2021 Ford Everest เปิดตัวรุ่นใหม่จะสู้คู่แข่งอย่าง Toyota Fortuner ได้ไหม?

เมื่อไม่นานมานี้ Ford ได้เปิดตัวรถเอสยูวี 2021 New Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) รถอเนกประสงค์ขนาดกลาง 7 ที่นั่ง ที่มีการปรับดีไซน์ใหม่ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และยังครบครันด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขึ่และความปลอดภัย ทั้งยังมาพร้อมเครื่องยนต์ที่มีการอัพเกรดใหม่ ซึ่งตั้งแต่ Ford Everest มีการเปิดตัวรุ่นแรกตั้งแต่ปี 2003 ก็มีการพัฒนาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับ 2021 New Ford Everest ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ จะมีความสามารถเพียงพอที่จะสู้คู่แข่งอย่าง Toyota Fortuner และแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดกลางได้หรือไม่ก็ต้องรอดูกันต่อไป แต่ก่อนจะไปวิเคราะห์ AutoFun จะพาไปดูว่าก่อนจะมาเป็น 2021 New Ford Everest ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง

2003 Ford Everest

Ford Everest เปิดตัวรุ่นแรกปี 2003 ที่งาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 24 โดยออกแบบสำหรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ Ford Everest รุ่นแรกนี้ใช้โครงสร้างตัวถังของ Ranger ถึง 60% เป็นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล แบบอินเตอร์คูลเลอร์ขนาด 2.5 ลิตร รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบดีไซน์ค่อนข้างแกร่ง ตัวถังแบบ PPV ด้วยความที่เป็นพื้นฐานของ Ranger จึงยังคงใช้ระบบกันสะเทือนแบบอิสระปีกนกคู่ แต่มีการพัฒนาช่วงล่างให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2006 ทาง Ford Everest ได้มีการปรับโฉมใหม่ โดยเปลี่ยนด้านหน้าและด้านข้างทั้งหมดเพื่อให้ดูทันสมัยมากขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับปรุงเครื่องยนต์ และเพิ่มเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดที่ทำให้การขับขี่สนุกยิ่งขึ้น ต่อมาในปี 2009 ก็มีการปรับโฉมใหม่อีกครั้ง ซึ่งมีการเปลี่ยนกระจังหน้าและกันชนหน้า ประตูท้ายออกแบบใหม่ และโคมไฟท้ายใหม่ ขณะที่ล้ออัลลอยใหญ่ขึ้น

2014 Ford Everest

Ford Everest รุ่นที่ 2 เปิดตัวในปี 2014 มีการออกแบบใหม่ทั้งหมดที่ดูทันสมัยยิ่งขึ้น โดยใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ Ford Ranger T6 และได้รับการออกแบบใหม่ในประเทศออสเตรเลีย Ford Everest รุ่นที่ 2 นี้มีตัวถังสั้นลง แต่กว้างและสูงขึ้น ระยะฐานล้อก็ลดลงจาก 2,860 มิลลิเมตรเป็น 2,850 มิลลิเมตร และยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอีกมากมายด้วย

ต่อมาในปี 2018 ก็มีการปรับโฉมใหม่ โดยได้อัพเกรดสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลไบเทอร์โบ 2.0 ลิตรใหม่และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ภายในมีการใช้วัสดุสัมผัสที่นุ่มนวลมากขึ้น การออกแบบโทนสีเข้มมีความหรูมากขึ้น ส่วนด้านเทคโนโลยีก็มีการเพิ่มอุปกรณ์เสริมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ หรือ Autonomous Emergency Braking (AEB) ประตูด้านท้ายสามารถเปิดปิดอัตโนมัติ ล้ออัลลอยใหม่

2021 New Ford Everest

2021 New Ford Everest เปิดตัวรุ่นล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีการปรับปรุงหน้าตาให้ทันสมัยขึ้นทั้งภายนอกภายใน ด้านสมรรถนะก็ออกแบบมาให้พร้อมลุย พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น

2021 New Ford Everest

การออกแบบภายนอก

ภายนอกของ 2021 New Ford Everest มีการปรับโฉมใหม่ตั้งแต่กระจังหน้าที่มาพร้อมอักษรนูน ‘Everest’ บนฝากระโปรงหน้ามือจับประตูด้านนอก กระจกมองข้างสีโคมเมียม บันไดข้างสีดำ พร้อมเสริมความโดดเด่นด้วยชุดตกแต่งสีเงิน 2021 New Ford Everest มีทั้งหมด 5 รุ่นให้เลือก ได้แก่ Everest 2.0L Turbo Trend 4x2 10AT, Everest 2.0L Turbo Titanium 4x2 10AT, Everest 2.0L Turbo Titanium (Sport) 4x2 10AT, Everest 2.0L Turbo Titanium+ 4x2 cและ Everest 2.0L Turbo Titanium+ 4x4 10AT

2021 New Ford Everest
ความสูง 1,837 มิลลิเมตร
ความกว้าง 1,860 มิลลิเมตร
ความยาว 4,892 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดจากพื้น 225 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 2,384 กิโลกรัม
รัศมีวงเลี้ยว 11.7 เมตร

