Test Drive : 2021 Mazda BT-50 1.9 S Hi-Racer ตัวแคป 2 ประตูน่าใช้ หรือเปย์ให้รุ่นอื่นดีกว่า?

2021 Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) โฉมโมเดลเชนจ์ในประเทศไทย เปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ และได้พันธมิตรใหม่อย่าง 2020 Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) ทำให้หลายคนคาดว่าจะสร้างยอดขายถล่มทลายแบบที่อีซูซุทำได้

บทความนี้เราจะมาลองขับรถกระบะตัวถัง FSC หรือแคปเปิดได้ 2 ประตูรุ่นท็อปสุดของตัวถังนี้ แล้วไปเทียบกับรุ่น 4 ประตู ดูว่ามีอะไรหายไป น่าจ่ายเงินสุด ๆ หรือไปเอารุ่นท็อปเลยดีกว่ากัน? 

เทียบราคากับดับเบิ้ลแค็ป

2021 มาสด้า บีที-50 รุ่นที่เราทดสอบนี้เป็นตัวท็อปสุดของตัวถัง Freestyle cab 1.9 S Hi-racer 6ATราคา 832,000 บาท เทียบราคากับรุ่นตัวถังดับเบิ้ลแค็ป 1.9 S Hi-Racer 6AT ค่าตัว 936,000 บาท ที่นอกจากได้ประตูหลังเพิ่มมาแล้ว ยังได้ระบบเตือนจุดบอดข้าง และจุดอับสายตาด้านหลังมาให้ทั้งหมดในงบเพิ่ม 1 แสนบาท ก็ลองไปคิดดูให้ดีครับ

ราคาและรุ่นย่อยของ Mazda BT-50

ไฮไลท์เด่นของ 2021 Mazda BT-50

• เครื่องยนต์จากอีซูซุ ซ่อมง่ายอะไหล่เยอะ

• ดีไซน์ภายนอกสวยสไตล์สปอร์ต

• งานเก็บเสียงดี

จุดที่ไม่ว้าว

• ความสั่นสะเทือนไม่ต่างจากฝาแฝด

• ดีไซน์ภายในที่เรียบเกินไป

ภายนอกดีไซน์สปอร์ต ยกเว้นไฟท้าย

ความประทับใจแรกคือหน้าตา หน้าตาที่ดูเหมือนรถเก๋ง ฉีกแนวทุกความบึกบึนของรถกระบะยี่ห้ออื่น ๆ ที่แข่งทำรถสไตล์ลุยแกร่งแข็งแรง ซึ่งมาสด้าถนัดทำรถหน้าหวานมาตั้งแต่ BT-50 รุ่นแรกอยู่แล้ว คราวนี้ยิ่งได้เส้นโครเมียมแบบ 3 มิติเข้ามาเสริมให้รถหวานกลายเป็นทรงเปรี้ยวแนวสปอร์ต ดูแพงอย่างรถเก๋ง

อ่านเพิ่มเติม : ประวัติคู่หูกระบะ มาสด้า อีซูซุ ซี้กันตั้งแต่ยุค 90 ย้อนรอยกว่าจะเป็น 2021 Mazda BT-50

ไฟท้ายที่ดูเหลี่ยมตั้ง หลายคนอาจจะไม่ชอบ แต่มีความพยายามเล่นลวดลายไฟด้านในให้เป็นวงกลมเล็กน้อย อยากให้มาสด้ากลับไปแก้ไขดวงไฟด้านหลัง ให้มีลายเส้นวงกลมล้อรอบไฟเบรคอย่างชัดเจนกว่านี้ จะได้ดูแพงอย่างรถเก๋งทั่วทั้งคัน

ออพชั่นที่ได้ยังมี ไฟหน้าปรับสูง-ต่ำและเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อม Daytime running light แบบ LED กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า มือเปิดประตูและเปิดฝาท้ายกระบะเป็นโครเมียม

มิติตัวถัง 2021 Mazda BT-50

ภายในเบาะสบาย

2021 Mazda BT-50 มีภายในที่ดีไซน์คอนโซลเรียบร้อย เน้นรูปทรงเหลี่ยมแนวนอนยาว อันเป็นเทรนด์ยอดนิยมในรถเก๋ง ที่เน้นความเรียบง่าย แต่พอมาอยู่ในรถกระบะแล้ว กลับดูเหลี่ยมทื่อไปนิด ด้านเบาะนั่งเป็นวัสดุผ้า แทรกด้วยหนังเป็นแถบเล็ก ๆ ตรงกลาง รูปทรงนั่งสบาย รองรับคนสูง 170 ได้ดีตั้งแต่หัวจรดต้นขา 

เบาะสบายขา แต่กลับไม่มีที่พักเท้าด้านล่าง ทำให้เวลาขับไปนาน ๆ เท้าซ้ายจะเมื่อย เพราะวางอยู่ในพื้นพรมที่ไม่รองรับฝ่าเท้า ไม่มีแท่นพลาสติกกันเปื้อนด้วย ทำให้พรมตรงส่วนที่วางเท้าจะเปื้อนและขาดง่าย หากใช้ไปนาน ๆ

ส่วนนวมนิ่มก็มีมาให้ตามอย่างฝาแฝดอีซูซุ และมีการบุฟองน้ำมาให้บาง ๆ กันขากระแทกคอนโซลล่าง ส่วนการประดับหนังนั้น ยังมีให้เห็นตรงนวมเท้าแขน พวงมาลัย และถุงเกียร์ โดยส่วนตัวคิดว่าอยากให้เล่นกับความหรูด้วยวัสดุผิวมันเงา เพิ่มเข้ามากลบความด้านของพลาสติก จะช่วยดึงดูดสายตาให้น่าใช้กว่านี้

ออพชั่นได้อะไรบ้าง

ลูกเล่นภายในของ 2021 Mazda BT-50 นั้นมีจุดเด่นตรง หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ Android Auto ได้กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อม Push Start Button ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ เรียกว่าให้มาค่อนข้างดี มีครบตามระดับรุ่นย่อยเดียวกัน

ลองขับแล้ว...มันคืออีซูซุที่เก็บเสียงดี

2021 Mazda BT-50 รุ่น 1.9 S นี้ใช้เครื่องบล็อกเดียวกับอีซูซุ ดังนั้นเรื่องอัตราเร่ง และการทดเกียร์ต่าง ๆ ล้วนให้ความแรงสไตล์อีซูซุ ซึ่งก็คือไม่ได้แรงอะไรมากนัก หากจะคิดแซงใคร ก็ต้องใช้รอบจัดสักหน่อย พอพูดถึงรอบจัด เสียงเครื่องก็ต้องดัง แต่ Mazda BT-50 รุ่นใหม่นี้มีการบุวัสดุซับเสียงดีกว่าฝาแฝด เงียบกว่าอย่างรู้สึกได้ ทั้งเสียงเครื่อง เสียงลม ก็เก็บได้ดี แต่เสียงยางบดถนนยังคงมีมากตามมาตรฐานรถกระบะทุกรุ่น

ช่วงล่างเหมือนอีซูซุ

มาสด้าขึ้นชื่อเรื่องการทำรถช่วงล่างดี แต่ไม่ใช่ในรถรุ่นนี้ เพราะมีการจัดวางช่วงล่างปีกนกและแหนบแบบอีซูซุ โดยแบ่งเป็นแหนบบรรทุก 2 แผ่น และแหนบโดยสารที่นิ่มนวลกว่าอีก 1 แผ่น ซ้อนทับกันเหนือเพลา ที่ยังให้แรงดีดแบบอีซูซุ แม้แต่รุ่นท็อปก็ยังไม่ได้ปรับจูนช่วงล่างใหม่ ซึ่งผิดจากความคาดหวังว่ามาสด้าจะต้องปรับจูนช่วงล่างให้นิ่มขึ้น และเกาะถนนขึ้นตามสไตล์รถค่ายนี้

ระบบความปลอดภัยครบถ้วนเหมือนกัน

อุปกรณ์ช่วยเหลือการขับขี่มีแค่ระบบพื้นฐาน อย่างเช่น กล้องมองหลัง, ระบบช่วยขับขึ้น/ลงบนทางชัน, ระบบช่วยทรงตัว, ระบบป้องกันล้อฟรี ส่วนระบบปกป้องคนขับก็มีแค่ถุงลมนิรภัย 2 จุดคู่หน้าเท่านั้น และยังขาดระบบเตือนจุดบอดข้าง เตือนจุดบอดหลัง แต่ก็ให้อภัยได้ เพราะคู่แข่งในระดับเดียวกันก็มีมาให้ประมาณนี้

