Mazda (มาสด้า) ประกาศเดินหน้าทำตลาดผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าภายใน 5 ปีข้างหน้า คาดเริ่มต้นจาก 2022 Mazda CX-5 (2022 มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) และ 2022 Mazda 2 (2022 มาสด้า 2) มาพร้อมระบบไฮบริด
ค่ายรถจากเมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่นระบุว่าจะแนะนำรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ารวมทั้งหมด 13 รุ่นภายในปี 2025 หรือเท่ากับนำเสนอรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ 3 รุ่นต่อปี พร้อมกับจะเปิดตัวแพลตฟอร์ม Skyactiv แบบโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มีความยืดหยุ่นรองรับรถยนต์หลากขนาดหลายตัวถัง
ทั้งหมดอยู่ในแผนโรดแมพ Sustainable Zoom-Zoom 2030 ฉบับใหม่ที่ทาง Mazda เพิ่งประกาศออกมาเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เราไปชมกันว่ารถยนต์ที่เราชาวไทยควรให้ความสนใจมีอะไรบ้าง
Mazda เรียกโครงสร้างแพลตฟอร์มใหม่ว่า SkyActiv Multi-Solution Scalable Architecture ซึ่งจะรองรับทั้งรถยนต์ขนาดเล็กที่วางเครื่องยนต์แนวขวางพร้อมใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และรถยนต์ขนาดใหญ่กว่าที่ใช้เครื่องยนต์วางตามยาว ขับเคลื่อนล้อหลังหรือขับเคลื่อน 4 ล้อ
แพลตฟอร์มใหม่นี้จะถูกใช้ในรถยนต์ไฮบริด 5 รุ่น รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 5 รุ่น และรถยนต์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100% อีก 3 รุ่นระหว่างปี 2022 – 2025 ออกจำหน่ายทั้งในตลาดญี่ปุ่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา จีน แน่นอนว่ารวมถึงไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดด้วย
รถยนต์ที่เราชาวไทยจะได้สัมผัสกันแน่นอนก็คือ 2022 Mazda 2 ใหม่ และ CX-5 ใหม่ที่จะใช้ระบบไฮบริด มีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงระบบปลั๊กอินไฮบริดที่อาจทำตลาดในอนาคตด้วย
หลังจากนั้น Mazda จะนำเสนอ SkyActiv EV Scalable Architecture แพลตฟอร์มใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งจะเปิดตัวระหว่างปี 2025 – 2030 อันเป็นช่วงเวลาที่ค่ายรถจากแดนอาทิตย์อุทัยรายนี้รุกตลาดรถอีวีเต็มตัว
แผนการเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งหมด 13 รุ่นนำไปสู่เป้าหมายแรกของ Mazda ภายในปี 2030 นั่นคือรถยนต์ทุกรุ่นที่ออกทำตลาดทั่วโลกจะใช้พลังงานไฟฟ้ารูปแบบใดรูปแบบหนึ่งช่วยในระบบขับเคลื่อน และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นจะต้องมีการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้ได้สัดส่วน 25% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
ที่น่าสนใจก็คือ อิชิโระ ฮิโรเสะ ผู้บริหารระดับสูงของ Mazda ได้ยืนยันว่าบริษัทฯ จะทำการพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100% ขึ้นมาเองอย่างเป็นอิสระ โดยเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้จากการผนึกกำลังกับ Toyota และ Denso ขณะที่ระบบไฮบริดจะแชร์ชิ้นส่วนบางอย่างกับ Toyota
Mazda ยังประกาศว่าจะแนะนำระบบ Mazda Co-Pilot 1.0 ติดตั้งในรถยนต์หลายรุ่นในปีหน้า สามารถตรวจจับสถานะของผู้ขับขี่ตลอดเวลา เมื่อผู้ขับขี่มีท่าทางเปลี่ยนไปและไม่สามารถควบคุมตัวรถได้ ระบบนี้จะสั่งการไปสู่ระบบขับขี่อัตโนมัติเพื่อนำตัวรถเข้าจอดข้างทางอย่างปลอดภัยก่อนที่จะโทรหาหน่วยฉุกเฉินเพื่อขอรับการช่วยเหลือ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}