อมท็อปสปีดที่จำกัดไว้ 250 กม./ชม. มันคือเป็นรถสปอร์ตคันโตสุดหรูที่วิ่งได้เร็วน้องๆ ซุปเปอร์คาร์ และมีความสบายให้คนนั่งคล้ายการโดยสารบนชั้นเฟิร์สคลาส ถ้าซื้อมาแล้วไม่ขับเองพลาดมาก และถ้าคุณกำลังมองหารถประเภทนี้ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง Mercedes-Benz S-Class Cabriolet
ประเภทเชื้อเพลิง | รูปแบบเกียร์ | ผู้ผลิตเรียกร้อง |
---|---|---|
Petrol | AT | 2.2 L/100km |
เปรียบเทียบ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet
รถแนะนำสำหรับคุณ
แบรนด์รถยนต์ยอดนิยมในไทย
FAQ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet
มัลติมีเดีย ของ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet มีดังนี้
รุ่นย่อย | 2020 4.0 Mercedes-Benz S-Class Cabriolet S 560 AMG Premium |
หน้าปัดบอกระยะทางแบบดิจิตอล | ใช่ |
ไมล์สะสมของระยะในเมือง | |
หน้าปัดบอกระยะทางแบบมัลติทริป | ใช่ |
มาตรวัดความเร็วรอบ | ใช่ |
ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า | |
ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง | ใช |
ระบบนำทาง | ใช่ |
นาฬิกาแบบดิจิตอล | ใช่ |
หน้าจอแสดงอุณหภูมิภายนอกรถยนต์ | |
ระบบสั่งการด้วยเสียง | |
สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย | ใช่ |
เสาอากาศวิทยุแบบฝัง, สั้น หรือครีบฉลาม | ใช่ |
เสาอากาศกำลังไฟ | ไม่มี่ |
ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth | ใช่ |
เครื่องเล่น CD | |
เครื่องเล่นดีวีดี | |
แอพพลิเคชั่น CarPlay จากบริษัท Apple | ใช |
ระบบเชื่อมต่อ | |
ช่องเชื่อมต่อ USB และ/หรือ AUX | ใช่ |
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย | ใช |
ลำโพงด้านหน้า | ใช่ |
ลำโพงด้านหลัง | ใช่ |
ระบบเครื่องเสียงวิทยุ FM/AM | ใช่ |
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส | ใช่ |
ระบบเครื่องเสียงแบบ 2DIN | ใช่ |
ระบบเครื่องเสียงแบบ พร้อม | |
ระบบกรองอากาศในห้องโดยสาร |
มีเบาะหนังและรุ่นย่อยของMercedes-Benz S-Class Cabriolet ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 4.0 Mercedes-Benz S-Class Cabriolet S 560 AMG Premium |
เบาะหนัง | ใช่ |
มีไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารและรุ่นย่อยของMercedes-Benz S-Class Cabriolet ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 4.0 Mercedes-Benz S-Class Cabriolet S 560 AMG Premium |
ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร | ใช่ |
มีจำนวนประตูและรุ่นย่อยของMercedes-Benz S-Class Cabriolet ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 4.0 Mercedes-Benz S-Class Cabriolet S 560 AMG Premium |
จำนวนประตู | 2 |
มีระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะและรุ่นย่อยของMercedes-Benz S-Class Cabriolet ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 4.0 Mercedes-Benz S-Class Cabriolet S 560 AMG Premium |
ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ | ใช่ |

