10 รถ SUV ขายดีที่สุดในโลก ประจำปี 2019

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า รถยนต์ประเภท SUV ในตอนนี้นั้นเรียกได้ว่าเกือบจะครองตลาดรถยนต์โลก  ด้วยพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง นั่งสบาย เก็บสัมภาระได้เยอะ รวมถึงสมรรถนะที่ดีขึ้นจากเครื่องที่ใหญ่กว่า ทำให้มีการแข่งขันกันอย่างมากมายจากค่ายรถยนต์เจ้าดังๆ ที่เริ่มผลิตและส่งออกรถ SUV กันมากขึ้น โดยเราจะพามาดู 10 อันดับที่ขายดีที่สุดในโลกของปี 2019 กัน

1. Toyota RAV4

แม้รถคันนี้ จะไม่ได้นำเข้ามาขายในประเทศไทย แต่ก็กวาดยอดขายไปแล้วกว่า 964,000 คันทั่วโลก ซึ่งขายดีกว่าปี 2018 ถึง 19% ตัวรถใช้พื้นฐานโครงสร้าง TNGA-K แบบเดียวกับ Toyota Camry ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าในสไตล์ดุดัน เสริมด้วยซุ้มล้อแบบเหลี่ยมตัดขอบด้วยวัสดุสีดำ ใช้เครื่อง Dynamic Force Engine มีทั้ง 2.0 ลิตร 173 แรงม้า และ 2.5 ลิตร 207 แรงม้า RAV4 นี้ราคาขายที่มาเลเซีย นำเข้าจากญี่ปุ่น 1.5-1.6 ล้านบาท ซึ่งหากนำเข้าบ้านเราก็จะแพงกว่านั้นหลายเท่า

2. Honda CR-V

แน่นอนว่ามี Toyota แล้ว ก็ต้องตามมาด้วย Honda ซึ่ง CR-V ขายไปได้ 831,000 คัน มากขึ้นจากปีที่แล้ว 14% ล่าสุด ล่าสุดได้มีการเปิดเผย Honda CR-V 2020 Minorchange  อย่างเป็นทางการในงาน Motor Show 2020 โดยมีการเพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพร้อมระบบ Honda Sensing ที่เน้นในเรื่องของความปลอดภัย กับเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร และเบนซิน 2.4 ลิตร ทั้งหมด 5 รุ่นย่อยให้เลือก เน้นในเรื่องของความเคร่งขรึมแบบสปอร์ตและหรูหรา ราคาเริ่มต้นที่ 1,369,000

3. Nissan X-Trail

ตามมาติดๆกับ Nissan X-Trail ขายไปได้ 674,000 คัน Nissan X-Trail เข้ามาทำตลาดในไทยในรูปแบบรถ SUV ที่มีที่นั่งมากที่สุดสูงสุด 7 ที่นั่ง ในแบบ 5+2 นอกจากนี้ ยังมีเครื่องยนต์ให้เลือกมากที่สุดเช่นเดียวกัน ทั้งเครื่อง  2.0  และ  2.5  ลิตร พร้อม 2.0 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า Hybrid เรียกว่าเป็นผู้นำในทุกด้าน เริ่มต้นที่ 1.35 ล้านบาท

4. Honda HR-V

Honda HR-V เป็นรถในกลุ่ม B-Segment เพียงคันเดียวในตารางนี้ ซึ่งขายไปได้ 626,000 คัน เป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเนื่องจาก Honda HR-V นี้ให้ความรู้สึกเหมือนขับ CR-V ในราคาที่ถูกกว่า เริ่มต้นที่ 949,000 บาท ล่าสุดทาง Honda กำลังเริ่มออกแบบ 2021 Honda HR-V ซึ่งเราน่าจะได้เห็นกันเร็วๆนี้

