2021 Haval H6 (2021 ฮาวาล เอช6) กำลังจะออกทำตลาดเมืองไทยเป็นรุ่นแรกภายใต้กลุ่มทุนจีน Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) หรือ GWM เตรียมฟาดฟันกับคู่แข่งระดับพระกาฬในกลุ่มรถเอสยูวี-ซี

GWM จะขึ้นสายการผลิต 2021 Haval H6 ที่โรงงานในจังหวัดระยอง คาดว่าจะเผยโฉมสู่สาธารณชนครั้งแรกที่งานบางกอก มอเตอร์โชว์ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ และออกจำหน่ายจริงในช่วงกลางปี พกพาตำแหน่งแชมป์รถเอสยูวีที่ขายดีที่สุดในเมืองจีนหลายปีซ้อนมาลุยตลาดบ้านเรา

แต่หลังจากการแถลงข่าวยืนยันการทำตลาดรถเอสยูวีรุ่นนี้ มีคอรถยนต์ตั้งข้อสังเกตว่าขุมพลังขับเคลื่อนของ H6 นั้นอาจจะเล็กเกินไปและไม่โดนใจลูกค้าชาวไทย เราจึงขอเปรียบเทียบสเปกเครื่องยนต์ของรถเอสยูวีคอมแพ็กต์ในระดับเดียวกันมาฝากกัน

วัดกับ Mazda CX-5 ที่มีขุมพลังให้เลือกเยอะที่สุด

2020 Mazda CX-5 (2020 มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลากหลายที่สุดในระดับเดียวกัน โดยมีทั้งหมด 3 รุ่น เริ่มต้นที่ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ตามมาด้วยดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร และปิดท้ายด้วยรุ่นท็อป เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 2.5 ลิตร

ขณะที่ H6 มีหัวใจขับเคลื่อน 2 ขนาดคือเบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร แข่งขันโดยตรงกับรุ่นเริ่มต้นของ CX-5 ซึ่งมีราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 1,300,000 – 1,560,000 บาท

ถึงแม้จะยังไม่มีการยืนยันว่า H6 จะมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาดใด แต่เมื่อพิจารณาดูจากทั้งแรงม้าและแรงบิดแล้ว ถือว่า H6 ไม่ได้เป็นรองคู่แข่งจากแดนอาทิตย์อุทัยรุ่นนี้ด้วยการติดตั้งเทอร์โบไว้ในเครื่องยนต์ที่มีความจุน้อยกว่า

สำหรับ CX-5 เครื่องยนต์ดีเซล และตัวท็อปเบนซิน เทอร์โบ 2.5 ลิตรนั้นมีค่าตัวกระโดดไปที่ 1,570,000 –1,850,000 บาท

เทียบกับยักษ์ใหญ่อย่าง Honda CR-V

เคยครองเจ้าตลาดในปี 2019 แต่เสียแชมป์ให้แก่ MG HS (เอ็มจี เอชเอส) ไปเรียบร้อยแล้วในปี 2020 สำหรับ 2020 Honda CR-V (2020 ฮอนด้า ซีอาร์-วี) มีเครื่องยนต์ 2 รูปแบบให้เลือกเช่นกัน คือเบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร และดีเซล เทอร์โบ ขนาด 1.6 ลิตร

แน่นอนว่ายอดขายส่วนใหญ่ของ CR-V อยู่ที่เครื่องยนต์เบนซินที่มีราคา 1,369,000 – 1,579,000 บาท ขณะที่รุ่นดีเซลเคาะค่าตัวทิ้งห่างไปที่ 1,759,000 บาท

เมื่อดูจากในตารางเปรียบเทียบ เครื่องยนต์เบนซินของ CR-V มีขนาดใหญ่กว่า H6 เกือบ 1.0 ลิตร แต่พละกำลังไม่ได้หนีกันมากนักเนื่องจากไม่มีระบบอัดอากาศ ขณะที่แรงบิดของ H6 ยังมากกว่าด้วยซ้ำไป ซึ่งน่าสนใจมากทีเดียวว่าสมรรถนะของใครจะดีกว่ากัน

ชน MG HS เมื่อสองมังกรปะทะกัน

2020 MG HS (2020 เอ็มจี เอชเอส) คว้าแชมป์ยอดขายกลุ่มเอสยูวี-ซีในปี 2020 ด้วยตัวเลขทะลุหลัก 6,000 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดเกือบ 30% กลยุทธ์สำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จคือการเคาะราคาจำหน่ายถูกกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่ 919,000 – 1,119,000 บาท

ที่น่าสนใจก็คือ เครื่องยนต์ของ HS มีขนาดความจุเท่ากับ H6 รุ่นเริ่มต้นพอดีเป๊ะ แถมยังพ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบและใช้ระบบเกียร์เหมือนกันด้วยราวกับทำวิจัยตลาดมาด้วยกัน แต่ข้อสังเกตคือเรี่ยวแรงของ H6 เหนือกว่า HS ทั้งแรงม้าและแรงบิด 

สิ่งที่ต้องจับตามองกันต่อไปก็คือราคาจำหน่ายของ H6 จะใช้กลยุทธ์เคาะต่ำกว่าคู่แข่งเหมือนกันหรือไม่ อ็อปชั่นอำนวยความสะดวกอาจไม่ต้องมีครบครันมากนัก ขอแค่อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งาน คาดว่าผู้บริโภคชาวไทยจะเปิดใจรับรถเอสยูวีจากจีนน้องใหม่ และจะเขย่าตลาดเมืองไทยได้อย่างแน่นอน