2023 Mazda CX-60 (2023 มาสด้า ซีเอ็กซ์-60) รถเอสยูวีรุ่นใหม่เอี่ยมได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว เตรียมออกลุยตลาดยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศ แต่เมืองไทยต้องรอลุ้น
ไฮไลท์ของ CX-60 คือการสร้างบนแพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหลัง Skyactiv Multi Solution Scalable Architecture อันเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Large Product Group โดยได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรก และรถโปรดักชั่นที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ Mazda เคยสร้างมา
นอกจากนี้ Mazda ยังนำเสนอรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลให้เลือกสรรด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในวงกว้างสมกับการถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในรถเอสยูวีที่มีความสำคัญที่สุดในอีกหลายปีข้างหน้า
มิติตัวถังค่อนข้างใหญ่
2023 Mazda CX-60 มีมิติตัวถังใหญ่กว่า CX-50 ที่เพิ่งเปิดตัวออกทำตลาดอเมริกาเหนือเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยมีความยาวอยู่ที่ 4,745 มม. กว้าง 1,890 มม. และสูง 1,680 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,870 มม. ซึ่งยาวกว่าชัดเจนหากเทียบกับ CX-5 ที่ขายในบ้านเรา
|
|
2023 Mazda CX-60 |
2021 Mazda CX-5 |
ความยาว (มม.) |
4,745 |
4,550 |
ความกว้าง (มม.) |
1,890 |
1,840 |
ความสูง (มม.) |
1,680 |
1,680 |
ระยะฐานล้อ (มม.) |
2,870 |
2,700 |
รูปลักษณ์ภายนอกคือวิวัฒนาการใหม่ของปรัชญาการออกแบบ KODO Design ด้านหน้ามีความชัดเจนและเฉียบคม โดยเฉพาะไฟหน้าที่สะดุดตาสายตาอย่างมากกับเดย์ไลท์ตัว L ที่แหวกเข้าไปในกระจังหน้า ส่วนโคมไฟหน้ามีขนาดกำลังดี หากมองจากด้านข้างจะเห็นว่าฝากระโปรงหน้ามีขนาดยาว เส้นสายตัวถังดูเรียบง่าย เติมแต่งด้วยโครเมียม เน้นลุคพรีเมียมให้เห็นเด่นชัด
ส่วนด้านท้ายแปลกตาไปจากเดิมด้วยไฟแนวนอนที่ฉีกลึกไปถึงตัวถังด้านข้าง กระจกบังลมหลังค่อนข้างเล็กแต่ดูกว้าง มีสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกอยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างดึงดูดสายตาด้วยท่อไอเสียทรงเหลี่ยมแยกซ้าย-ขวา ปลายท่อมีทั้งหมด 4 ชุดเลยทีเดียว ล้ออัลลอยมีทั้งขนาด 18 นิ้วและ 20 นิ้ว
สีตัวถังภายนอกมีให้เลือกถึง 8 สี ได้แก่ Jet Black, Deep Crystal Blue, Sonic Silver, Platinum Quartz, Arctic White, Rhodium White Premium Metallic (สีโปรโมท), Machine Grey และ Soul Red Crystal
อีกหนึ่งความโดดเด่นอยู่ที่ในห้องโดยสาร สื่อต่างประเทศชี้ว่าการขับเน้นบรรยากาศแบบมินิมัลให้ความรู้สึกราวกับนั่งอยู่ในรถพรีเมียมของ Volvo เลยทีเดียว ชุดมาตรวัดเป็นแบบฟูลดิจิทัล TFT-LCD จออินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว และเฮดอัพดิสเพลย์ที่มีขนาดใหญ่กว่า CX-30 ถึงสามเท่าตัว
นอกจากนี้ยังมี Driver Personalisation System ระบบปรับการทำงานตามความต้องการของผู้ขับขี่โดยอัตโนมัติด้วยการตรวจจับระดับความสูงของสายตา ก่อนปรับเบาะนั่ง พวงมาลัย เฮดอัพดิสเพลย์ และกระจกมองข้างให้อยู่ในตำแหน่งเหมาะสมที่สุด
เบาะนั่งถูกจัดวางแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง มีความจุพื้นที่เก็บสัมภาระเริ่มต้นที่ 570 ลิตร แต่หากพับเบาะหลังลงจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,726 ลิตร
ระบบขับเคลื่อนสุดแรง
Mazda ยังไม่คอนเฟิร์มว่าในแต่ละภูมิภาค พวกเขาจะทำตลาดขุมพลังอะไรบ้าง แต่เปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคที่น่าสนใจ เริ่มจากรุ่นท็อปที่จะใช้หัวใจปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Skyactiv-G ขนาด 2.5 ลิตร พละกำลัง189 แรงม้า แรงบิด 261 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า มีกำลัง 134 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร
เมื่อผนวกรวมกันแล้ว CX-60 PHEV จะมีพละกำลังให้ใช้ถึง 323 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตรถือเป็นรถเอสยูวีโปรดักชั่นที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ Mazda เคยสร้างมา ทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 5.8 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 200 กม.ต่อชม.
แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่ใช้มีขนาด 17.8 กิโลวัตต์ สามารถโลดแล่นด้วยไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ไกล 63 กม. ส่วนอัตราความประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่ 66 กม.ต่อลิตรสำหรับรุ่นล้ออัลลอย 18 นิ้วซึ่งมีน้ำหนักตัวถัง 2,055 กก.
นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง e-Skyactiv X ขนาด 3.0 ลิตร พ่วงระบบไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์ และเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง e-Skyactiv D ขนาด 3.3 ลิตร พ่วงระบบไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์เช่นกัน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขแรงม้าและแรงบิด
CX-60 ทุกรุ่นย่อยส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จับด้วยคลัตช์มัลติเพลท ขับเคลื่อน 4 ล้อ i-Activ AWD ที่มีโหมดการขับขี่หลากหลายอย่าง Normal, Sport, Off-Road, Towing, และ EV ศักยภาพการลากจูงอยู่ที่ 2,500 กก.
ช่วงล่างด้านหน้าของ CX-60 เป็นแบบดับเบิลวิชโบน และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ทาง Mazda ยืนยันว่ามอบสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวลในทุกสถานการณ์ อีกทั้งยังมาพร้อมระบบ Kinematic Posture Control (KPC) ควบคุมความมั่นคงและเสถียรภาพในโค้ง
ระบบความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องมองภาพ 360 องศา ระบบแจ้งเตือนก่อนลงจากรถ ระบบตรวจจับสัญญาณจราจร ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติตรวจจับคนเดินถนนและจักรยาน ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน และระบบตรวจจับความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่
นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจจับมุมอับสายตา ระบบแจ้งเตือนการจราจรด้านหลัง ระบบครูสคอนโทรลแปรผัน ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน
2023 Mazda CX-60 จะออกจำหน่ายในยุโรปด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้น 47,390 – 52,890 ยูโร หรือ 1.7 – 1.9 ล้านบาท ถือว่าค่อนข้างสูง กำหนดส่งมอบคันแรกในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้