ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง!

Archa
Archa · 2023-08-16 20:10:14

ยุโรปออกกฎหมายต้องมี EV Fast Chargers ทุก ๆ 60 กิโลเมตรบนทางหลวง!

เมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้า และรถมอเตอร์ไซค์ออกสู่ท้องถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จเร็วของยานยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้ แน่นอนว่ามีสถานีชาร์จไฟฟ้าหลายร้อยแห่งกระจายอยู่ตามเมืองส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่กลับกันในเส้นทางข้ามรัฐ หรือทางด่วนทั้งหลายกลับยังมีจุดชาร์จเหล่านี้อยู่น้อยมาก ๆ ซึ่งด้วยจุดนี้เองทำให้ยุโรปจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อเพิ่มจุดชาร์จเหล่านี้อย่างรวดเร็วบนทางหลวงระหว่างรัฐต่าง ๆ 

  • กฎหมาย พร้อมเป้าหมายที่ชัดเจน
  • แนวทางของกฎหมายฉบับนี้
  • มาตรฐานตู้ชาร์จที่ต้องมี
  • เมื่อเป้าหมายแล้วเสร็จปัญหาเกี่ยวกับระยะทางของรถไฟฟ้าจะหมดไป
ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในยุโรป

กฎหมาย พร้อมเป้าหมายที่ชัดเจน

เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวสหภาพยุโรปจึงได้ออกกฎหมายชุดใหม่เกี่ยวกับการชาร์จ EV แบบ Fast Chargers ในทวีปยุโรป ซึ่งจะมีการกำหนดความสามารถในการชาร์จขั้นต่ำของจุดชาร์จ และจะต้องมีสถานีชาร์จ EV Fast Chargers ในทุก ๆ ระยะทาง 60 กิโลเมตรบนทางหลวง ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2568 

จะต้องมีสถานีชาร์จ EV Fast Chargers ในทุก ๆ ระยะทาง 60 กิโลเมตรบนทางหลวง

แนวทางของกฎหมายฉบับนี้

สำหรับกฎหมายฉบับดังกล่าวทาง The Verge ให้รายละเอียดเอาไว้ว่ากฎหมายฉบับนี้จะมุ่งเน้นไปที่เครือข่ายการขนส่งข้ามทวีปยุโรปหรือ TEN-T ด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จเร็วแบบ EV Fast Chargers เพื่อให้ผู้ที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าสามารถเดินทางข้ามรัฐ หรือข้ามทวีปได้แบบสบาย ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางอีกต่อไป นอกจากนี้ทางรัฐบาลยังกำหนดอีกว่าการเข้าถึงสถานี EV Fast Chargers เหล่านี้ต้องเข้าถึงได้ง่าย และทุกคนจะต้องสามารถเข้าถึงได้ โดยที่ไม่ต้องใช้แอพพลิเคชั่น หรือการสมัครสมาชิก เพียงแค่จ่ายเงินที่ตู้หรือเคาน์เตอร์แล้วสามารถใช้ได้ในทันที

กำหนดให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยง่ายที่สุด

มาตรฐานตู้ชาร์จที่ต้องมี

สำหรับสถานี EV Fast Chargers เหล่านี้จะถูกบังคับด้วยกฎหมายที่ว่าจุดชาร์จทุกจุดต้องมีกำลังไฟฟ้าขั้นต่ำ 400 กิโลวัตต์ภายในเดือนธันวาคม 2568 โดยมีเครื่องชาร์จอย่างน้อยหนึ่งเครื่องที่สามารถจ่ายไฟได้ 150 กิโลวัตต์ กฎกำหนดให้มีเอาต์พุตรวมขั้นต่ำ 600 กิโลวัตต์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2570 รวมถึงเครื่องชาร์จขนาด 150 กิโลวัตต์อย่างน้อยหนึ่งเครื่อง ในปัจจุบัน สถานีชาร์จบางแห่งมีป้ายกำกับว่ากำลังไฟ 150 กิโลวัตต์ แต่ก็จะมาพร้อมกับสายชาร์จ 2 เส้นที่จะส่งผลให้เมื่อรถ 2คันเข้าใช้เครื่องชาร์จพร้อมกันจำนวนไฟทั้งหมดก็จะลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง ดังนั้นกฎหมายที่บังคับใช้ล่าสุดจึงกำหนดให้เครื่องชาร์จอย่างน้อยหนึ่งเครื่องที่มีความจุขั้นต่ำ 150 กิโลวัตต์ต้องทำงานตลอดเวลา ทำให้สามารถเข้าถึงการชาร์จได้อย่างรวดเร็วสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องชาร์จมากที่สุด

