ร่างกฎหมายเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ที่กำลังถูกพิจารณาโดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน มีประเด็นมากมายที่เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า แต่มีอีกประเด็นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
อย่างไรก็ตาม ในร่างกฎหมายนี้มีเป้าหมายป้องกันการเมาแล้วขับด้วยระบบ “เทคโนโลยีป้องกันการขับขี่ที่บกพร่องขั้นสูง”
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
เพราะคนเมาไม่ขับมีมาก
จากส่วนหนึ่งในร่างกฎหมาย ความว่า “ในแต่ละปี ประมาณ 1 ใน 3 ของอุบัติเหตุที่ถึงแก่ชีวิตบนทางหลวงในสหรัฐฯ มีสาเหตุจากการขับขี่ที่บกพร่องจากการดื่มแอลกอฮอล์” โดยในปี 2019 เกิดเหตุลักษณะเดียวกันนี้กับผู้ขับขี่ 10,142 ราย ที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์เท่ากับ 0.08 (80 มก.เปอร์เซ็นต์) หรือมากกว่า
อย่างไรก็ตาม สถาบันความปลอดภัยบนทางหลวงของสหรัฐฯ เชื่อว่าเทคโนโลยีป้องกันการขับขี่ที่บกพร่องขั้นสูง จะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิตได้ถึง 9,400 รายต่อปี
โดยในร่างกฎหมายระบุว่า “เทคโนโลยีป้องกันการขับขี่ที่บกพร่องขั้นสูง ต้องเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลใหม่ทั้งหมด”
ระบบดังกล่าวจะค่อย ๆ ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ขับขี่อย่างช้า ๆ เพื่อจะตัดสินใจว่ามีความบกพร่องหรือไม่ หรือตรวจสอบความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด ถ้าระบบพบว่าผู้ขับขี่มีความบกพร่อง ระบบจะป้องกันไม่ให้มีการขับขี่หรือควบคุมรถ
รถใหม่ทุกคันต้องมีหลังจากมีกฎหมายนี้ภายใน 3 ปี
ในร่างกฎหมายยังระบุว่า เทคโนโลยีนี้ควรติดตั้งในรถทุกคันภายใน 3 ปี นับแต่การประกาศใช้ ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์จะมีเวลา 3 ปีในการเตรียมตัวสำหรับระบบนี้ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถเลือนได้เมื่อจำเป็น
แม้เนื้อหาร่างกฎหมายจะเป็นปลายเปิด แต่ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายก็ได้เตรียมการสำหรับระบบดังกล่าวกันมาบ้างแล้ว เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ก็อาจเป็นพื้นฐานของเทคโนโลยีนี้ได้ เช่น การใช้กล้องตรวจสอบสถานะผู้ขับขี่ที่ทำงานร่วมกับพวงมาลัยของรถ
ร่างกฎหมายใหม่ในสหรัฐฯ ฉบับนี้ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของความปลอดภัยของผู้คนเพียงอย่างเดียว แต่แสดงถึงการปรับเปลี่ยนกฎหมายให้เข้ากับเทคโนโลยีที่มีในยุคสมัยอีกด้วย
ทั้งนี้ จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในประเทศไทย อันดับที่ 1 มีสาเหตุมาจากเมาแล้วขับ และจาก พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ถ้าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มก.เปอร์เซ็นต์ ในผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ถือว่าเมาสุรา
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });