รีวิว GPX DZ3 สกู๊ตเตอร์ที่มาพร้อมสมรรถนะแบบจัดเต็ม!!!

รีวิว GPX DZ3 สกู๊ตเตอร์ที่มาพร้อมสมรรถนะแบบจัดเต็ม!!!

ในที่สุดแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์สัญชาติไทยอย่าง GPX ก็ได้เผยตัวรถสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ของทางค่ายออกมาให้เราได้เห็นกันแล้วหลังจากที่รถรุ่นก่อนหน้าอย่าง GPX Drone 150 นั้นได้เรียกเสียงฮือฮา และยอดขายให้กับทางค่ายเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ครั้งนี้ทาง GPX ได้กลับมาพร้อมรถสกู๊ตเตอร์ดีไซน์สปอร์ตในพิกัดขุมพลังที่ใหญ่ขึ้นกับ  GPX DZ3 (จีพีเอ็กซ์ ดีซีทรี) คันนี้

GPX ค่ายรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติไทยดังไกลระดับโลก

ก่อนอื่นเราต้องขอเล่าก่อนว่าสำหรับค่ายรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติไทยอย่าง GPX นั้นได้มีการทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 17 ปีแล้ว โดยที่ทาง GPX ได้เริ่มดำเนินธุรกิจครั้งแรกในปี 2007 กับธุรกิจในกลุ่มรถ ATV ก่อนที่ในปี 2012 ทาง GPX ก็ได้มีการวางจำหน่ายตัวรถที่สามารถจดทะเบียนได้เป็นรุ่นแรกออกมาสู่ตลาดเมืองไทยจวบจนปัจจุบันทาง GPX ได้จำหน่ายรถไปแล้วมากกว่า 240,000 คัน รวมไปถึงในปัจจุบันยังมีศูนย์บริการ และวางจำหน่ายรถ GPX กว่า 115 สาขาทั่วประเทศไทย ซึ่งนอกจากในประเทศไทยแล้วตอนนี้ทาง GPX ยังได้มีการผลิตรถ และส่งออกไปวางจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศอีกกว่า 10 ประเทศเช่น ญี่ปุ่น , มาเลเซีย , เวียดนาม และกรีซ เป็นต้น

ดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว

มาเริ่มกันที่รูปร่างหน้าตาของเจ้า GPX DZ3 คันนี้กันก่อนที่ครั้งนี้ทาง GPX กลับมาพร้อมคอนเซ็ปต์การออกแบบอย่าง “IT’S THE TIME TO LEVEL UP” โดยตัวรถโดดเด่นมาด้วยชุดไฟแบบ Full LED ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมด้วยไฟ Day Time Running Lift ที่มาพร้อมเส้นสายอันเฉียบคมกลมกลืนไปกับตัวรถ

ด้วยเส้นสายที่เน้นความเป็นสปอร์ตอันปราดเปรียว และเฉียบคม ถัดมาด้วยหน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิตอลเต็มรูปแบบที่มองง่ายชัดเจนสบายตา พร้อมแสดงข้อมูลของตัวรถเอาไว้อย่างครบถ้วน 

มาพร้อมความสะดวกสบาย

นอกจากงานดีไซน์ที่สวยงามแล้ว GPX DZ3 ยังได้มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขับขี่มากมายบนตัวรถไม่ว่าจะเป็นช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บหมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้ 1 ใบ

พร้อมช่องเก็บสัมภาระด้านหน้าของตัวรถที่มาพร้อม Fast Charge USB Type-C ที่พร้อมให้คุณชาร์จโทรศัพท์มือถือของคุณได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมเบาะนั่งที่หนานุ่มนั่งสบายทั้งผู้ขับขี่ และผู้ซ้อน โดยเฉพาะผู้ซ้อนตัวรถ GPX DZ3 ได้มาพร้อมพักเท้าที่สามารถเปิด และพับเก็บได้อย่างสะดวกง่ายดาย แถมมาพร้อมตำแหน่งการวางเท้าที่สะดวกสบายสุด ๆ

และสุดท้ายตัวรถมาพร้อมกับกุญแจแบบ Keyless ที่ดีไซน์ได้อย่างสวยงาม พร้อมการใช้งานที่สะดวกสบายเพียงแค่คุณพกพากุญแจติดตัวไว้ก็สามารถสตาร์ทรถได้ในทันที โดยไม่ต้องคอยเสียบไขให้วุ่นวาย 

ขุมพลังไม่เป็นรองใคร

จุดเด่นที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นก็คือเครื่องยนต์บล็อกใหม่ที่มาพร้อมกับ GPX DZ3 ในครั้งนี้ที่มีชื่อว่า Hyper-i กับขุมพลังขนาด 278.2 ซี.ซี. พร้อมส่งมอบขุมพลัง 24.1 แรงม้าที่ 8,250 รอบ/นาที พร้อมด้วยแรงบิด 24.5 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบ/นาที ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ

นอกจากนี้ตัวรถยังมาพร้อมถังน้ำมันความจุขนาดใหญ่ 10.3 ลิตรที่ถูกวางไว้ด้านหน้าทำให้ง่าย และสะดวกสบายต่อการเติมน้ำมัน

รวมไปถึงในรุ่น Sport ตัวรถจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมความปลอดภัยอย่างระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control ที่สามารถเลือกเปิดปิดได้ตามใจผ่านปุ่มตรงบริเวณประกับแฮนด์ด้านขวา ซึ่งใช้งานง่าย และสะดวกสุด ๆ  

ระบบเบรก และระบบกันสะเทือน

GPX DZ3 มาพร้อมจานดิสก์เบรกเดี่ยวทั้งด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมเสริมความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบเบรก ABS แบบ Dual Channel ที่ช่วยให้คุณหยุดรถได้อย่างมั่นใจ