มาตรฐานตู้ชาร์จขั้นต่ำที่ต้องมี

เมื่อเป้าหมายแล้วเสร็จปัญหาเกี่ยวกับระยะทางของรถไฟฟ้าจะหมดไป

สำหรับกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะเครือข่ายการขนส่งข้ามทวีปยุโรปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเส้นทางที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายทางหลวงด้วย ซึ่งมาตรฐานที่กำหนดขึ้นใหม่นี้จะใช้กับเส้นทางสายรองให้ได้ร้อยละ 50 ของเส้นทางก่อนโดยเริ่มในปี 2570 ส่วนเป้าหมายในการติดตั้งสถานีชาร์จ EV Fast Chargers ให้เสร็จสิ้นตามถนนเหล่านี้ทั้งหมดภายในปี 2573

เมื่อสถานีชาร์จครอบคลุมเรื่องระยะทางจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปสำหรับรถไฟฟ้า

และภายในปี 2578 สถานีชาร์จทั้งหมดจะต้องมีกำลังผลิตรวม 600 กิโลวัตต์ ซึ่งหากเป้าหมายเหล่านี้สำเร็จไปตามแผนนั่นจะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงที่ชาร์จได้อย่างง่ายดาย และความกังวลเกี่ยวกับเรื่องระยะทางจะหมดไปเลย ซึ่งทั้งหมดนี้คือความจริงจังของรัฐบาลยุโรปที่ถึงขั้นกำหนดออกมาเป็นตัวบทกฎหมายบังคับกันเลยทีเดียว เรียกว่าเห็นได้ถึงความจริงจัง และตั้งใจแบบสุด ๆ ส่วนสำหรับในประเทศไทยของเรานั้น…ไม่พูดดีกว่า

อ่านเพิ่มเติม : BMW CE 02 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลำดับที่ 2 ในที่สุดก็พร้อมวางจำหน่ายแล้ว

อ่านเพิ่มเติม : Verge มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงตัดสินใจจะใช้ที่ชาร์จร่วมกับ Tesla

อ่านเพิ่มเติม : 5 อันดับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโคตรแรงแห่ง พ.ศ. นี้

 

 

 

Archa

Archa นักเขียนอาวุโส

นักเขียน/นักทดสอบรถจักรยานยนต์ประสบการณ์กว่า 7 ปีในแวดวง 2 ล้อ ใช้รถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปไหนมาไหนตั้งแต่อายุ 10 ปี ได้เรียนรู้รูปแบบการขับขี่กับสถาบันต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Honda , Yamaha , Kawasaki , BMW Motorrad , Ducati และ Aprilia ตั้งแต่หลักสูตรขั้นพื้นฐาน จนไปถึงระดับเรสซิ่ง โเชื่อว่าทุกคนสามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้ แต่ขี่ได้กับขี่เป็นนั้นมันแตกต่างกัน แวะเข้ามาพูดคุยกันได้ทางหน้า Facebook : Pongnara Archarit หรือทาง Instagram : Pongnara Archarit

Honda
Ducati
Yamaha
Kawasaki
GPX
Royal Enfield
Triumph
Suzuki
KTM
Victory
Harley-Davidson
BMW