เจาะสเปก Isuzu D-Max กระบะพลิกโลก สมศักด์ศรีผู้นำตลาดมากเพียงใด

อีซูซุ ผู้นำตลาดรถกระบะเมืองไทย เปิดตัว 2019 อีซูซุ ดีแม็กซ์ เจนเนอเรชั่นที่ 3 มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 5.10 แสนบาทไปจนถึง 1.157 ล้านบาท มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 รุ่น คือดีเซล 4 สูบ พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ ขนาด 1.9 ลิตร พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร และดีเซล 4 สูบ พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ ขนาด 3.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า  แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร

2019 อีซูซุ ดีแม็กซ์ เป็นรถกระบะที่มีทั้งหมด 3 ตัวถัง คือแบบตอนเดียว แบบ 2 ประตู และแบบ 4 ประตู ผลิตโดยอีซูซุ ในประเทศไทย และเปิดตัวในช่วงปลายปี 2562 สำหรับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของดีแม็กซ์อยู่ที่ประมาณ 13.9 กม.ต่อลิตรสำหรับรุ่นสูงสุด V-Cross 3.0 M ขับเคลื่อน 4 ล้อ

Isuzu D-Max เจนเนอเรชั่นที่ 3 ยังถือเป็นรถกระบะที่มีความสดใหม่ในตลาดเพราะเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วและได้เสียงตอบรับอย่างยอดเยี่ยม

สโลแกน “พลานุภาพ พลิกโลก” ทำให้สื่อมวลชนและลูกค้าทั่วไปแปลกใจในความยิ่งใหญ่อลังการ ถึงแม้ในท้ายที่สุดแล้ว D-Max จะไม่ได้มีนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกได้ถึงขนาดนั้น แต่ยอดขายที่นำโด่งเป็นเจ้าตลาดก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายของ Isuzu ในการสะเทือนวงการปิกอัพบ้านเราได้

D-Max มีรุ่นย่อยให้เลือกสรรมากมายถึงกว่า 30 รุ่น ตามสไตล์รถกระบะในบ้านเรา โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้

Isuzu D-Max Cab 4

รุ่น 1.9 Ddi Z ราคา 840,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi L DA ราคา 779,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi L ราคา 764,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi S ราคา 686,000 บาท

Isuzu D-Max Hi-Lander 4 Doors

รุ่น 3.0 Ddi M ราคา 1,054,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi M ราคา 1,023,000 บาท

รุ่น 3.0 Ddi ZP ราคา 986,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi ZP (6AT) ราคา 990,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi ZP ราคา 955,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi Z (6AT) ราคา 917,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi Z ราคา 882,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi L DA ราคา 825,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi L ราคา 810,000 บาท

Isuzu D-Max Hi-Lander 2 Doors

รุ่น 3.0 Ddi รุ่น ZF ราคา 878,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi รุ่น ZF (6AT) ราคา 883,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi รุ่น Z ราคา 848,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi รุ่น Z (6AT) ราคา 816,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi Z 781,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi L DA ราคา 723,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi L ราคา 708,000 บาท

Isuzu D-Max V-Cross 4×4

รุ่น 3.0 Ddi M 4×4 4 ประตู ราคา 1,157,000 บาท

รุ่น 3.0 Ddi ZP 4×4 4 ประตู ราคา 1,089,000 บาท

รุ่น 3.0 Ddi Z 4×4 4 ประตู ราคา 974,000 บาท

รุ่น 3.0 Ddi Z 4×4 2 ประตู ราคา 852,000 บาท

Isuzu D-Max Spacecab

รุ่น 1.9 Ddi Z ราคา 735,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi L DA ราคา 688,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi L ราคา 673,000 บาท

รุ่น 3.0 Ddi S ราคา 628,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi S ราคา 605,000 บาท

Isuzu D-Max Spark

รุ่น 3.0 Ddi S 4×4 ราคา 675,000 บาท

รุ่น 3.0 Ddi S ราคา 590,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi S ราคา 572,000 บาท

รุ่น 1.9 Ddi B ราคา 547,000 บาท

รุ่น Spark Cab Chassis ราคา 510,000 บาท

รุ่น Spark Cab Chassis ราคา 515,000 บาท

มิติตัวถัง

มิติตัวถัง Isuzu D-Max  มีความยาว 5,265 มม. กว้าง 1,870 มม. และสูง 1,810 มม. ซึ่งยาวขึ้นและกว้างขึ้น แต่เตี้ยลงเมื่อเทียบกับ D-Max รุ่นเดิม ระยะฐานล้ออยู่ที่ 3,125 มม. ระยะต่ำสุดถึงพื้น 240 มม. และมีน้ำหนักตัวรถ 2,020 กก.

ไฮไลท์

Isuzu D-max ครองตำแหน่งผู้นำยอดขายรวมรถกระบะในประเทศไทยประจำเดือน มกราคม – มีนาคม 2020 โดยไล่เรียงอันดับได้ดังนี้

อันดับ 1  Isuzu D-max ยอดขาย 37,857 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 43.4%

อันดับ 2  Toyota Hilux Revo ยอดขาย 9,413 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 33.7%

อันดับ 3  Mitsubishi Triton ยอดขาย 7,209 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 8.3%

การออกแบบภายนอก

มาดูกันที่รูปลักษณ์ภายนอกโดยเน้นที่ตัวท็อป D-max รุ่น V-Cross 3.0 M 4×4 ประกอบด้วยไฟหน้า LED Bi-Beam LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟเดย์ไลท์แบบบิลท์อิน ไฟตัดหมอกและไฟท้าย Dual Sonic LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพ่นสีดำด้าน สวมทับด้วยยางขนาด 265/60 R18 ของแบรนด์ Bridgestone รุ่น Dueller H/T

