2020 Toyota GR Yaris (โตโยต้า จีอาร์ ยาริส) จอดเด่นเป็นสง่าภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปประจำปีนี้ รอให้แฟนพันธุ์แท้ได้ยลโฉมตัวจริงและถ้าเงินถึงก็สามารถจับจองกันได้
สาเหตุที่ต้องเกริ่นว่า “แฟนพันธุ์แท้” สามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้ก็เพราะราคาจำหน่ายของ GR Yaris คันนี้ถูกเคาะไว้สูงถึงไม่เกิน 2.7 ล้านบาท (คาดว่า 2.699 ล้านบาท) ค่าตัวระดับนี้ถ้าไม่รักกันจริงก็อาจหันเหไปหารถสปอร์ตซีดานยี่ห้ออื่น ๆ อย่าง Subaru WRX STI หรือรถยุโรปพรีเมียมสักคัน
แล้วความพิเศษของเจ้ารถซับคอมแพ็กต์ 3 ประตูตัวแรงคันนี้อยู่ที่ตรงไหน ทำไมจึงกลายเป็นไฮไลท์ภายในบูธของ Toyota ได้ เรามาชมกัน
ตัวถังสร้างขึ้นด้วยดีเอ็นเอรถแข่งแรลลี่
Toyota ทำการพัฒนา GR Yaris ขึ้นมาเองภายในองค์กรโดยไม่ได้ร่วมมือกับบริษัทรถยนต์อื่นเหมือนกับที่ทำกับรถสปอร์ตคูเป้อย่าง Supra ที่จับมือกับ BMW กระทั่งคริส แฮร์ริส นักทดสอบรถชื่อดังถึงกับหล่นคำถามไว้หลังจากได้ทดลองขับ GR Yaris ว่า "ทำไม Toyota ถึงไม่พัฒนา Supra ขึ้นเองถ้ามีความเชี่ยวชาญขนาดนี้?"
ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นใช้ประสบการณ์ที่ได้จากการพัฒนารถแข่งแรลลี่ WRC มาใส่ไว้ในรถโปรดักชั่นคาร์ที่ขับบนถนนได้ทั่วไปอย่างถูกกฎหมาย โครงสร้างตัวถังของรถซับคอมแพ็กต์ตัวแรงคันนี้ถูกพัฒนาใหม่ให้มีความแข็งแรงทนทานเพื่อรองรับการขับขี่อย่างดุดันทั้งบนสนามแข่งและถนนสาธารณะ ทำให้ GR Yaris มีจุดเชื่อมตัวถังเพิ่มขึ้นอีก 259 จุดเมื่อเทียบกับ Yaris รุ่นสแตนดาร์ด
นอกจากนี้ GR Yaris ยังใช้กาวเชื่อมโครงสร้าง (structural adhesive) ถึง 35.4 เมตร มากกว่า Yaris เท่าตัวซึ่งใช้กาวอยู่ที่ 14.6 เมตร
GR Yaris ยังเป็นรถโมเดลแรกของ Toyota ที่ใช้หลังคาคาร์บอนคอมโพสิทเนื้อฟอร์จหรือ C-SMC ซึ่งเป็นการหล่อขึ้นรูปแผ่นคาร์บอนทำให้มีความแข็งแรงสูงยิ่งยวด แต่มีน้ำหนักเบากว่าแผ่นเหล็กกล้าทั่วไปถึง 3.5 กก. ซึ่งนอกจากช่วยลดน้ำหนักตัวรถโดยรวมแล้ว ยังช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงตัวรถลงอีกด้วย
นอกจากวัสดุ C-SMC แล้ว Toyota ยังใช้อลูมิเนียมในการผลิตโครงสร้างส่วนใหญ่ รวมถึงฝากระโปรงหน้า ฝาประตูท้าย และแผงประตูทั้ง 2 บาน ทำให้ลดน้ำหนักลงไปอีกเกือบ 24 กก. เหล็กกล้าถูกนำมาใช้กับตัวถังด้านนอก (bodyshell) เท่านั้น
เหล็กกล้าทนแรงดึงสูงยังถูกนำมาใช้กับจุดสำคัญของตัวรถเพื่อให้มีการดูดซับแรงปะทะได้ดี ทั้งหมดทั้งปวงทำให้ GR Yaris มีมวลน้ำหนักตัวรถเพียง 1,280 กก. และมีสัดส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักอยู่ที่ 200.8 แรงม้าต่อตัน เหนือกว่า Yaris รุ่นสแตนดาร์ดเกือบเท่าตัว
แข็งแกร่ง ลู่ลม และทรงพลัง
ถึงแม้ GR Yaris จะพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับ Yaris รุ่นสแตนดาร์ด (สเปกยุโรป) แต่รถทั้งสองโมเดลแชร์ชิ้นส่วนร่วมกันแค่ไฟหน้า กระจกมองข้าง ไฟท้าย และเสาอากาศครีบฉลามเท่านั้น ขณะที่ชิ้นส่วนอื่น ๆ ถูกออกแบบใหม่เพื่อให้มีความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์
มิติตัวถังของ GR Yaris มีความยาวกว่าและกว้างกว่า แต่เตี้ยลงเมื่อเทียบกับ Yaris รุ่นสแตนดาร์ด ดีไซน์ตั้งแต่ส่วนหน้ารถไปจนถึงใต้ท้องรถและแผงหลังคาถูกออกแบบใหม่ทำให้สามารถแหวกอากาศได้ดียิ่งขึ้น
GR Yaris ในตลาดโลกมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ RZ, RS และ RC ทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยนำเสนอเฉพาะตัวท็อป นั่นคือ GR Yaris RZ มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบ รหัส G16E-GTS ขนาด 1.6 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์และระบบฉีดน้ำหล่อเย็น เฟืองท้าย Torsen LSD ล้อ BBS ฟอร์จอลูมิเนียม หุ้มด้วยยาง Michelin Pilot Sport 4S
พละกำลังสูงสุด 272 แรงม้าอยู่ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,000 – 4,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ GR-Four ผ่านคลัตช์แบบมัลติเพลท อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ทำได้ในเวลาเพียง 5.0 วินาทีเท่านั้น ส่วนท็อปสปีดถูกจำกัดด้วยระบบอิเลคโทรนิคอยู่ที่ 230 กม.ต่อชม.
เมื่อดูจากสเปกแล้วก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนว่า Toyota GR Yaris กับค่าตัว 2.7 ล้านบาทนั้นคุ้มค่าหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าหันไปดูราคาในประเทศญี่ปุ่นที่เคาะเพียง 3.96 ล้านเยนหรือประมาณ 1.1 ล้านบาทแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจกับอัตราภาษีนำเข้าสุดโหดของบ้านเรา