BMW F 900 GS ถูกออกแบบมาด้วยสไตล์ที่เน้นการขับขี่ที่คล่องตัวบนเส้นทางออฟโรด ที่ได้รับการออกแบบใหม่แทบทั้งหมดโดยมีการใช้ชิ้นส่วนของ F 850 GS เพียง 20% เท่านั้นบนตัวรถ จึงแทบจะเรียกได้ว่า BMW F 900 GS นั้นแทบจะได้รับการออกแบบชิ้นส่วนใหม่ทั้งหมดเลยก็ว่าได้โดยเริ่มจากแฮนด์บาร์ที่มีการปรับให้สูงขึ้นแต่พักเท้าเตี้ยลงซึ่งนั่นทำให้ได้ท่าทางการขับขี่ที่คล่องตัวมากยิ่งขึ้นบนเส้นทางออฟโรด
สำหรับ BMW F 900 GS จะวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วย 2 สี 2 รุ่นนั่นก็คือ BMW F 900 GS สีเหลือง São Paulo Yellow ราคา 649,000 บาท และ BMW F 900 GS Trophy ที่จะมาพร้อมสีไตรคัลเลอร์ ขาว-แดง-น้ำเงิน ในราคา 665,000 บาท โดยสำหรับในรุ่น F 900 GS Trophy จะมาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่แตกต่างไปจากไปจาก BMW F 900 GS São Paulo Yellow คือชิลด์ตัดลมด้านหน้าสีดำ , การ์ดแฮนด์อลูมิเนียม และเพจกันแคร้งเครื่องยนต์อลูมิเนียม
BMW F 900 GS Adventure เน้นออกทริปเดินทางไกล
สำหรับ BMW F 900 GS Adventure จะแตกต่างไปจาก BMW F 900 GS อย่างชัดเจน โดยจะเห็นได้จากตัวรถที่จะมาพร้อมถังน้ำมันขนาดใหญ่ถึง 23 ลิตร ซึ่งใน BMW F 900 GS จะมาพร้อมถังน้ำมันความจุเพียง 14.5 ลิตรเท่านั้น โดยที่การออกแบบภายนอกของ BMW F 900 GS Adventure จะไม่แตกต่างไปจาก BMW F 850 GS รุ่นก่อนหน้านี้มากนักนอกจากการปรับเปลี่ยนในส่วนของเครื่องยนต์
แต่จะมีในส่วนของโช้คอัพด้านหลังที่จะมาพร้อมระบบ Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) ที่จะปรับช่วงล่างโดยอัตโนมัติตามสภาพพื้นผิว และน้ำหนักที่บรรทุกนั่นเอง โดย BMW F 900 GS Adventure จะมาพร้อมราคาวางจำหน่ายที่ 689,000 ซึ่งมีตัวเลือกสีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ และสีอลูมิเนียม
เทคโนโลยีจัดเต็มทั้ง 2 รุ่น
BMW F 900 GS และ BMW F 900 GS Adventure มาพร้อมเทคโนโลยีสำหรับช่วยเหลือการขับขี่มากมายไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ที่พร้อมให้คุณเลือกใช้ได้ถึง 5 โหมดด้วยกันนั่นก็คือ Rain , Road , Dynamic , Enduro และ Enduro Pro ซึ่งในโหมด Enduro Pro จะสามารถเลือกปรับตั้งค่าความละเอียดของตัวรถเพิ่มเติมได้อีกไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการควบคุมเบรค หรือคันเร่ง
สำหรับ BMW F 900 GS Adventure นั้นตัวรถมีขนาดที่ใหญ่กว่า BMW F 900 GS อย่างเห็นได้ชัดรวมไปถึงในเรื่องการขับขี่ที่แตกต่างกันเป็นอย่างมากอีกด้วย โดยสำหรับ BMW F 900 GS Adventure เรามองว่ามันเหมาะกับการใช้งานบนทางดำ ที่เหมาะกับการเดินทางระยะไกล เพราะด้วยช่วงล่าง ขนาดถังน้ำมัน ท่าทางการขับขี่ที่ให้มาทำให้มันเป็นรถที่นั่งสบาย ๆ แบบสุด ช่วงล่างนุ่มมาก ๆ สามารถดูดซับแรงกระแทกได้หมด
แต่ถึงอย่างนั้นบนเส้นทางออฟโรดที่เป็นการลุยแบบไม่หนักมากตัวรถก็สามารถขับขี่ได้ แต่อาจจะไม่ได้พลิกรถหรือควบคุมได้คล่องตัวเท่ากับ BMW F 900 GS ที่มีขนาดเล็กกว่า และน้ำหนักที่เบากว่า แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ของ BMW F 900 GS Adventure ก็ทำให้มันมาพร้อมความนิ่งในการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ๆ และท่านั่งบวกกับชิลด์ด้านหน้าที่ตัดลมได้เป็นอย่างดี
BMW F 900 GS & F 900 GS Adventure คันไหนดี
ในความคิดของเราเรามองว่า BMW F 900 GS เป็นรถแอดเวนเจอร์ที่เดินทางไกลได้แต่ก็ไม่สบายเท่า BMW F 900 GS Adventure แต่มันถูกชดเชยมาด้วยน้ำหนักที่เบากว่า และให้ความคล่องตัวที่สูงกว่ามันจึงเหมาะสำหรับสายที่เน้นขี่ในเส้นทางออฟโรดมากกว่าไม่ได้ใช้เดินทางไกลเป็นหลัก
ส่วนแน่นอนสำหรับ BMW F 900 GS Adventure นั้นตัวรถมาพร้อมมิติที่ใหญ่โต ท่าทางการขับขี่ และช่วงล่างที่สะดวกสบายมันจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหารถเอาไว้ใช้ในการเดินทางออกทริปด้วยระยะทางไกล ๆ ซึ่งอย่างที่เราได้บอกไปว่าตัวรถทั้ง 2 มาพร้อมสไตล์การขับขี่ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นคุณเป็นผู้ขับขี่แนวไหนก็เลือกแนวทางนั้นได้เลย