5.Nissan Qashqai

ด้วยยอดขาย 577,000 แต่ในบ้านเราหลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูกับรุ่นนี้ซักเท่าไร Qashqai คือรถอเนกประสงค์คอมแพ็ครองลงมาจาก X-trail ซึ่งรุ่นนี้จะมีการจำหน่ายที่ตลาดยุโรปเป็นหลัก ที่ล่าสุด Nissan ได้เพิ่มความสปอร์ตด้วยการเปิดตัว Nissan Qashqai N-Motion 2019 ใหม่วางจำหน่ายในอังกฤษเคาะราคา 1,024,000 บาท

6. Volkswagen Tiguan

Volkswagen Tiguan เป็นที่ชื่นชอบทั่วโลก แม้ว่าจะขายได้ 536,000 คัน แต่ยอดขายก็ตกมาจากปีที่แล้วถึง 14 % มาพร้อมรูปลักษณ์โดดเด่น ซึ่งยึดหลักการออกแบบสมัยใหม่ของ Volkswagen โดยอ้างอิงต้นแบบแค่บางส่วนจาก Crossblue Coupe Concept มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED สวยงามเสริมกระจังหน้าและกันชนหน้าอย่าลงตัวเติมด้วยเส้นสายตัวรถที่มีการออกแบบดูมีเหลี่ยมสันและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ได้เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา

7. Hyundai Tucson

แม้ Hyundai จะมีการทำ SUV ออกมามากมายทั้ง Palisade, Venue, and Nexo แต่ก็ยังสู้ยอดขาย Tucson ไม่ได้ ด้วยยอดถึง 528,000 คัน โดยในบ้านเราเปิดตัวไปเมื่อ 2017 เป็นรถคอมแพ็คเอสยูวีที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในไทย ออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ทั้งหมด ดีไซน์ไฟหน้าทรงยาวรับกับกระจังหน้าแบบ 6 เหลี่ยมดีไซน์ใหม่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Hyundai ในปัจจุบัน

8. Ford Kuga/Escape

Ford Kuga หรือ Escape ในบ้านเรา มียอดที่ต่ำลงถึง 12% แต่ก็ยังทำยอดขายทั่วโลกไป 438,000 คัน ล่าสุดมีการพัฒนา Generation 3 ใหม่บนแพลตฟอร์ม C2 เดียวกับรุ่น Ford Focus พร้อมการออกแบบคล้ายกับ Ford Focus ขวัญใจยุโรป ตั้งแต่กระจังหน้าทรงเดียวกับสปอร์ตหรู Aston Martin พร้อมไฟหน้า LED และชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต ตัวรถมีขนาดใหญ่ขึ้นแต่น้ำหนักเบากว่าเจนเดิม 90 กก. 

9. Mazda CX-5

Mazda CX-5 นั้นถือว่าเป็นที่นิยมมากทังในบ้านเราและต่างประเทศ เครื่องยนต์ใหม่ SKYACTIV-G 2.5T ให้กำลังสูงถึง 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร มาพร้อมระบบเทอร์โบแบบ Dynamic Pressure ช่วงล่างที่ดีเยี่ยม รวมถึงเป็นคันที่ภายในรถสวยที่สุดคันหนึ่ง และแม้ว่าจะตกลงมาจากปีที่แล้ว 4% ก็ยังขายไปได้ 438,000 คัน

10. Chevrolet Equinox

สำหรับ Equinox จะเป็นรถที่ออกคู่กันกับ Captiva แต่เป็นการทำคลาดฝั่ง Europe ส่วน Captiva ทำตลาดใน Asia ความเป็น Chevrolet Equinox คือการเป็นรถ SUV ที่ไม่ต้องทำตัวให้ดูปราด เปรียวหรือดูสปอร์ตแบบรถเก๋ง แต่ก็ไม่ได้วางตัวให้เป็น SUV ที่ดูเหมือนจะลุยแบบรถ Off road เป็นดีไซน์ทรงกล่อง ไม่มีลูกเล่นอะไรมาก ดูเรียบ ๆ ด้วยยอดขายรั้งท้ายที่ 435,000 คัน