ภายนอก 2021 Ford Everest

ภายนอก Everest 2.0L Turbo Trend 4x2 10AT มาพร้อมไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ ราวหลังคาและบันไดข้าง กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว มีไฟตัดหมอกด้านหน้าเพิ่มความปลอดภัย อีกทั้งรุ่นนี้ยังได้ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 18 นื้ว ในรุ่น Everest 2.0L Turbo Titanium 4x2 10AT เพิ่มจากรุ่น Trend เป็นไฟหน้า LED ไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ ไฟท้าย LED ประตูท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี บันไดข้างสีดำพร้อมชุดตกแต่งสีเงิน รุ่น Everest 2.0L Turbo Titanium (Sport) 4x2 10AT เพิ่มจากรุ่น Titanium คือชุดตกแต่งภายนอกจะเป็นสไตล์สปอร์ต และมีล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ส่วน Everest 2.0L Turbo Titanium+ 4x2 / Titanium+ 4x4 10AT เพิ่มจากรุ่นอื่นๆคือมีไฟส่องสว่างข้างตัวรถ เสริมความหรูด้วยหลังคา Panoramic Moonroof และมีล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว

การออกแบบภายใน

ภายในของ 2021 New Ford Everest นอกจากจะมีดีไซน์ที่ออกแบบดูดีแล้ว ก็ยังมีการติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่เน้นการใช้งาน โดยในรุ่นพื้นฐานออกแบบด้วยเบาะหนังและหนังสังเคราะห์สีดำ เบาะแถวที่ 2 ปรับเอนและสามารถเลื่อนตำแหน่งหน้า-หลังได้ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้ายขวา และมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบเปิดปิดกระจกสัมผัสด้านเดียวกับคนขับ พร้อมมีกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้น ในรุ่น Titanium 4x2 10AT เพิ่มจากรุ่น Trend คือเบาะนั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมดันหลัง 2 ทิศทาง มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ กระจกมองหลังสามารถปรับแสงอัตโนมัติ รุ่น Titanium (Sport) 4x2 10AT เพิ่มชุดตกแต่งภายในสปอร์ต เบาะนั่งและหนังสังเคราะห์เป็นลายสปอร์ต ส่วนอีก 2 รุ่นที่เหลือก็มีออฟชั่นเพิ่มขึ้นอย่างเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมปรับดันหลัง 2 ทิศทาง เบาะแถวที่ 3 พับไฟฟ้า ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร กระจกหน้า-หลัง พร้อมระบบเปิดปิดสัมผัสทุกบาน ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ

ฟอร์ด เอเวอเรสต์

ในด้านระบบความบันเทิงของ 2021 New Ford Everest ก็มาพร้อมหน้าจอ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อระบบ Bluetooth และ Wifi สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง SYNC 3 ภาษาไทย รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto มีวิทยุพร้อมเครื่องเล่น CD/MP3 และช่องต่อ USB 2 จุด มีลำโพง 8 ตำแหน่ง และช่องต่อไฟ 12V ส่วนในรุ่น Titanium+ 4x2 / Titanium+ 4x4 10AT มีการเพิ่มช่องต่อ USB ที่กระจกมองหลัง ระบบแผนที่นำทาง ปลั๊กไฟบ้าน AC 230V และมีลำโพงเพิ่มเป็น 10 ตำแหน่ง

ระบบเครื่องยนต์

2021 New Ford Everest มีเครื่องยนต์ 2 แบบให้เลือกคือเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร Turbo ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750 - 2,500 รอบ/นาที ทำงานคู่เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์ธรรมดา โดยเครื่องยนต์นี้ใช้ในรุ่น Trend, Titanium, Titanium (Sport) และ Titanium+ 4x2 10AT และในรุ่น Titanium+ 4x4 10AT ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo ที่ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 - 2,000 รอบ/นาที ทำงานคู่เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อนด้วยระบบ 4 ล้อ ที่มาพร้อม Terrain Management ช่วยให้การขับขี่ราบรื่นยิ่งขึ้น

2021 New Ford Everest
เครื่องยนต์ Turbo  Bi-Turbo
กำลังสูงสุด(แรงม้า) 180 213
แรงบิดสูงสุด(นิวตันเมตร) 420 500
เกียร์ อัตโนมัติ 10 สปีด อัตโนมัติ 10 สปีด

ด้านระบบความปลอดภัยก็มีเทคโนโลยีทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าหลัง กล้องมองหลัง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control), ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน, ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (ROM) ในรุ่น Titanium+ 4x2 10AT มีการเพิ่มระบบตรวจจับลมยาง สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า ระบบตรวจจับรถในจุดบอด ระบบตรวจจับรถขณะออกจากช่องจอด และในรุ่น Bi-Turbo Titanium+ 4x4 เพิ่มระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน

สำหรับ 2021 New Ford Everest มีทั้งหมด 7 สีให้เลือก มาพร้อม 5 รุ่นย่อยที่ราคาเริ่มต้น 1.299 ล้านบาท โดยได้มีการปรับโฉมใหม่ และมีการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะดีกว่าเดิม ด้วยราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง Toyota Fortuner ที่มีราคาเริ่มต้น 1.349 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป หากใครสนใจก็สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูมทุกสาขทั่วประเทศ

 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:

ขายรถคันเดิมเพื่อซื้อรถมือสองคุณภาพดีได้ง่ายและสะดวก

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Ford Everest

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

ไปลอง Next Gen Ford หลากหลายรุ่น บนออฟโรดเต็มพิกัดที่ซาปา ลุยครบ สนุกทุกแทร็ค ดุดันเต็มที่ | AutoFun

พรีวิว 3 รุ่นใหม่จาก Ford เน้นแต่งดุขึ้น เพิ่มออพชั่น เอาใจลูกค้าหลากหลาย ราคาเจอกันในงาน | AutoFun

รีวิว 2022 Ford Everest 1.854 ล้านบาท ตัวจบรถครอบครัว ถนนก็ดี ออฟโรดก็ไหว ใช้ง่ายสุดในคลาส | AutoFun

พรีวิว Ford Ranger Everest และ Raptor เปิดตัวพร้อมเผยราคาในมอเตอร์โชว์ เจอตัวเป็น ๆ กันได้ | AutoFun

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Ford Everest
เช็คทันที