หน้าตายังคงเอกลักษณ์ของ Isuzu ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จากลูกค้าบางคนว่าไม่ค่อยเปลี่ยนไปเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้รักษาฐานลูกค้าเดิมที่ชื่นชอบความเป็น Isuzu ที่มีชื่อชั้นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและไว้วางใจได้มากที่สุดแบรนด์หนึ่งในบ้านเรา

การออกแบบภายใน 

เปิดประตูเข้ามาด้วยกุญแจสมาร์ทคีย์ เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ส่วนเบาะคนนั่งตอนหน้านั้นยังเป็นแบบปรับด้วยมือ ดีไซน์ห้องโดยสารแบบ Sharp Horizontal Layers มีมิติภายในที่กว้างขึ้น มอบรสนิยมด้วยวัสดุพรีเมี่ยม Piano Black และ Satin Chrome

หน้าจอมาตรวัด Smart MID ขนาด 4.2 นิ้ว ส่วนระบบอินโฟเทนเมนท์แสดงผลผ่านจอขนาด 9 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นมากมาย รองรับแอปเปิลคาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ช่องเก็บของอเนกประสงค์รอบคัน ที่วางแก้วรวม 10 จุด

ระบบความปลอดภัย

กระจังบังลมหน้า IR Cut ป้องกัน UV-A / UV-B

ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตา Blind Spot Monitor

ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert

ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Control

ระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control System

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA

ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย

เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง

เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 ตำแหน่ง

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย

พื้นปูกระบะ Back Liner

แดชบอร์ด ตกแต่งด้วยวัสดุนุ่มมือ หุ้มด้วยหนังสีน้ำตาล

ที่พักแขน ตกแต่งด้วยวัสดุนุ่มมือ หุ้มด้วยหนังสีน้ำตาล

ฝาปิดที่เก็บของคอนโซลกลาง วัสดุนุ่มมือ หุ้มด้วยหนังสีน้ำตาล

ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry

ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone

ช่องแอร์ตอนหลัง

เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีน้ำตาล

เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง

หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส

ระบบนำทางเนวิเกชั่น

ระบบ Idling Start/Stop System

ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ

ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์จากระยะไกล

ระบบขับเคลื่อน

Isuzu D-Max มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่นตามรุ่นย่อยข้างต้น ดังนี้

เครื่องยนต์ดีเซล พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler รหัส RZ4E-TC 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว ขนาด 1.9 ลิตร DOHC Commonrail Direct Injection พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

เครื่องยนต์ดีเซล พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler รหัส 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

สมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบาย

อัตราเร่งของขุมพลัง 3.0 ลิตรนั้นถือว่าเร็วที่สุดรุ่นหนึ่งในเซกเมนท์ การตอบสนองทำได้ดีและมีช่วงพละกำลังกว้าง เกียร์ทำงานได้อย่างนุ่มนวลพอสมควร สรุปได้ว่าเครื่องยนต์รองรับการใช้งานทุกรูปแบบอย่างยอดเยี่ยม

ระบบบังคับเลี้ยวจัดอยู่ในระดับปานปลางในกลุ่มรถกระบะ ช่วงล่างยังคงติดนุ่มนวลตามมาตรฐานรถ D-Max แต่ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ดีกว่ารุ่นเดิม มีความบึกบึน สมบุกสมบัน ขณะเดียวกัน ยังนั่งสบายที่ความเร็ว 100 - 120 กม.ต่อชม. ส่วนเสียงลมและเครื่องยนต์ยังคงดังพอควร

อัตราความประหยัดน้ำมัน

สำหรับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Isuzu D-Max ตามข้อมูล Eco Sticker อยู่ที่ประมาณ 13.9 กม.ต่อลิตรสำหรับรุ่นท็อป V-Cross 3.0 M 4×4 ส่วนรุ่นอื่น ๆ จะประหยัดมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ตัวเลขการกินน้ำมันจะประหยัดมากขึ้นจนเกินหลัก 16 กม.ต่อลิตร

สรุป

หากดูจากการออกแบบภายนอกและภายใน สเปกทางเทคนิคและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก Isuzu D-Max ยังคงตอบโจทย์คอรถกระบะครบทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะต้องการรถปิกอัพแนวไลฟ์สไตล์หรือม้าแรงที่รองรับการบรรทุกหนักเพื่อการขนสินค้าเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ

รุ่นย่อยที่มีให้เลือกสรรมากมายน่าจะตอบสนองความต้องการได้อย่างแน่่นอน ไม่ว่าจะทั้งรุ่นตอนเดียว 2 ประตู และ 4 ประตูมีให้เลือกใช้งานได้อย่างครอบคลุม สนับสนุนด้วยบริการหลังการขายที่ไว้วางใจได้จากศูนย์บริการเกือบ 400 แห่งทั่วประเทศ

อาจจะพูดได้ว่า Isuzu D-Max ที่ได้รับการยกระดับใหม่หมดทั้งคันสามารถดึงดูดลูกค้า Isuzu ที่มีอยู่เดิม และขยายฐานดึงลูกค้าแบรนด์อื่นมาได้อีกด้วย เห็นได้จากยอดขายที่น่าประทับใจและผงาดเป็นผู้นำตลาดมาหลายเดือนติดต่อกัน เรียกได้ว่าลูกค้าทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน