Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) รถคอมแพ็คซีดานยอดนิยมในปัจจุบันนี้ กว่าจะสร้างชื่อจนติดตลาด ต้องผ่านการพิสูจน์มาหลายรุ่น โดยปัจจุบันทำตลาดมา 11 เจเนเรชั่นแล้ว ที่คนรุ่นใหม่มักจะรู้จักชื่อเสียงในด้านความเป็นสปอร์ตซีดาน กำลังแรง และมีทรงสวย แต่กว่าจะได้รับภาพลักษณ์สปอร์ตทั้งหมดอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ฮอนด้า ซีวิค ล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากโฉมตาโตนี้เอง
Honda Civic เจเนเรชั่นที่ 6 รหัสตัวถัง EK เปิดตัวในบ้านเราปี 1996 ถูกเรียกฉายาว่า ตาโต เป็นจุดเปลี่ยนของการเป็นรถบ้าน ๆ จากเดิมกลายเป็น สปอร์ตซีดานอย่างเต็มตัวในทุกวันนี้ เพราะมีการออกแบบที่ทันสมัย ก้าวกระโดดจากรุ่นก่อน พร้อมเครื่องยนต์ที่ปรับปรุงให้แรงกว่าคู่แข่ง บนพื้นฐานทีมีตัวถังคูเป้ให้เลือก รวมถึงคุณสมบัติปลีกย่อยหลายอย่าง เราจะมาดูกันว่า อะไรที่ทำให้คนยังสรรหารุ่นนี้มาแต่งขับกันอยู่
Honda Civic ในประเทศไทยรุ่นนี้ ตั้งใจพัฒนาขึ้นไปเป็นคอมแพ็คซีดานที่มีความหรูหรา สะดวกสบาย ไม่ได้เน้นขายแต่ราคาถูกอีกต่อไป โดยในตอนแรกตัวเลือกเพียงตัวถัง 4 ประตู ส่วนใครที่อยากได้รถขนาดเล็ก ราคาประหยัดแบบสมัย Honda Civic EG 3 ประตูรุ่นก่อน ก็ถูกผลักไปให้ซื้อ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ใช้แทน
อ่านเพิ่มเติม : Honda Civic EG 3 ประตู มือสองรุ่นเด่นตำนานยอดจอง
ฉายาซีวิคตาโต
รถยนต์ในยุค 90 แทบทุกรุ่น มักมีรูปทรงไฟหน้าเป็นเม็ดข้าวทรงรียาวแนวนอน จนกระทั่งการเปิดตัวของซีวิครุ่นนี้ในปี 1996 ที่ออกแบบไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูนูนยื่นออกมาจากตัวถัง อันเป็นสไตล์ไฟหน้าแบบใหม่ ที่ยังไม่แพร่หลายมาก่อน ประกอบกับรูปทรงลิ่มแบน ท้ายรถมีเสาหลังคาลาดเอียง และท้ายสั้น-สูง ทำให้ดูคล้ายกับรถสปอร์ตมากกว่าคู่แข่งอย่าง Corolla AE110 ในขณะนั้น
ภายใน Honda Civic EK ถูกออกแบบใหม่หมดจรด ไม่เหลือพื้นฐานเดิม คอนโซลที่ไร้ความเหลี่ยม แบ่งสัดส่วนยกแป้นควบคุมให้อยู่ใกล้คนขับตามสมัยนิยมมากกว่า ได้ออพชั่นมาตรฐานเป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ปรับสูงต่ำได้ทุกรุ่น กระจกไฟฟ้าและเซ็นทรัลล็อคทั้ง 4 บาน กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า ทั้งหมดนี้มีให้ตั้งแต่รุ่นล่างสุด LXi กับ EXi ในราคา 583,000 - 618,000 บาท
รุ่นย่อยกลาง VTi-L และ VTi-E เป็นต้นไป เพิ่มเติมเบาะคนขับปรับสูงต่ำได้ กับดิสค์เบรค 4 ล้อแล้วในราคา 623,000 - 658,000 บาท
ส่วนรุ่นท็อปสุด VTi-LA และ VTi-EA ได้เพิ่มเบรค ABS ขึ้นมาอีกด้วย นับว่าให้ออพชั่นมาครบถ้วนเกินหน้าคู่แข่งมากในปี 1996 ด้วยราคา 653,000 - 688,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม : Honda Civic รั้งอันดับ 1 รถที่ถูกเรียกคืนมากที่สุดในโลก เพราะเหตุใด?
เครื่องหัวฉีด เติมแก๊สโซฮอล์ได้
เครื่องยนต์ใน Honda Civic ตาโต ก็มีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์สปอร์ตซีดานอย่างมาก เพราะได้บล็อกหัวฉีดเบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร เหมือนกันทุกรุ่นย่อย มีให้เลือกระหว่างแคมเดียว SOHC วาล์วธรรมดา กำลัง 120 แรงม้า กับแรงบิด 143 นิวตันเมตร และรุ่นท็อปใช้วาล์วแปรผัน VTEC กำลัง 127 แรงม้า กับแรงบิด 144 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ รองรับแก๊สโซฮอล์ 91 ได้แล้วในสมัยนั้น
ในปีต่อมา 1997 Honda Civic ตาโตยังได้มีการปรับออพชั่นใหม่ เป็นรุ่น Special Edition ตัวท็อปสุด เพิ่มกุญแจรีโมท และแอร์แบ็คฝั่งคนขับเป็นครั้งแรกของตระกูลซีวิค พร้อมปรับราคาลงเหลือ 618,000 - 653,000 บาท เรียกว่าใครซื้อไปในปีก่อนหน้า คงช้ำใจไม่น้อย
ตัวถังใหม่ Civic Coupe
ในปี 1998 Honda Civic Coupe เปิดตัวขายไทย ด้วยหน้าตาครึ่งคันหน้าเหมือนรุ่นซีดานทุกอย่างจนถึงท่อนกลางประตูคนขับที่ยาวกว่ารุ่นซีดาน และตอนหลังเทลาดลง กลายเป็นรถเก๋ง 2 ประตู 4 ที่นั่ง มาพร้อมกับเครื่องยนต์ตัวท็อปเท่านั้น แบบเบนซิน VTEC ขนาด 1.6 ลิตร กำลัง 127 แรงม้า กับแรงบิด 144 นิวตันเมตร จับคู่ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระบบความปลอดภัยจัดเต็มด้วยเบรค ABS และ Airbag ฝั่งคนขับ
นับเป็นตัวถังที่สร้างภาพลักษณ์ความสปอร์ตได้เป็นอย่างดี ในราคาเปิดตัวที่ 724,000 บาท ซึ่งในปีต่อมาก็ได้ไมเนอร์เชนจ์เป็นหน้า LEV พร้อมปรับราคาขึ้นเป็น 791,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม : Honda Civic Coupe ตาโต 2 ประตูหนึ่งเดียวที่คุณควรรีบซื้อตอนนี้
ไมเนอร์เชนจ์ Civic LEV
ในปี 1999 Honda Civic ตาโต ได้ไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ ใช้ชื่อการทำตลาดต่อท้ายว่า VTEC LEV เพื่อสื่อถึงการใช้เครื่องยนต์ปล่อยมลพิษน้อย โดยปรับปรุงบล็อก D16 เดิมให้เพิ่มโปรแกรมกล่อง ECU สั่งเปิดวาล์วไอดีแค่ตัวเดียวในรอบต่ำ เพื่อให้อากาศม้วนตัวไปเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังเปลี่ยนระบบกรองไอเสีย-แคทตาไลติก เพิ่มขนาดจาก 300 เซลล์เป็น 600 เซลล์ เพื่อให้มลพิษน้อยลงสมชื่อ LEV : Low Emission Vehicle
ทางด้านสมรรถนะแรงม้าและแรงบิดเท่าเดิม เพิ่มเติมคือเกียร์มีโปรแกรม Grade Logic Control ใหม่ ช่วยเลือกเกียร์ตามองศาคันเร่งที่เหยียบไป พร้อมระบบ Direct Control ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ไม่ให้กระตุก
ความเปลี่ยนแปลงยังรวมไปถึงรูปร่างภายนอก ได้เปลี่ยนไฟหน้าใหม่เป็นตาเพชร มัลติรีเฟลคเตอร์ ตามสมัยนิยม เปลี่ยนลายกระจังหน้าให้มีครีบลู่ลม ที่กันชนหน้าเปลี่ยนทรงให้มีสันนูนใหญ่ขึ้น ตัดคิ้วกันกระแทกทีมุมทั้ง 4 ออกไป มีการเซาะร่องเหมือนช่องดักอากาศ แต่จริงๆแล้วพลาสติกทึบตัน ทำให้ดูสปอร์ตขึ้นเฉย ๆ ส่วนท้ายรถเปลี่ยนไฟท้ายใหม่ ย้ายชุดไฟเลี้ยวกับไฟถอย มาอยู่ด้านบนขนาดเล็กลงเป็นวงรี จึงมีฉายาว่า ท้ายข้าวโพด มาจากขนาดไฟเลี้ยวที่เล็กลงนี่เอง
Civic 1.8 Si
ในปี 1999 เดียวนี้เอง นอกจากการไมเนอร์เชนจ์หน้าตาเป็นโฉม LEV แล้วยังได้เพิ่มรุ่นท็อปไปอีกขั้นคือ Civic 1.8 Si กับขุมพลัง B18B เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ไม่มี VTEC ทำกำลังได้ 145 แรงม้า นับว่าแรงเกินหน้าเกินตาคู่แข่งในพิกัด 1.8 ลิตรไปหลายรุ่น
จุดต่างภายนอกเริ่มตั้งแต่ด้านหน้าเพิ่มไฟตัดหมอกในกันชนอย่างแนบสนิท ได้ล้อแม็กใบพัดลายใหม่ ภายในเป็นเบาะหนังทั้งคัน แม้กระทั่งพวงมาลัยกับหัวเกียร์ก็ยังหุ้มหนัง เปิดตัวด้วยราคา 831,800 บาท และในปี 2000 ก็ปรับราคาขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 848,000 บาท ก่อนจะหมดอายุการตลาดไป
อ่านเพิ่มเติม : ถ้าเราบอกว่า Honda Civic FD มือสอง ยังน่าใช้ไม่แพ้ 2021 Civic ของใหม่ คุณจะเชื่อมั้ย ?
รุ่นนี้วัยรุ่นนิยม
แม้อายุจะผ่านไป 25 ปีแล้ว รถรุ่นนี้ก็ยังมีความน่าสนใจในหมู่วัยรุ่นอยู่ เพราะยังมีของแต่งจากญี่ปุ่นไม่ขาดสาย เพราะในตลาดเมืองนอกยังมีรุ่น Civic Type R EK9 ที่จัดเป้นรถอนุรักษ์ไปแล้ว ทำให้ยังมีอะไหล่รองรับเรื่อย ๆ
ส่วนเรื่องค่าอะไหล่ก็ไม่แพง จุดที่ซ่อมโหดสุดก็จะเป็นบูชปีกนกทั้งชุดหน้า-หลัง ราคาหมื่นต้น ๆ แต่เปลี่ยนแล้วใช้ยาวนับ 10 ปี ส่วนอื่น ๆ ก็ให้ดูคอมเพรเซอร์แอร์ต้องไม่เยิ้มตรงสายพาน หารถที่ซ่อม 2 จุดนี้มาแล้วจะช่วยประหยัดเงินไปได้มาก ส่วนเครื่องยนต์ให้ดูว่าน้ำมันเครื่องใส น้ำหล่อเย็นไม่มีสนิม นับว่าผ่านแล้วในเบื้องต้น
Honda Civic ตาโต ไม่ว่าจะตัวถังซีดานหรือคูเป้ ยังเป็นรถมือสองที่น่าใช้งาน เพราะว่ามีระบบความปลอดภัยมาตรฐานเหมือนในยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งยังมีอะไหล่รองรับอีกมาก หรือจะแต่งซิ่งก็ไม่น่าเกลียด ด้วยดีกรี Type R รุ่นแรกในตระกูลซีวิค ที่พลิกภาพลักษณ์ให้กลายเป็นสปอร์ตซีดานในปัจจุบันได้สำเร็จ
อ่านเพิ่มเติม: ย้อนประวัติ Honda Civic กว่าจะมาเป็นรถซิ่งแห่งชาติ