ส่วนระบบกันสะเทือนที่ให้มานั้นจะแตกต่างกันสำหรับในรุ่น Standard จะมาพร้อมโช้คอัพที่ไม่สามารถปรับตั้งค่าได้ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง แต่สำหรับในรุ่นท็อปอย่าง Sport ตัวรถจะมาพร้อมโช้คอัพด้านหลังแบบซับแทงค์จาก YSS ที่สามารถปรับตั้งค่าพรีโหลดได้ที่มาพร้อมดีไซน์สีดำทองอันสวยงาม

ขี่แล้วแรงจริง

หลังจากที่เราได้นำ GPX DZ3 ในรุ่น Sport มาขับขี่ทดสอบใช้งานภายในเมืองนั้นสิ่งแรกที่เราสัมผัสได้เลยก็คือขุมพลังเครื่องยนต์ Hyper-i ขนาด 278.2 ซี.ซี. ที่ให้มาพร้อมกับแรงบิดที่ทรงพลังทำให้รอบความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. บนหน้าจอเรือนไมล์นั้นขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเปิดเป็นมาบิดติดมือแบบสุด ๆ โดยเครื่องยนต์ Hyper-i บล็อกนี้จะมาเร็วมาก ๆ ในรอบกลางจาก 60-100 กม./ชม. แต่ในรอบปลายตัวรถสามารถไหลไปแตะที่ความเร็ว 150 กม./ชม. ได้แบบไม่ยากเย็น ซึ่งขุมพลังขนาดนี้กับการใช้งานภายในเมืองบอกได้เลยว่าเหลือ ๆ 

นอกจากเครื่องยนต์ที่ทรงพลังแล้วในเรื่องของระบบเบรก และช่วงล่างที่ให้มาเรียกว่าทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตัวของระบบเบรก ABS สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี พร้อมหยุดความเร็วของตัวรถได้อย่างมั่นใจในทุกช่วงจังหวะความเร็ว พร้อมทั้งโช้คอัพ YSS ที่ให้มาก็สามารถซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฝาท่อ หรือพื้นผิวถนนที่ไม่ราบเรียบก็เอาอยู่นุ่มนวลมากทีเดียว

ส่วนท่าทางการขับขี่ และตำแหน่งวางเท้าบอกได้เลยว่ากระชับ และนั่งสบายแบบสุด ๆ  นอกจากนี้ระบบ Traction Control ที่ให้มาก็ทำงานได้เป็นอย่างดีเมื่อพื้นผิวถนนลื่นเราสัมผัสได้ถึงการทำงานของระบบ Traction Control ที่ช่วยไม่ให้ล้อหลังเกิดอาการสไลด์ ซึ่งถือว่าช่วยเสริมความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ตัวผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างมาก

โจทย์คือ City Use

สรุป GPX DZ3 ที่ทาง GPX ต้องการออกแบบมาเพื่อการใช้งานภายในเมืองนั้นเราคิดว่าสอบผ่าน เพราะด้วยมิติของตัวรถ และกำลังเครื่องยนต์ที่ให้มาทำให้รถคันนี้สามารถขับขี่ใช้งานภายในเมืองได้อย่างคล่องตัว พร้อมด้วยขุมพลังที่ให้มาทำให้สามารถเปิดปิดคันเร่งเพื่อแซงได้อย่างมั่นใจ และฉับไว

อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ให้มาก็ทำให้มันเหมาะสมกับการเป็นรถสกู๊ตเตอร์ที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ทุกวัน เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะตัวรถมาพร้อมการควบคุมที่ง่าย มิติตัวรถที่แทบจะไม่แตกต่างไปจากรถสกู๊ตเตอร์พิกัดเล็กในตลาดรุ่นอื่น ๆ เลยเพียงแต่ว่า GPX DZ3 คันนี้มาพร้อมพิกัดเครื่องยนต์ที่ใหญ่โตกว่ามาก ซึ่งเราคิดว่าใครที่ชอบรถแรง อัตราเร่งดี คุมง่าย แถมมาพร้อมงานดีไซน์ที่สวยงาม GPX DZ3 คันนี้ต้องเหมาะกับคุณอย่างแน่นอน

เปิดราคาพร้อมวางจำหน่าย

สำหรับ  GPX DZ3 จะมีการวางจำหน่ายออกเป็น 2 รุ่นย่อยด้วยกันคือ GPX DZ3 Standard จะมาพร้อมสี เทา และ ดำ-เทา กับราคาวางจำหน่ายที่ 100,800 บาท ราคาพิเศษถึง 30 กันายายนเหลือเพียง 94,800 บาทเท่านั้น ส่วนในรุ่น GPX DZ3 Sport จะมาพร้อมสี ขาว , แดง , เขียว และสีดำ กับราคาวางจำหน่าย 105,800 บาท ราคาพิเศษถึง 30 กันยายนเหลือเพียง 99,800 บาทเท่านั้น  ซึ่งสำหรับใครที่สนใจสามารถไปชม GPX DZ3 คันจริงกันได้แล้วที่โชว์รูม GPX ทั้ง 115 สาขาทั่วประเทศ 

อ่านเพิ่มเติม :  2022 GPX Drone อัพเกรดใหม่รุ่น 4 วาล์วสุดแรง ราคาเริ่มต้นที่ 68,900 บาท

อ่านเพิ่มเติม :  New GPX Tuscany 150 สกู๊ตเตอร์ดีไซน์สุดโดนในราคาสบายกระเป๋า

อ่านเพิ่มเติม :  2021 New Demon GR200R 4 VALVES มินิสปอร์ตไบค์รุ่นล่าสุดจาก GPX