อาจเป็นชื่อที่ชาวไทยไม่ค่อยคุ้นหูกันนัก 2023 Toyota Sequoia (โตโยต้า เซควอญ่า) ก็ถือเป็นรถที่ค่อนข้างเก่าแล้ว เนื่องจากเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2007 

ล่าสุดจึงได้มีการปรับโฉมหน้าใหม่ให้สดใหม่กว่าเดิม มาด้วยกันถึง 5 รุ่น คือ SR5, Limited, Platinum, TRD Pro และ Capstone

พื้นฐานจากกระบะ

Sequoia คือต้นสนขนาดใหญ่ที่เติบโตในเขตอุทยานของ California สำหรับตัวรถยนต์นั้น มีพื้นฐานมาจากกระบะ Full-Size ที่ใหญ่ที่สุด Toyota Tundra ให้เป็น SUV 7 ที่นั่ง 

Toyota Sequoia ใช้พื้นฐาน Body-On-Frame บนเฟรมแชสซีรุ่นใหม่ TNGA GA-F มีหน้าตาดูบึกบึนที่ได้รับมาจาก Tundra ล่าสุด ด้วยกระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยมขนาดใหญ่ ซึ่งจะแตกต่างออกไปในแต่ละรุ่น

อ่านเพิ่มเติม 2022 Toyota Tundra TRD Pro กระบะไซส์ยักษ์

จะมีแบบที่เป็นโลโก้โตโยต้าแบบสามห่วง และแบบตัวอักษร TOYOTA ที่จะมีแถบไฟ LED มาด้วย พร้อมขนาดข้างด้วยไฟหน้า LED รูปตัว T 

ตีโป่งซุ้มล้อให้ใหญ่ ใส่แร็คหลังคา ปลายท่อไอเสียคู่ บันไดข้างแบบพับเก็บได้ power running boards ในรุ่นท็อป

ด้านท้ายมาพร้อมไฟ LED ที่เรียวบาง  ล้ออัลลอยเลือกได้ทั้งขนาด 18, 20 และ 22 นิ้ว ตามแต่ละรุ่นย่อย 

ชุดแต่งเพียบ

หากใครที่ต้องการชุดแต่งสปอร์ต สามารถเลือกแพ็คเกจ TRD Sport ได้ มีให้ในรุ่น SR5 ระดับเริ่มต้น เพิ่มล้อสีดำด้านขนาด 20 นิ้ว โช้ค Bilstein และสปริงจาก TRD ภายในได้แป้นเหยียบอะลูมิเนียม พร้อมปุ่มสตาร์ทสีแดง

หรือจะเอา TRD Off-Road ติดตั้งโช้คอัพและสปริง TRD รวมถึง Differential ด้านหลัง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เพลาขับหน้าสีแดง แป้นเหยียบอะลูมิเนียม และปุ่มสตาร์ทสีแดง

ยังมาพร้อมกับระบบ Downhill Assist Control, Multi-Terrain Select และ กล้อง Multi-Terrain Monitor ทำงานร่วมกับ Crawl Control ซึ่งทำหน้าที่เป็นระบบควบคุมความเร็วคงที่ความเร็วต่ำ

แต่ถ้าอยากได้ตัวท็อปสุด TRD Pro ที่จะได้ระบบหลายอย่างจาก TRD Off-Road คือ ฟืองท้ายแบบล็อก, Multi-Terrain Select, Crawl Control และ Downhill Assist Control

แต่จะได้โช้คอัพของ FOX และแผ่นกันกระแทกอะลูมิเนียมด้านหน้าเพิ่มเข้ามา มีแร็คหลังคา ปลายท่อไอเสียคู่ และล้ออัลลอยด์สีดำขนาด 18 นิ้ว

ภายในใหญ่โต

ภายในมีเบาะที่นั่ง 3 แถว ในแถวที่ 2 จะเป็นแบบ Captain Seats ส่วนด้านท้ายสามารถปรับเอนได้และพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า เลื่อนเดินหน้าถอยหลังได้มากถึง 6 นิ้ว

แผงหน้าปัดมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอกลางมีขนาด 8-14 นิ้วแล้วแต่รุ่น แถมระบบนำทางมาให้และผู้ช่วยอัจฉริยะ

ในรุ่น Limited จะได้ประตูท้ายไฟฟ้า Hands-Free ระบบอุ่นเบาะและพวงมาลัยพร้อมระบายอากาศ 

รุ่น Platinum มีที่ Wireless Charger, หลังคา Panoramic Moonroof, จอ Head-Up Display ลำโพง JBL 14 จุด 

ส่วนในรุ่นท็อปสุดอย่าง Capstone เบาะหุ้มด้วยหนังสีทูโทน, ตกแต่งภายในด้วยไม้วอลนัท, โลโก้ Capstone แบบเรืองแสงบนแผงหน้าปัด และกระจกประตูหน้าเป็นแบบป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก

เบนซินไฮบริด

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินไฮบริดใหม่ i-Force MAX V6 ขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 36 kW  แบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ ให้กำลัง 437 แรงม้า แรงบิด 790 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

มีโหมดการขับขี่ 4 โหมด เลือกได้ระหว่างขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ part-time ช่วงล่างหน้าอิสระ หลัง Multi-link พร้อมกับระบบช่วงล่างถุงลมที่สามารถปรับระดับความความสูงเพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกได้

ปรับปรุงพละกำลังในการลากจูง ได้สูงสุด 4,082 กิโลกรัม มากกว่ารุ่นก่อนเกือบ 22%

น่าเสียดายที่ตัวเลขอัตราเร่งและอัตราประหยัดน้ำมันยังไม่มีการเปิดเผยออกมา

ระบบความปลอดภัย

Toyota Sequoia ติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 2.5 ประกอบด้วย

• ระบบป้องกันการชนด้านหน้าพร้อมเตือนคนเดินถนน PCS with PD
• ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ DRCC
• ระบบเตือนรถออกนอกเลน LDA
• ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน LTA
• ไฟสูงอัตโนมัติ AHB
• ระบบเตือนให้ตรวจสอบที่เบาะหลัง RSR
• ระบบเตือนมุมอับสายตา BSM
• ระบบอ่านป้ายจราจร RSA
• กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา

เสียดายที่ไม่มา

ก็ต้องน่าเสียดายที่ว่า ยักษ์ใหญ่ 2023 Toyota Sequoia จะไม่มีแผนการทำตลาดในประเทศไทยแต่อย่างใด แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ด้วยขนาดที่ใหญ่โต และราคาที่อาจจะแพงเอามาก

หากใครอยากได้ ก็คงจะต้องซื้อ Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) กันไปก่อนนะครับ