การเปิดตัว 2020 All-New Isuzu D-Max (2020 อีซูซุ ดีแมคซ์) รถปิอกัพยอดนิยมขวัญใจคนไทย เจ้าของแชมป์ยอดขายครึ่งปีแรกของปี 2563 นั้น มีประเด็นคำถามที่มักถูกถามมาตลอดก็คือ รถกระบะรุ่นใหม่นี้ จะมีการส่งออกไปต่างประเทศเมื่อใด เพราะรถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถที่มีการส่งออกจากประเทศไทยเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
แต่ด้วยปัญหาการเคลียร์สต๊อกของตลาดส่งออกหลายแห่ง ทำให้ผู้บริหารของอีซูซุ ประเทศไทย ในฐานะฐานการผลิตและบริษัทแม่แบบในการทำตลาดทั่วโลก ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดดังกล่าวออกมามากนักในช่วงที่ผ่านมา แต่บอกว่าเป็นเรื่องของตลาดแต่ละแห่ง และจะทำการเปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
อีซูซุ ดีแมคซ์นั้น มีการทำตลาดหลัก ๆ ในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในทวีปออสเตรเลีย ทวีปยุโรป รวมถึงตะวันออกกลาง และประเทศแรกที่ประกาศว่าจะเริ่มเปิดตัวอีซูซุ ดีแมคซ์ใหม่ ต่อจากประเทศไทย ก็คือประเทศออสเตรเลีย ซึ่งยืนยันกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าของวันที่ 13 สิงหาคมนี้ ตามเวลาท้องถิ่นนั่นเอง
การเปิดตัวตามฝาแฝดอย่าง Mazda BT-50
ตามโครงการการร่วมมือกันพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่ระหว่าง Isuzu และ Mazda ทำให้ Isuzu D-Max และ Mazda-BT50 จะถูกผลิตที่โรงงานของอีซูซูในประเทศไทย เพื่อทำตลาดทั่วโลก และก่อนหน้านี้ มาสด้า บีที-50 ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดออสเตรเลียเป็นที่แรกของโลกไปเป็นที่เรียบร้อย แม้จะยังไม่เริ่มวางตลาดก็ตามที
อีซูซูเองก็จะเลือกใช้ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศแรกของโลกในการเปิดตัวนอกเหนือจากประเทศไทยเช่นกัน โดยจะเป็นการเปิดเผยรายละเอียดของเวอร์ชั่นที่จำหน่ายนอกเหนือประเทศไทย ว่าจะมีออพชั่นอะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง โดยการคาดการณ์ง่าย ๆ ก็คือ ระบบและอุปกรณ์ที่เปิดตัวในบีที-50 รุ่นท็อปทั้งหมด จะมาอยู่ในรุ่นท็อปของดีแมคซ์เช่นเดียวกัน
หลังจากที่อีซูซุ ประเทศไทยปิดโรงงานจากผลกระทบของ COVID-19 ในช่วงตั้งแต่ปลายไตรมาส 1 ของปีนี้ พวกเขาเพิ่งจะได้กลับมาผลิตรถอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม และแน่นอนว่ารถกระบะที่ไปเปิดตัวที่ออสเตรเลียทั้ง 2 รุ่นก็เป็นผลผลิตจากโรงงานแห่งนี้เช่นกัน โดยคาดการณ์ว่าการส่งออกเพื่อจำหน่ายได้เริ่มขึ้นแล้วในช่วงที่ผ่านมา
ภาพรวมของรถนั้นไม่แตกต่างกันมาก
จากทีเซอร์วีดีโอที่ทาง Isuzu UTE ปล่อยมาสั้น ๆ 15 วินาที เรียกว่าแทบจะไม่มีความแตกต่างอะไรกันมากเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในประเทศไทย การออกแบบของรถนั้นเรียกว่าเหมือนกันเกือบทั้งหมด ทั้งภายนอกที่โดดเด่นด้วยกรอบโคมไฟหน้าพร้อมไฟเดย์ไทม์รูปตัววี ไฟท้ายดูอัลโซนิค แอลอีดี และการตกแต่งอื่น ๆ
ห้องโดยสารนั้นเหมือนยกกันไป โดดเด่นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วที่รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์/แอนดรอยด์ ออโต้ พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลขนาด 4.2 นิ้ว มาตรวัดเรืองแสงขนาดใหญ่ เบาะที่นั่งที่ดูคุ้นตา การตกแต่งห้องโดยสารนั้นก็ใช้โทนสีที่ใกล้เคียงกัน เรียกกันว่าอะไรที่มีในไทย ก็มีให้เห็นในเวอร์ชั่นออสเตรเลียทั้งหมด
เครื่องยนต์ที่เลือกใช้ในตลาดออสเตรเลียน่าจะเป็นรุ่นท็อปอย่าง เครื่องยนต์ดีเซล พร้อมระบบเทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้า ขนาด 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนสี่ล้อและสองล้อ บนตัวถังที่แตกต่างกันไป
ระบบความปลอดภัยที่น่าจะเหนือกว่า
แม้จะยังไม่มีรายละเอียดออกมา แต่ก็แน่นอนว่าเมื่อมองไปที่แฝดคนละฝาอย่างมาสด้า บีที-50 แล้ว ในรุ่นท็อปของอีซูซุ ดีแมคซ์ ก็ต้องให้ระบบและอุปกรณ์ความปลอดภัยมาแบบไม่น้อยหน้ากัน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยและม่านนิรภัยรวม 8 จุด พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่รูปแบบต่าง ๆ ที่ผสานการทำงานเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่สูงสุด
ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยเลี้ยว ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ พร้อมระบบจำกัดความเร็วอัจฉริยะ
ระบบรักษาช่องทางฉุกเฉิน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบอ่านป้ายจราจร ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย โดยในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มาพร้อมระบบเทอร์เรน คอมมานด์ และระบบเฟืองท้ายแบบดิฟฟ์ล็อค ควบคุมด้วยไฟฟ้า สามารถลุยน้ำสูงสุด 800 มิลลิเมตร ซึ่งจะให้มาเต็มขนาดนี้ไหม ต้องรอรายละเอียดวันเปิดตัวอีกครั้ง
จองวันนี้ รับฟรี Casio G-Shock รุ่นลิมิเต็ดเมื่อซื้อรถ
นอกจากการเตรียมเปิดตัวรถปิกอัพขวัญใจมหาชนรุ่นใหม่แล้ว อีซูซุ ยูทีอี ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อีซูซุในประเทศออสเตรเลีย ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนแสดงความสนใจรถรุ่นใหม่ของพวกเขา จะได้รับฟรีทันที นาฬิกาคาสิโอ จี-ช็อค รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น เมื่อพวกเขาตัดสินใจเป็นเจ้าของรถในท้ายที่สุด
นาฬิกาคาสิโอ จีช็อค รุ่นพิเศษที่ทางอีซูซุ ยูทีอี เตรียมเอาไว้ให้กับลูกค้าอีซูซุ ดีแมคซ์ เป็นนาฬิกาเรือนดำและสายดำ โดยตัวหนังสือหน้าเรือเป็นสีแดงสด แซมกับสีเทาขาว เข็มบอกชั่วโมงโดดเด่นด้วยสีแดงสด เข็มบอกนาทีเป็นสีเทา ซึ่งแม้จะดูเรียบหรูไม่ได้มีฟังชั่นส์อะไรมากมาย แต่ก็ถือว่าเป็นของอีกชิ้นที่น่าสะสมเหมือนกัน
งานนี้ไม่ได้มีบอกจำนวนว่าทางยูทีอีได้เตรียมนาฬิกาไว้สำหรับลูกค้าอีซูซุทั้งหมดกี่เรือน โดยพวกเขาบอกเพียงแค่ให้ได้ตามจำนวนที่การสต็อกเอาไว้ นั่นก็หมายความว่าเป็นการให้แบบใครมาก่อนก็ได้ก่อน งานนี้ลูกค้าเมืองไทยก็อาจจะอยากได้เหมือนกัน ต้องถามอีซูซุ ประเทศไทย ว่าจะมีการนำนาฬิการุ่นพิเศษนี้เข้ามาหรือไม่
ตลาดอื่น ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวตามมา
คล้อยหลังการเปิดกำหนดการเปิดตัวในออสเตรเลียมาได้ไม่นาน อีซูซุในยุโรปก็เริ่มปล่อยภาพแกลลอรี่สำหรับ 2020 Isuzu D-Max กันอย่างคึกคัก ทำให้คาดการณ์ว่าตลาดยุโรปกำลังจะเป็นตลาดถัดไปที่รถกระบะที่ผลิตในประเทศไทยจะทยอยเปิดตัว โดยประเทศแรกที่ปล่อยแกลลอรี่ออกมาก็คือโปแลนด์ หนึ่งในตลาดขนาดใหญ่นั่นเอง
ความแตกต่างก็คือในทวีปยุโรปนั้น น่าจะเลือกใช้เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ที่ให้กำลัง 164 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตรที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย 8 ใบหรือระบบช่วยขับขี่ต่าง ๆ
ตามข้อมูลที่ปรากฎในเวบไซต์ รถกระบะรุ่นใหม่จะเปิดตัวทุกรูปแบบตัวถัง ไม่ว่าจะเป็นตอนเดียว ตอนครึ่งและ 4 ประตู โดยมีให้เลือกทั้งขับสองตัวถังเตี้ย ขับสองยกสูงและขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งคาดว่ากำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในยุโรปจะเริ่มขึ้นในช่วงหลังจากนี้ไม่นาน จากนั้นก็น่าจะเป็นคิวของตลาดตะวันออกกลางตามมาในที่สุด