อาจเป็นภาพที่เคยผ่านตาใครหลาย ๆ คน กับเหล่ารถซุปเปอร์คาร์ หรือรถหรูแพง ๆ ทั้ง Ferrari (เฟอร์รารี่) Lamborghini (ลัมโบกินี่) หรือ Porsche (ปอร์เช่) หลายคันที่ถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางทะเลทราย เป็นภาพที่ดูน่าเศร้าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์แบบพวกเรา
สงสัยหรือไม่ครับ ว่าทำไมเขาถึงเกิดทิ้งรถเหล่านี้ขึ้นมา เรามีคำตอบนั้น
ในช่วงที่ธุรกิจน้ำมันกำลังมาแรงในแถบสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates-UAE) ทำให้มันดึงดูดเหล่านักธุรกิจมากมาย เมื่อธุรกิจโตขึ้น ตามสไตล์คนมีเงิน ก็มักจะซื้อรถหรู ๆ มาใช้ประดับบารมี
แต่เมื่อราคาน้ำมันดิ่งลงในปี 2008 จนทำให้หลายคนไม่มีเงินที่จะมาจ่ายค่ารถ หรือดำเนินชีวิตต่อในแถบนี้ จำเป็นจะต้องทิ้งชีวิตและสิ่งของลง เพื่อหนีหนี้ที่เกิดขึ้นได้
เพราะตามกฎหมายชารีอะห์ของประเทศที่นับถืออิสลามส่วนใหญ่ในตะวันออกกลางแล้ว การไม่จ่ายหนี้สินถือเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรงอย่างนึง และต้องลงโทษด้วยการจำคุก
แม้จะไม่ได้จ่ายบัตรเครดิตงวดเดียว หรือเช็คเด้ง ก็ต้องเข้าคุก การหนีออกจากประเทศและทิ้งทรัพย์สินไว้จึงนับเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ด้วยจำนวนรถประมาณ 2,000-3,000 คัน จริง ๆ คุณเองก็เป็นเจ้าของได้ เพราะเขาจะมีการประมูลกันเกิดขึ้นในราคาที่ถูกกว่าเดิมมาก แต่ก็ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไร เพราะเราไม่รู้ประวัติของรถเหล่านี้ว่าจอดมานานเท่าไร มีอะไรเสียบ้าง
แต่เขาก็มีบริษัทที่รับซื้อและซ่อมรถเหล่านี้ แต่ก็คงเพิ่มอีกหลายตังค์ หากใครอยากได้รถแรง ๆ ก็หาเอาตามดีลเลอร์ใหญ่ ๆ หรือจากคนรู้จักเสียจะดีกว่าครับ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}