รีวิวบทสรุป All New Yamaha NMAX Tech MAX กับระบบ YECVT ว่าดีอย่างไร จำเป็นหรือไม่ ?

Pongnara Archarit
Pongnara Archarit · 2025-03-20 23:26

สำหรับการขับขี่ของเราในครั้งนี้จะเป็นการขับขี่ในรูปแบบท่องเที่ยวใช้งานจริงจากตัวเมือง จ.นครสวรรค์ ไปสู่ อำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ กับรถ NMAX รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นนั่นก็คือ All New Yamaha NMAX Tech MAX และ All New Yamaha NMAX ซึ่งเป็นรถตัวธรรมดาที่จะไม่มีระบบใหม่อย่าง YECVT บนตัวรถ ซึ่งผลการทดสอบในครั้งนี้จะเป็นอย่างไรตามเราไปได้เลย

เราได้ขับขี่ทั้ง 2 รุ่นคือ All New Yamaha NMAX Tech MAX และ All New Yamaha NMAX

All New Yamaha NMAX Tech MAX กับระบบ YECVT

สำหรับระบบอย่าง YECVT นั้นอย่างที่หลายคนทราบกันว่ามันคือ ระบบควบคุมชุดสายพานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่จะถูกสั่งงานผ่านระบบ ECU ซึ่งจากที่เราได้ทดลองขับขี่รถทั้งตัวที่ติดตั้งระบบ YECVT และรถในตัวสแตนดาร์ดที่ไม่มีระบบ YECVT พบว่า ระบบอย่าง YECVT นั้นคือการยกระดับการขับขี่ของรถออโตเมติกขึ้นไปอีกขึ้น คือตัวผู้ขับขี่มีอะไรให้คอยทำเยอะขึ้นไม่ใช่เพียงแค่เปิด หรือปิดคันเร่งเท่านั้น คุณต้องคอยควบคุมชุดสายพานด้วยตัวเองหากต้องการความสนุกในการขับขี่ จังหวะไหนอยากเข้าโค้งลึก ๆ ก็ให้ทำการปิดคันเร่งพร้อมทั้งกดปุ่ม Shift Down เพื่อให้ตัวรถสร้างแรงฉุดหรือสร้าง Engine Brake เพิ่มเติมนอกจากแรงที่ได้จากการเบรคซึ่งมันจะทำให้คุณสามารถหยุดรถ และพับเลี้ยวภายในโค้งได้เร็วยิ่งขึ้นส่วนต่อมาการบูธ หรือการเร่งความเร็วคุณก็สามารถเปิดคันเร่งพร้อมทั้งกดปุ่ม Shift Down ไปพร้อม ๆ กันตัวรถก็จะทำการเรียกรอบจากชุดสายพานให้มาไวยิ่งขึ้นเพื่อให้คุณออกตัวได้อย่างรวดเร็ว

ระบบอย่าง YECVT ทำให้เราสนุกมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ในรถรุ่น Tech MAX ตัวรถยังได้มาพร้อมกับอีก 2 โหมดการขับขี่ให้คุณเลือกใช้งานนั่นก็คือ T Mode และ S Mode ซึ่งในโหมด T จะมาพร้อมคันเร่งที่นุ่มนวล ประหยัดน้ำมัน รอบเครื่องยนต์จะค่อย ๆ มาขี่ง่าย ซึ่งเหมาะกับการใช้งานภายในเมือง ส่วนสำหรับโหมด S จะมาพร้อมการตอบสนองต่อคันเร่งที่รวดเร็วกว่า เปิดเป็นรอบมาเครื่องยนต์ทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งพูดง่าย ๆ ก็คือมันเหมาะสำหรับสายซิ่งที่ต้องการแรงบิดที่มาแบบทันใจนั่นเอง

สายซิ่งต้อง S Mode เท่านั้น

ระบบ YECVT เหมาะกับใคร

สำหรับเราเองมองว่าระบบอย่าง YECVT เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสิ่งใหม่ และหลีกหนีความจำเจในการขับขี่รถออโตเมติกแบบเดิม ๆ ที่แค่ปิด และเปิดคันเร่งอาจจะน่าเบื่อจนเกินไป ซึ่งผู้ที่จะใช้ระบบอย่าง YECVT ได้คล่องนั้นแน่นอนว่าคุณจะต้องมีความคุ้นเคยกับรถประเภทออโตเมติกมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เพราะการที่คุณจะเปิดคันเร่งไปด้วยกดปุ่มไปด้วยนั้นเราเชื่อว่าเป็นอะไรที่ดูยากสำหรับมือใหม่ ซึ่งการที่คุณจะใช้ระบบอย่าง YECVT ได้อย่างสนุกนั้นคุณต้องเข้าใจ และรู้ถึงรอบเครื่องยนต์ของเจ้า All New Yamaha NMAX Tech MAX คันนี้อยู่พอประมาณหนึ่งด้วย

ปุ่ม Shift Down ที่มีไว้ให้คุณควบคุมระบบ YECVT

เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะกดปุ่ม Shift Down ได้ไม่ตรงจังหวะนั่นเองซึ่งนั่นจะทำให้เราไม่สามารถรีดสมรรถนะของเครื่องยนต์ออกมาได้อย่างเต็มที่ สรุปง่าย ๆ ก็คือระบบ YECVT เหมาะสำหรับสายซิ่งที่ต้องการของเล่น และลูกเล่นใหม่ ๆ เพิ่มเติมบนตัวรถ หรือเปรียบเสมือนระบบอย่าง YECVT นั้นเข้ามาช่วยให้รถออโตเมติกเปรียบเสมือนมีเกียร์ มีคลัตช์ ขึ้นมานั่นเองแทนที่จะบิดอย่างเดียว

ระบบอย่าง YECVT เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสิ่งใหม่

จำเป็นต้องซื้อ All New Yamaha NMAX Tech MAX เพื่อเอาระบบอย่าง YECVT หรือไม่ ?

สำหรับราคาเปิดตัวของ All New Yamaha NMAX Tech MAX ในประเทศไทยอยู่ที่ 113,500 บาท ส่วนสำหรับ All New Yamaha NMAX ในรุ่นธรรมดาจะมีราคาอยู่ที่ 98,500 บาท ซึ่งมีราคาที่แตกต่างกันอยู่ที่ 15,000 บาท เพราะฉะนั้นเราจะไม่พูดว่าระบบอย่าง YECVT ไม่มีความจำเป็น แต่เราอยากจะบอกว่าโดยนิสัยพื้นฐานของคุณแล้วคุณขับขี่รถใช้งานอย่างไร หากคุณซื้อรถออโตเมติกมาเพื่อตอบโจทย์ในด้านของความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย เพียงแค่เปิดปิดคันเร่งก็พาเราไปข้างหน้าได้แล้วเราก็จะบอกคุณว่าให้เลือก All New Yamaha NMAX ในรุ่นธรรมดา เพราะเราเชื่อว่าหากคุณชอบขับขี่แบบสบาย ๆ คุณคงไม่อยากจะคอยมากดปุ่ม Shift Down ให้วุ่นวายขณะขับขี่ ขณะเข้าโค้ง

เลือกให้เหมาะกับตัวคุณ

ซึ่งต่อให้คุณซื้อรุ่นที่มาพร้อมระบบอย่าง YECVT มาเราว่าคุณก็จะไม่ได้ใช้มันสุดท้ายคุณก็จะแค่บิดปิด และเปิดคันเร่งเหมือนเดิมเพราะฉะนั้นเก็บส่วนต่าง 15,000 ไว้แต่งรถดีกว่า แต่หากใครที่เป็นสายซิ่งก็อย่างที่เราได้พูดไปในหัวข้อด้านบนเลยระบบอย่าง YECVT ก็จะตอบโจทย์คุณ เพราะฉะนั้นสรุปจะเลือกรุ่นไหนแบบไหนก็ให้ดูตัวเองว่าคุณเป็นคนขับขี่รถสไตล์ไหน ซื้อรถมาใช้งานแบบไหน กับราคาของทั้ง 2 รุ่นที่แตกต่างกันอยู่ที่ 15,000 บาทแบบไหนคุ้มค่าเงินในกระเป๋าคุณมากกว่ากัน

