ถ้าหากถามว่ารถยนต์สองรุ่นที่บริษัทหน้าใหม่อย่าง Stellantis (สเตลแลนติส) มีจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ท่านจะสามารถตอบได้ไหมครับว่ามันคือรุ่นอะไรบ้าง? ถ้าท่านอ่านหัวข้อท่านก็อาจจะพอเดาได้ว่ามันคือ Peugeot (เปอร์โย) 3008 และ 5008 ซึ่งจำหน่ายผ่านบริษัท MGC-Asia
บริษัท Stellantis นี้ เป็นการรวมตัวกันระหว่างสองบริษัท PSA หรือบริษัทแม่ของรถยนต์ Peugeot Citroen Opel Vauxhall และ DS เข้ากับบริษัท Fiat Chrysler Auto ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Fiat Lancia Alfa Romeo Abarth Chrysler Dodge Jeep Maserati และ Ram ก่อนหน้านี้มีข่าวถึงอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย เช่นการที่สหภาพยุโรปตั้งข้อสงสัยถึงการละเมิดกฎหมายการผูกขาดตลาดในยุโรป แต่สุดท้ายแผนนี้ดูเหมือนว่าจะกำลังไปได้สวยเลยทีเดียว
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2021 สำนักข่าว AP รายงานว่า ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นในบริษัททั้งสอง ได้รับรองการควบรวมบริษัทขนาดยักษ์ทั้งสองนี้ ให้กลายเป็นบริษัทขนาดมโหฬาร เป็นบริษัทรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับที่ 4 ของโลก ตามหลังเพียงแค่ Volkswagen Toyota และ Nissan-Renault-Mitsubishi
แน่นอนครับว่าทั้งสองบริษัทได้ผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว โดยเป้าหมายของการควบรวมครั้งนี้ CEO ของทาง Fiat Chrysler นาย Mike Manley ได้ระบุว่า เนื่องมาจากความต้องการในการลดค่าใช้จ่ายของบริษัท
โดยเป้าหมายจะอยู่ที่ การลดค่าใช้จ่ายถึง 40% ในการแชร์แพลตฟอร์ม 35% ในการใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ร่วมกัน 7% ในการใช้แผนกขายและฝ่ายบริหารร่วมกัน รวมไปถึงการเซฟค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ผ่านการจัดการแผนกอะไหล่ การขนส่ง และการควบคุมคุณภาพ
ยังไม่แน่ชัดว่า แบรนด์ Peugeot Citroën DS Opel Vauxhall Chrysler Dodge Jeep Ram Fiat Alfa Romeo Maserati และ Lancia จะมีแบรนด์ใดล้มหายตายจากไปกับการรวมตัวกันครั้งนี้หรือไม่ เพราะเป้าหมายคือการประหยัดงบประมาณ ถ้าถามพวกเรา รายแรกที่น่าจะหายไปก็น่าจะ Lancia นี่แหละครับ ส่วนรายถัดไป หลายสำนักก็วิเคราะห์กันไว้ว่า Chrysler กับ Dodge ซึ่งมีแต่รถแรง ๆ เปลืองน้ำมัน อาจจะต้องหายไปเพราะมาตรฐานความประหยัดน้ำมันที่เข้มงวดขึ้น
ชื่อบริษัท Stellantis นั้นมาจากคำว่า Stello ที่เป็นภาษาลาติน แปลว่า สว่างไสวไปกับดวงดาว บางทีเราก็คิดนะครับว่าฝรั่งเขาก็ชอบชื่อมงคลไม่ต่างจากคนไทย
มีข่าวที่ฟังดูดีกว่านี้อีกครับ ท่านทราบไหมว่า นับตั้งแต่ Peugeot Citroen Group ซื้อกิจการของ Opel Vauxhall มาจาก General Motors ในปี 2017 บริษัท Opel Vauxhall ที่ขาดทุนมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ผ่านไปแค่ 1 ปีนับจากการควบรวม ก็สามารถกลับมาทำกำไรได้เสียอย่างงั้นเอง!
วิธีที่ PSA Group ทำเช่นนั้นได้ ก็คือ การเลิกจ้างลูกจ้างโรงงานที่ผลิตได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเสีย ลดส่วนลดลูกค้าที่มากเกินไปในอดีต พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้น่าสนใจ น่าใช้งานมากขึ้น โดยที่ใช้พื้นฐานของ Peugeot แต่ทำดีไซน์ให้เรียบง่าย หรูหรา ไม่เหมือนกับรถที่เป็นพื้นฐานซึ่งมีความเก๋และล้ำสมัยเกินไปสำหรับกลุ่มลูกค้าบางกลุ่ม
ในอีกฟากหนึ่ง Fiat ผู้ซึ่งซื้อกิจการของ Chrysler ไปในปี 2014 ก็กำลังประสบปัญหาหลาย ๆ อย่างที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคสมัย Daimler-Chrysler ซึ่งแยกขายกิจการไปในปี 2007 ก่อนที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2008 จน Chrysler ต้องประกาศล้มละลาย เข้ากระบวณการช่วยเหลือจากภาครัฐ แบบเดียวกับที่ SsangYong เพิ่งประกาศไปเมื่อไม่นานนี้
ผลิตภัณฑ์ของทั้ง Fiat และ Chrysler มักจะถูกวิจารณ์ว่า ล้าสมัย ขายนานเกินไป ไม่น่าสนใจ ไม่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะทนทานน่าเชื่อถือมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่บริษัทที่ทำกำไรได้ดีเสมอมา ก็มีเพียงไม่กี่แบรนด์ เช่น Jeep หรือ กระบะ Ram ส่วนแบรนด์อื่น ๆ ที่เหลือ ก็มักจะขาดทุน ไม่มากก็น้อย
Fiat ไม่ได้เผยโฉมแพลตฟอร์มของรถยนต์ที่ใหม่จริง ๆ มาตั้งแต่ปี 2015 และ Chrysler ในปี 2019 และตั้งแต่ CEO ผู้ซึ่งช่วยกู้ภาพลักษณ์กลับมาอย่าง Sergio Marchionne เสียชีวิตไปในปี 2018 บริษัทก็แทบไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวอะไรน่าตื่นเต้นมาเลยจนกระทั่งข่าวการร่วมตัวกับ PSA Group ในปี 2020 ที่ผ่านมา
ถ้าหาก PSA จะกลับมากู้ชื่อและสถานะทางการเงินของ Fiat Chrysler ให้กลับมาสดใสอีกครั้งหนึ่ง ก็นับได้ว่าเป็นงานมหาโหดเมื่อเทียบกับเมื่อครั้งพวกเขากู้ Opel Vauxhall กลับออกมาจากความตาย
แน่นอนครับ บอริสมีมาเล่าให้ท่านฟังแน่นอนครับ
เมื่อปี 1968 สองบริษัทผลิตรถยนต์ในอังกฤษ ชื่อ British Motor Holdings เจ้าของบริษัท Morris Mini Austin และ Jaguar กับ Leyland Motor Corp เจ้าของบริษัท Rover MG และ Standard-Triumph ได้รวมตัวกันจนกลายมาเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับที่ 4 ของโลกในขณะนั้น นามว่า British Leyland
เป้าประสงค์ของการก่อตั้ง British Leyland ก็คือเพื่อลดต้นทุนในการพัฒนาของทั้งสองบริษัท และพัฒนารถของบริษัท British Motor Holdings ให้ทันสมัยมากขึ้น เพราะได้ชื่อว่า ล้าสมัย ขายนานเกินไป ในขณะที่บริษัท Leyland Motor Corp มีเทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ ๆ หลายชิ้น กำลังไปได้สวยเลยทีเดียว
คุ้น ๆ ไหมครับ? พล็อตแบบนี้
แต่เนื่องจากการบริหารจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งเราจะยังไม่เล่าให้ฟังในที่แห่งนี้ บริษัทรถยนต์ต่าง ๆ ของอังกฤษ ในปัจจุบัน ก็ได้กลายเป็นบริษัทลูกของต่างชาติเสียหมด เช่น Mini (มินิ) กลายเป็นของ BMW (บีเอ็มดับเบิ้ลยู) ประเทศเยอรมันนี Jaguar (จากัวร์) กลายเป็นของ Tata ประเทศอินเดีย และ MG กลายเป็นของ SAIC Motor ประเทศจีน ส่วนที่เหลือเจ๊งหายกันไปเกือบหมดเป็นที่เรียบร้อยครับ
ผมไม่เชื่อว่า Stellantis จะจบลงเหมือนกับ British Leyland ที่ตำนานนั้นมีให้เล่ากันเป็นปีก็ไม่หมดไม่สิ้น แต่ผมก็อยากให้พวกท่านลองสังเกตดูไว้นะครับ ว่า Stellantis จะสามารถบริหารจัดการได้ดีมากพอ ที่จะทำให้การร่วมมือกันของสองบริษัทเก่าแก่นี้ ประสบความสำเร็จหรือไม่
หรือว่าประวัติศาสตร์จะต้องซ้ำรอยอีกที?
ต้องรอดูกันต่อไปครับ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}