รถใหม่ ๆ ที่ออกมาในปัจจุบัน มักมีการโฆษณาให้เห็นว่ามีออพชั่นหรูหรา หน้าตาสวยงามมากมาย แต่สิ่งที่ขาดไม่ค่อยจะได้เลยก็คือ "ซันรูฟ" ที่พอจะบ่งบอกความแพงของรถคุณได้บ้าง
แต่ก็มีบางคันที่กล่าวว่ากระจกที่จิดอยู่บนหลังคานั้นของตนเรียกว่า"มูนรูฟ"แล้วแบบนี้ ซันรูฟแตกต่างจากมูนรูฟอย่างไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง มาดูกัน
รถที่มีซันรูฟคันแรก
จริง ๆ หลายคนอาจคิดว่าซันรูฟนั้นเป็นของใหม่ แต่จริง ๆ แล้วรถรุ่นแรกที่มีซันรูฟคือรถยี่ห้อ Nash ผลิตปี 1937 ในสหรัฐอเมริกา ที่สามารถเปิดรับแสงได้
หลังจากนั้นจะเริ่มใช้กันมากใน Ford (ฟอร์ด) ในช่วงปี 1960 ที่ออกมาแทนแบบรถเปิดประทุน และมาโด่งดังใน 1973 Lincoln Continental Mark IV
ซันรูฟคืออะไร?
โดยจริง ๆ แล้ว ซันรูฟจะเป็นแผ่นที่อยู่บนหลังคาของรถยนต์ ที่สามารถเปิดออกไปเพื่อรับลมเข้ารถได้ ไม่ใช่กระจกแบบที่เข้าใจกัน
มูนรูฟคืออะไร?
ส่วนมูนรูฟ เป็นการพัฒนาต่อมาจากซันรูฟอีกทีหนึ่ง ในช่วงปี 1970 ให้เป็นแผ่นกระจกแทน โดยยังสามารถใช้มือเลื่อน หรือกดปุ่มเปิด-ปิดแบบไฟฟ้าได้อยู่ดี
ความแตกต่าง
โดย 2 คำนี้ถูกใช้สลับกันเรื่อย ๆ เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก โดยจริง ๆ แล้วมูนรูฟจะเป็นกระจกติดฟิล์มมาจากโรงงานอยู่แล้ว อาจจะมีที่เปิด-ปิดหรือไม่ก็ได้
แต่ซันรูฟจะเป็นกระจกที่สามารถเปิดได้แน่นอน ซึ่งจริง ๆ แล้วปัจจุบันจะสามารถใช้คำไหนก็ได้ เพราะมีความหมายเหมือนกัน
ซึ่งปัจจุบันก็สามารถเปิดออกได้หลายแบบ ทั้งใช้มือหรือระบบไฟฟ้าเปิด-ปิด, การเผยอออก, ในบางรุ่นก็สามารถเปิดกระจกออกรับลมได้
ประโยชน์ของซันรูฟ
นอกจากความสวยงามแล้ว ซันรูฟยังมีประโยชน์มากมาย ดังนี้
ระบายอากาศ
ข้อนี้เป็นสิ่งแน่นอนอยู่แล้วหากกระจกสามารถเปิดได้ โดยจะสามารถระบายอากาศให้ถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น เมื่อตัองการระบายอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เหมือนเราเปิดกระจกหน้าต่างช่วยตอนขึ้นรถ ซันรูฟเป็นตัวช่วยอีกทางนึง เนื่องจากธรรมชาติของความรัอนจะลอยขึ้นที่สูง
ซึ่งหากเป็นเมืองหนาว มันเพิ่มแสงเข้ามาทำให้รถร้อนขึ้นเล็กน้อย
เพิ่มความสว่าง
เนื่องจากปัจจุบันรถยนต์มักจะมีการออกแบบภายในให้เน้นเป็นสีดำ การเปิดซันรูฟจะช่วยให้แสงเข้ามาในรถมากขึ้น จะทำให้รถดูสว่าง มีมิติมากกว่าเดิม อาจจะพอช่วยคนนั่งด้านหลังได้เล็กน้อย
เปิดจอดนอนก็ได้
หากคุณเป็นคนที่ออกต่างจังหัดบ่อย แล้วชอบจอดนอนตามปั๊ม การแง้มกระจกข้างไว้ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยง หากมีซันรูฟที่สามารถเปิดได้ ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและระบายอากาศได้ดีขึ้น
ข้อเสียก็มีนะ
อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อเสีย เนื่องจากส่วนมากจะมีขอบยางด้านล่างรองอยู่ หากจอดตากแดดนาน ๆ ยางอาจเกิดการเสื่อมทำให้น้ำอาจรั่วเข้ามาในรถได้
นอกจากนี้หากเป็นระบบเปิดไฟฟ้า หากมอเตอร์เสียก็อาจเสียเงินหลายบาทในการเปลี่ยน
ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นสิ่งที่มี หรือไม่มีก็ได้ ไม่ได้เสียหาย เพราะนอกจากดูเท่ห์ หรือเอาไว้อวดสาวแล้ว ก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง
หรือหากใครมีรถอยู่แล้วอยากเอาไปติดเพิ่มก็ทำได้ ราคาอาจอยู่ที่ 2,000-3,000 บาทขึ้นไป แต่ก็ต้องดูผลงานด้วยว่าได้มาตรฐานหรือไม่ เพราะต้องมีการเจาะตัวถังรถ หากเก็บงานไม่ดีอาจทำให้น้ำรั่วได้