จะเลือกรุ่นไหนก็ขึ้นอยู่กับคุณ

จากการทดสอบของ AutoFun Thailand ในทริปนี้

สำหรับการขับขี่ทดสอบของเราในครั้งนี้เราได้ทำการขับขี่รถทั้ง 2 รุ่นนั่นก็คือ  All New Yamaha NMAX Tech MAX และ All New Yamaha NMAX บนเส้นทางที่มีทั้งพื้นผิวที่ไม่ราบเรียบ หลุมบ่อ ทางชันขึ้นเขา ทางลาดชันลงเขา รวมไปถึงโค้งความเร็วสูงต่าง ๆ ในเส้นทางของรูท 12 อันโด่งดังซึ่งสายมอเตอร์ไซค์อย่างเรารู้จักกันดี เอาจริง ๆ โดยส่วนตัวเรามองว่ารถทั้ง 2 รุ่นเมื่อนำออกมาขับขี่ในรูปแบบท่องเที่ยวมันแทบจะไม่ได้แตกต่างกันมากมายนักในเรื่องของท่าทางการขับขี่ ความสะดวกสบาย จนไปถึงกำลังของเครื่องยนต์ เพราะช่วงล่างที่ให้มาในรถทั้ง 2 รุ่นก็เป็นแบบเดียวกัน ซึ่งโช้คอัพใหม่นั้นหนึบมาก แถมยังให้ความรู้สึกนุ่มนวลที่มากขึ้นด้วย ซึ่งในโค้งความเร็วสูงที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ตัวรถไม่แสดงอาการโยน หรือย้วยให้เราได้เห็นเลยเรียกได้ว่ายัดเข้าไปได้เลยแบบไม่ต้องผ่อนคันเร่ง

เราได้ทดสอบทั้งในสนามแข่งขัน และการขับขี่บนถนนจริงมาแล้ว

ส่วนพละกำลังเครื่องยนต์นั้นทั้ง 2 รุ่นก็มาพร้อม Blue Core ในพิกัด 155 ซี.ซี. 4 จังหวะ สูบเดี่ยว SOHC 4 วาล์ว พร้อมเทคโนโลยี VVA ระบบวาล์วแปรผันเหมือนกันอยู่แล้ว ถ้าให้พูดถึงความแตกต่างคงจะเป็นในเรื่องของระบบ YECVT ที่ช่วยให้เรารู้สึกว่าสามารถจุ่มเข้าโค้งได้ลึกขึ้นกว่ารถคันที่ไม่มีเพราะได้แรงจาก Engine Brake เข้ามาช่วยเพิ่มเติมนั่นเอง ในส่วนอื่น ๆ ก็แทบไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลย เพราะหน้าจอ TFT ก็มีเหมือนกัน ระบบเบรก ABS ก็มีเหมือนกัน แทรคชันคอนโทรลก็เหมือนกัน กุญแจ Smart Key ก็มีให้เหมือนกัน

หน้าจอเรือนไมล์ TFT เหมือนกัน

สิ่งที่ตัว Tech MAX มีมากกว่าก็น่าจะเป็นในเรื่องของการเชื่อมต่อหน้าจอเรือนไมล์กับระบบนำทางอย่าง Garmin Navigation System และระบบอย่าง YECVT เท่านั้นที่เหลือเหมือนกัน ซึ่งเอาจริง ๆ ทั้ง 2 รุ่นขี่ดีเหมือนกัน จะแตกต่างก็ตรง Tech MAX มีของเล่นให้เราได้กดเล่นได้ตามสถานการณ์ ส่วนในรุ่นธรรมดาโช้คอัพที่อัพเกรดมาใหม่ทำให้มันขี่ได้สนุกขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว ส่วนใครที่กำลังลังเลว่าจะซื้อตัวท็อปไปเลย หรือจะเอาแค่รุ่นธรรมดาก็พอ ลองเอาข้อมูลจาก AutoFun Thailand ของเราไปนั่งคิดดูนะว่าคันไหนที่เหมาะกับตัวคุณ

Pongnara Archarit

Pongnara Archarit

Honda
Ducati
Yamaha
Kawasaki
GPX
Royal Enfield
Triumph
Suzuki
KTM
Victory
Harley-Davidson
BMW