Honda ในประเทศญี่ปุ่นประกาศเลิกผลิตรถยนต์ระดับตำนานอย่าง Odyssey (ฮอนด้า โอดิสซีย์) และ Legend (ฮอนด้า เลเจนด์) รวมถึงรถพลังงานทางเลือก Clarity (ฮอนด้า คลาริตี้) ภายในปลายปีนี้
ปัจจุบัน รถยนต์ทั้งสามรุ่นขึ้นสายการผลิตที่โรงงานซายามะ ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะใกล้กรุงโตเกียวซึ่งมีกำหนดการปิดตัวลงเมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณนี้หรือปลายเดือนมีนาคม 2022 และ Honda ไม่มีแผนการย้ายสายการผลิตของรถยนต์ทั้งสามรุ่นจึงจะยุติการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมนี้
ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัยระบุว่ายังคงมีรถยนต์ทั้งสามรุ่นอยู่ในสต็อกให้ลูกค้าได้จับจองเป็นเจ้าของ และยืนยันว่าจะไม่มีการผลิตรุ่นใหม่ออกมาขายแล้ว
ทำไม Honda ถึงเลิกขายรถยนต์ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน
Honda Legend ถือเป็นรถยนต์ซีดานพรีเมียมระดับตำนาน เปิดตัวครั้งแรกในปี 1985 ก่อนถูกเลิกทำตลาดชั่วคราวในปี 2012 และกลับมาอีกครั้งในฐานะรถยนต์ไฮบริดในปี 2015 ปัจจุบันเข้าสู่เจนเนอเรชั่นที่ 5 และมียอดขายแค่หลักไม่กี่ร้อยคันเท่านั้น
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ค่ายรถจากแดนปลาดิบเพิ่งเปิดตัว Legend รุ่นพิเศษลิมิเต็ดเอดิชั่นที่มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Honda Sensing Elite ซึ่งได้รับรองมาตรฐานระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 หรือ level 3 ครั้งแรกของโลก ตัวรถจะเคลื่อนที่ไปได้เองโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องจับพวงมาลัยหรือมองถนนข้างหน้า แต่มีจำนวนผลิตจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น โดยคาดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกถ่ายทอดสู่รถยนต์รุ่นอื่นในอนาคต
ขณะที่ Odyssey เป็นรถเอ็มพีวีที่เคยถูกนำเข้ามาขายในเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อนและถูกอกถูกใจกลุ่มลูกค้าครอบครัวที่ชื่นชอบความแตกต่างพอสมควร แต่ยอดขายในญี่ปุ่นลดน้อยถอยลงอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนการปรับไมเนอร์เชนจ์เมื่อปีที่แล้ว รถอเนกประสงค์รุ่นนี้ทำตัวเลขยอดขายในบ้านเกิดได้ไม่ถึงหนึ่งพันคันในระยะเวลา 3 เดือน
ถึงแม้หลังจากปรับโฉมทำให้มีรูปลักษณ์โดดเด่นยิ่งขึ้น Odyssey จะทำยอดขายเกินหลักสองพันคันในเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับได้เสียงชื่นชมจากการติดตั้งประตูสไลด์อัตโนมัติครั้งแรกของรถยนต์ Honda ในญี่ปุ่น แต่เมื่อบวกลบคูณหารความคุ้มค่าในการจัดจำหน่ายแล้ว ผู้บริหารของ Honda ได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกการทำตลาด Odyssey ในที่สุด
ทั้งนี้ สายการผลิตของ Legend และ Odyssey ที่โรงงานซายามะจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคมนี้
ด้าน Clarity มีทั้งเวอร์ชั่นปลั๊กอินไฮบริด และไฮโดรเจนฟิวเซลซึ่งเกิดจากการพัฒนาร่วมกับ General Motors แต่ด้วยยอดขายที่ไม่สวยงามเนื่องจากราคาจำหน่ายที่สูง ทำให้ Honda ตัดสินใจยุบกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้เพื่อที่จะเปิดทางไปสู่การพัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือกอื่น ๆ โดยสายการผลิตของ Clarity ที่โรงงานซายามะจะปิดฉากลงในเดือนสิงหาคมนี้
ปัจจัยสำคัญที่ Honda ยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์ทั้งสามรุ่น นอกจากการปิดโรงงานซายามะในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังมีสาเหตุมาจากการมุ่งเน้นกลยุทธ์รถยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้น และการโยกย้ายต้นทุนการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่
Honda ต้องการยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปเพื่อที่จะมุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดในระยะยาว นั่นคือการนำเสนอรถยนต์ที่มีมลพิษเป็นศูนย์ภายในปี 2040 ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้รถเครื่องยนต์สันดาปอย่าง Legend และ Odyssey รวมถึง Clarity ที่ทำผลงานได้ไม่ดีนักโดยมียอดขายต่ำกว่ามาตรฐานต้องถูกหั่นทิ้ง
“Honda Legend, Clarity และ Odyssey ขึ้นสายการผลิตที่โรงงานซายามะ และเมื่อโรงงานดังกล่าวจะปิดตัวลง บริษัทฯ จึงตัดสินใจยุติการผลิต” Honda ระบุ
ขณะที่เว็บไซต์ Kuruma News (ข่าวรถยนต์) ในญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เป็นผู้บริหารของผู้แทนจำหน่าย Honda ว่า ยังไม่สามารถเปิดเผยแผนการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในอนาคตได้ แต่ยืนยันว่า Honda จะนำเสนอรถยนต์ที่คุ้มค่าน่าสนใจ ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด e:HEV และมีระบบเชื่อมต่อที่ทันสมัยให้แก่ลูกค้าต่อไป