กินน้ำมันในสถานการณ์จริง ไม่ตบแต่งตัวเลข

การสิ้นเปลืองเชื้องเพลิงนั้น แน่นอนว่าเป็นไปตามน้ำหนักเท้า ซึ่งเราไม่ได้ขับย่องเพื่ออวดตัวเลขสวย ๆ โชว์ความประหยัดอยู่แล้ว แต่ทีมงานใช้ขับทั้งนอกเมืองสลับกับในเมืองอย่างละครึ่ง พร้อมกับเร่งแซงคนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาสว่าง ผลการสิ้นเปลืองที่ได้คือ หน้าจอโชว์ตัวเลขระดับ 13.2 กม./ล. นี่คือตัวเลขแย่สุดที่ทำได้ หากผู้ใช้ทั่วไปขับแบบไม่เร่งแรงมาก ก็น่าจะทำได้ระดับ 14 - 15 กม./ล. ได้อย่างไม่ต้องเกร็งเท้า

ถ้าเทียบกับรุ่นท็อป 4 ประตูล่ะ?

รุ่นท็อป 4 ประตูราคาต่างกันประมาณ 4 แสนบาท มีความแตกต่างหลัก ๆ ที่ภายนอกใช้ล้อแม็กซ์ลายใหม่ใหญ่ข้น มีโครเมียมกระจกมองข้าง มีราวหลังคา ส่วนภายในได้เบาะหนังสีน้ำตาล และแผงคอนโซลทูโทน ส่วนเครื่องยนต์ได้แบบดีเซล 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตามรูปด้านล่างนี้

สรุปว่าน่าใช้ กระบะไลฟสไตล์สายคนเมือง

มาสด้า บีที-50 ใหม่ มีรูปทรงเอาใจคนไม่ขนของหนัก ทำตัวเป็นรถอเนกประสงค์ สำหรับคนที่ใช้รถกระบะที่ต้องการภาพลักษณ์แบบคนเมือง ไม่ลุยเยอะ (แต่ถ้าเอาจริงก็บู๊ได้) แต่ออพชั่นที่ให้มายังขาดระบบอำนวยความสะดวกสบายอยู่บ้าง พร้อมช่วงล่างที่ยังแกร่งอีซูซุทุกประการ 

หากอยากได้ความสบาย ก็แนะนำซื้อรุ่นท็อป 4 ประตู จะมาพร้อมเบาะหนังสีน้ำตาล หน้าจอสัมผัส 9 นิ้ว ถุงลม 6 ใบ มีระบบเตือนสารพัด และสตาร์ทด้วยกุญแจได้ พร้อมแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง 

ส่วนรุ่นแค็ปนั้น นี่คือออพชั่นท็อปสุดเท่าที่จะให้ได้ ซึ่งยังมีคู่แข่งที่ทำได้ดีกว่าหรือเด่นไปอีกด้านหนึ่งดังต่อไปนี้

2021 Ford Ranger Open cab 2.2 XLT Hi-rider ราคา 794,000 บาท

2021 Ford Ranger รถกระบะอดีตพันธมิตรเก่า ให้ออพชั่หลัก ๆ เท่ากันในราคาถูกกว่า ใช้เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร กำลัง 160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร แต่โมเดลนี้ใกล้ตกรุ่น อยู่ได้อีกประมาณปีเดียว เตรียมจะมีรุ่นโมเดลเชนจ์ออกมาแล้ว

2021 Isuzu D-Max  Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 816,000 บาท

Isuzu D-Max รถกระบะฝาแฝด ที่ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน 150 แรงม้า 350 นิวตันเมตร กับหน้าตาแนวบึกบึน ไฟท้ายมีโค้งเว้าสันนูนสวยงามกว่า ราคาถูกกว่าเล็กน้อย พร้อมมีสีส้มให้เลือก หากใครไม่ถูกโฉลกกับรถสีแดงด้วย