[วิเคราะห์] เกิดอะไรขึ้นกับ 2021 Mazda BT-50 และยอดจอง 70 คันจากงานมอเตอร์โชว์ปีนี้

น่าจะเป็นตัวเลขที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ติดตามข่าวสารยานยนต์ทั่วไป เกี่ยวกับตัวเลขยอดจองรถของ 2021 Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่ประกาศออกมาว่ารถใหม่ล่าสุดของพวกเขามียอดจอง 70 คันถ้วน

ทั้ง ๆ ที่มาสด้าเองมียอดจองรถยนต์ในงานนี้สูงเป็นอันดับ 2 ของงาน และหลาย ๆ คนก็คาดหวังว่ายอดจอง-ยอดขายของรถน่าจะพุ่งแรงกว่านี้ เพราะเมื่อดูจากเป้าหมายการขายของมาสด้าที่วางเอาไว้ 1.5 หมื่นคันในปีนี้ ต้องบอกว่าพวกเขาย่อมคาดหวังสูงกว่านี้แน่

ย้อนกลับไปดูตัวเลขการจำหน่ายรถกระบะในประเทศไทยในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ตัวเลขของมาสด้ายังไม่ขยับมากนัก เป็นผลจากการที่กำหนดการส่งมอบรถรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเหตุผลที่สามารถอธิบายให้เข้าใจกันได้ไม่ยาก

และด้วยการเปลี่ยนพันธมิตรใหม่มาจับมือกับ Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) ที่ถือว่าชื่อชั้นเหนือกว่าพันธมิตรรายเดิมอย่าง Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) แถมด้วยการออกแบบที่โดดเด่นของพวกเขา ทำให้เกิดคำถามอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถรุ่นนี้ของค่าย

AutoFun Thailand ลองนั่งวิเคราะห์หาสาเหตุถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และเราเชื่อว่า Mazda (มาสด้า) เองก็ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรงเหมือนกัน หากพวกเขายังหวังส่วนแบ่งตลาด 4-5% และการขึ้นไปเป็นที่ 4 ของตลาดรถกระบะในประเทศไทย ตามที่เคยคุยเอาไว้!!!

ภาพลักษณ์ของอีซูซุนั้น แข็งแกร่งเกินไป

เดิมที่ตอนที่มาสด้าจับมือกับฟอร์ดนั้น สิ่งที่มาสด้าชูมาโดนตลอดก็คือความแตกต่างของสินค้าที่เน้นจุดขายด้านการออกแบบที่โดดเด่นของแบรนด์ตัวเอง โดยเน้นไปที่ความแตกต่างที่เห็นชัดเจนมาก ซึ่งก็ต้องบอกว่าพวกเขาทำได้ดีสำหรับรถรุ่นที่ผ่านมาก่อนหน้านี้

ส่วนที่ช่วยส่งเสริมให้พวกเขาเดินหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง ก็เพราะว่าภาพลักษณ์ของฟอร์ดเองนั้นไม่ได้สูงส่งจนแตะต้องไม่ได้ ยอดขายนั้นก็อยู่วน ๆ ระหว่างเบอร์ 3-4 ของตลาด เรียกว่ายังพอที่จะตั้งตนเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่อยากได้สมรรถนะในระดับนั้นได้

แต่กับอีซูซุ ที่ไม่เคยหลุดจากเบอร์ 2 ของตลาดกระบะ แถมช่วงที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นช่วงพีคของแบรนด์ ที่คว้าส่วนแบ่งตลาดกระบะกว่า 40% แถมยังขึ้นไปเป็นแชมป์ยอดขายในตลาดรวมรายเดือนได้อีก ถือเป็นภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งสุด ๆ สำหรับแบรนด์ในปัจจุบัน

หากมองในมุมของลูกค้า ในเมื่อต้องซื้อรถที่เหมือนกันเกือบทั้งหมด แตกต่างกันแค่หน้าตาแล้วล่ะก็ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเอง เลือกแบรนด์ที่แข็งแรงกว่า เครือข่ายการให้บริการเหนือกว่า แถมให้การขับขี่ที่ถือว่าอยู่ในระดับเท่าเทียมกันแบบไม่ติด

จริง ๆ ก่อนหน้านี้ มาสด้าเองเคยคาดหวังว่าด้วยภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งกว่าของอีซูซุน่าจะช่วยเหลือในด้านการดึงกลุ่มลูกค้ากลับมาซื้อรถของพวกเขามากขึ้น แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ลูกค้าต้องเลือกใช้เงิน ภาพลักษณ์ของอีซูซุกลับกลายมาเป็นหอกทิ่มแทงเสียเอง

การออกสินค้าที่ไม่หลากหลายพอสำหรับผู้บริโภค

แน่นอนว่าเมื่อตอนที่มาสด้าใช้โรงงานของตัวเองในการผลิตสินค้าร่วมกับพันธมิตรเก่า พวกเขามีการปรับตัวที่ดีกว่านี้ในการรองรับกับความต้องการของตลาด ซึ่งแตกต่างจากในภาวะปัจจุบันที่ต้องพึ่งพิงโรงงานของพันธมิตรอย่างอีซูซูในการผลิตรถกระบะทั้งหมด

ตลาดรถปิกอัพที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นตัวแต่งครบจากโรงงานหรือตัวเตี้ยแต่งซิ่ง เริ่มมีความต้องการสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ เห็นได้จากการที่คู่แข่งเกือบทุกรายหันมาทำตลาดรถเฉพาะทางที่หลากหลายขึ้น

มาสด้าเองก็เคยเปรย ๆ เอาไว้ว่าอยากจะทำเหมือนกัน และในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาก็เปิดตัวชุดแต่งแบบฟูลออพชั่นออกมาขายเพิ่มเติม แถมมีตัวโหลดเตี้ยแต่งซิ่งออกมาให้เห็นกันอีกต่างหาก แต่ก็ยังไม่เจ๋งพอที่จะทำให้ลูกค้าหันมาสบตากับเซลล์ที่ยืนข้างรถได้นี่สิ

ยังไม่ได้ออกกระสุนดินดำเต็มพิกัด

ถ้าดูจากตัวเลขยอดจองรถยนต์รายรุ่นของมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ก็พอจะเห็นได้ลางลางว่ามาสด้าเอง เหมือนจะทุ่มสรรพกำลังทั้งหมดไปยังตลาดที่มีความแข็งแกร่งอย่างกลุ่ม CX-Series ที่เรียกว่ามียอดจองกันอย่างโดดเด่นเกือบทุกรุ่นที่ทำตลาดกันอยู่

ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่ามาสด้าเองคาดการณ์ว่าบีที-50 ที่เป็นสินค้าที่ใหม่ที่สุดในท้องตลาด อาจจะไม่ต้องการการผลักดันทางด้านแคมเปญมากเหมือนรถรุ่นอื่น ๆ ทำให้ไม่ได้ใส่แคมเปญลงไปอย่างเต็มพิกัด เมื่อมองเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ จะเห็นอย่างชัดเจน

เมื่อโดนประกบด้วยคู่แข่งในงานมากมาย ที่มีทั้งตัวแต่ง หน้าใหม่ รุ่นย่อยพิเศษ ที่อัดมาพร้อมด้วยแคมเปญกระจุยกระจายแบบไม่มีอะไรจะเสียในช่วงนี้ แน่นอนว่าลูกค้าที่ไปเดินในงานคงไม่เดินเข้าบูธมาสด้าเพียงอย่างเดียวแล้วซื้อเลย แต่คงเลือกรถและโปรที่ดีที่สุดไป

แล้วมันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานไหม

คงจะเป็นการเร็วไปที่จะบอกว่ามาสด้าจะไม่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถกระบะรุ่นใหม่ของพวกเขา เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ายอดจองในมอเตอร์โชว์มันก็แค่ส่วนหนึ่งของการขายรถยนต์ในประเทศไทย ของจริงมันอยู่ที่อีก 8-9 เดือนที่เหลือต่างหาก

ปัญหาอีกอย่างที่พอจะอธิบายได้ก็คือมาสด้ายังไม่ได้เริ่มส่งมอบรถกันอย่างเป็นทางการ ทำให้ยังไม่เห็นรถวิ่งอยู่บนถนน ซึ่งรถที่ขายด้วยหน้าตาที่โดดเด่นนั้น การปรากฎตัวบนท้องถนนบ่อย ๆ ย่อมมีผลที่จะทำให้เตะตาลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้มากพอสมควร

มาสด้าเคยประเมินยอดขายตัวเองในปีนี้เอาไว้ที่ 1.5 หมื่นคัน และคาดหวังว่าในอนาคตอาจจะทำยอดจำหน่ายได้สูงสุดเท่ากับที่รถรุ่นเดิมทำเอาไว้ที่ 2.8 หมื่นคัน เพื่อหวังที่จะขยับขึ้นไปรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดรถปิกอัพอันดับที่ 3 ในประเทศไทยเอาไว้ให้ได้

ถ้าถามผมโดยส่วนตัว มาสด้าอาจจะต้องคิดในเรื่องของการปลดล็อกตัวเองออกจากการเป็นแฝดน้องของดีแมคซ์ให้ได้เสียก่อนเป็นอย่างแรก สร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่ห่างไกลผู้นำตลาด เพื่อหากลุ่มลูกค้าที่อยากได้รถสวยที่น่าไว้วางใจได้อย่างจริงจังกับเขาเสียที

ที่เหลือก็คือการเร่งผลักดันสินค้าออกมาสู่ท้องถนนให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงการเดินหน้าอัดแคมเปญสำหรับบีที-50 เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในช่วงโลว์ซีซั่นส์ ซึ่งหากปรับตัวได้ไว ก็อาจจะยังพอทำเป้าหมายที่เอาไว้ได้สำเร็จในปีนี้ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้...

 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Pisan

หัวหน้าทีมบรรณาธิการ

Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่...

ขายรถคันเดิมเพื่อซื้อรถมือสองคุณภาพดีได้ง่ายและสะดวก

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Mazda BT-50

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

[ENG SUB] Mazda BT-50 FSC 1.9L และ DBL 3.0L ตัวท็อป ดีคนละแบบ น่าใช้แค่ไม่แตกต่าง

2021 Mazda BT-50 ฝาแฝด Isuzu D-Max แย่งที่ 3 ตลาดปิกอัพ Triton, Ranger และ Navara

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Mazda BT-50
เช็คทันที