Lexus (เลกซัส) เปิดตัว “LF-Z Electrified” คอนเซปต์คาร์ BEV ที่รวมเอาสมรรถนะการขับขี่ สไตล์ และเทคโนโลยีไว้ด้วยกัน โดยหวังว่าจะออกมาในปี 2025
เลกซัสวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ใหม่และปรับปรุงโฉมมากกว่า 20 รุ่น รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 10 รุ่นอย่างเช่นรถยนต์ BEV รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รถยนต์ไฮบริด (HEV) ตามความต้องการของตลาด และจะเปิดกลุ่มสปอร์ตมากขึ้น
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
คอนเซปท์ภายนอก
รูปลักษณ์ภายนอกจะมาในแบบครอสโอเวอร์ เรียบง่ายและดึงดูดสายตา กระจังหน้าขนาดใหญ่แบบปิด ไฟหน้าเรียวยาว ไฟท้ายเป็นเส้นเดียวกัน ซุ้มล้อและหลังคาสีดำ ล้อได้รับการจัดวางให้ใกล้กับมุมทั้งสี่ของตัวรถมากที่สุด เพื่อเพิ่มระยะฐานล้อ
ภายในดึงดูด
ภายในออกแบบให้ความมินิมอลแบบเปิดกว้าง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หน้าปัดแบบดิจิตอลแบบโค้งเข้าหาคนขับ ไปจนถึงหน้าจอระบบความบันทิงแบบสัมผัสง่าย เพราะมีองศาที่เหมาะสม มีฟังก์ชั่นให้เลือกทั้ง ระบบนำทาง, เครื่องเสียง, โหมดการขับขี่ เครื่องเสียง Mark Levinson
ระบบภายใน
นอกจากนี้ ยังมีระบบ AI สั่งการด้วยเสียง ที่สามารถจดจำ เรียนรู้ และปรับให้เข้ากับนิสัยและความต้องการของผู้ขับขี่ เพื่อช่วยทำงานต่าง ๆ อย่างเช่นการระบุเส้นทางในการขับขี่และการจองโต๊ะในร้านอาหาร
ควบคุมตัวรถด้วยสมาร์ทโฟนในการล็อก-ปลดล็อกประตู ยังสามารถแชร์กุญแจดิจิตอลไปยังคนอื่นได้ มีเซนเซอร์รอบคันเพื่อตรวจจับวัตถุเมื่อผู้ขับเปิดประตูรถ
เครื่องยนต์ไฟฟ้า
เครื่องยนต์ใช้เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ระบายความเย็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 90 กิโลวัตต์/ชม. มีกำลัง 400 กิโลวัตต์ (536 แรงม้า) และแรงบิด 700 นิวตันเมตร
ทำความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3 วินาที เมื่อขาร์จเต็มสามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 กิโลเมตร
ช่วงล่างและการวางแบต
เทคโนโลยีควบคุมพลังขับเคลื่อนสี่ล้อแบบใหม่ “DIRECT4” ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าควบคุมล้อทั้งสี่ ถ่ายกำลังร่วมกับอัตราการกดคันเร่ง สามารถเลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือขับเคลื่อนล้อหลัง และขับสี่
การจัดวางชุดแบตเตอรี่ไว้ใต้พื้นรถในแนวยาวทำให้ได้ความสมดุล แชสซีมีความแข็งแรงมากขึ้น และจุดศูนย์ถ่วงของรถต่ำลงเพื่อเพิ่มความคล่องตัว นอกจากนี้ยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงภายนอก
มีระบบบังคับเลี้ยวแบบไฟฟ้า โต้ตอบโดยตรงระหว่างส่วนควบคุมพวงมาลัยและแรงขับเคลื่อน การใช้ระบบนี้ทำให้รถยนต์มีมุมบังคับเลี้ยวที่แคบลง และมีความแม่นยำมากขึ้น
ยังคงเป็นคอนเซปท์
อย่างไรก็ตาม ก็ยังเป็นเพียงแนวทางในการออกแบบรถในอนาคต ต้องมารอดูกันว่าดีไซน์สุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร มีเทคโนโลยีอะไรให้เราบ้าง ซึ่งหากดุจากของที่ให้และสมรรถนะแล้ว ราคามี 5 ล้านขึ้นไปแน่นอน
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });