Isuzu D-Max 2020 ผงาดครองตำแหน่งเจ้าตลาดรถกระบะเมืองไทยมานานหลายเดือนติดต่อกัน อะไรคือความโดดเด่นที่ทำให้รถกระบะรุ่นนี้เป็นผู้นำเซกเมนท์ปิกอัพในบ้านเราที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด
Toyota แก้มือด้วยการส่ง Hilux Revo รุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกจำหน่ายในช่วงต้นเดือนมิถุนายน แต่ Isuzu ก็ยังมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่งและเชื่อว่าจะยังคงเบียดกับคู่แข่งอย่างสูสี แต่ก่อนที่จะจับจองเป็นเจ้าของ D-Max ใหม่เราไปชมกันว่า 5 จุดเด่นที่ควรรู้ในรถกระบะรุ่นนี้มีอะไรบ้าง
ถึงแม้ Isuzu D-Max 2020 จะมีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนักเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม แต่การปรับรูปลักษณ์ใหม่แบบยังรักษาเอกลักษณ์และเติมความทันสมัยอย่างการใส่ไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติและเดย์ไลท์ในตัว ทำให้สามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ได้ ขณะเดียวกัน ชื่อชั้นแบรนด์ยังช่วยดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ได้มากขึ้น นอกจากนี้การเพิ่มสีตัวถังอย่างสีส้มไปจนถึงสีน้ำเงินก็ยังเตะตาคนรุ่นใหม่ได้อีกด้วย
หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ D-Max ถูกอกถูกใจลูกค้าก็คือสมรรถนะการขับขี่ที่ตอบสนองทั้งความสะดวกสบายและความสมบุกสมบัน แชสซีส์รับแรงบิดได้สูงขึ้น 23% จากการใช้แพลตฟอร์มใหม่เอี่ยม Isuzu Dynamic Drive Platform ระยะฐานล้อที่กว้างขึ้นทำให้พื้นที่ในห้องโดยสารโอ่โถงสะดวกสบายมากขึ้นตามไปด้วย
การเปลี่ยนแปลงภายในถือว่าพลิกโฉมมากกว่าภายนอก รุ่นบน ๆ ใช้วัสดุที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มมือเหมือนรถยนต์นั่งทั่วไป ครบครันอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง มีการตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมี่ยม Piano Black และ Satin Chrome ขณะเดียวกัน มาตรวัดยังเป็นหน้าจอ Smart MID ขนาด 4.2 นิ้ว ส่วนระบบอินโฟเทนเมนท์แสดงผลผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับแอปเปิลคาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ รวมถึงระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน
D-Max รุ่นบนมีระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตา Blind Spot Monitor ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert ะบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Control ระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control System ตลอดจนระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD และช่วยเสริมแรงเบรก BA ปิดท้ายด้วยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย) และเซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลังรวม 8 ตำแหน่ง
หัวใจขับเคลื่อนยังคงเป็นเครื่องยนต์ความจุ 1.9 และ 3.0 ลิตรเหมือนเดิม แต่ก็มีการปรับแต่งใหม่ภายในเครื่องยนต์ ระบบเผาไหม้ ระบบหล่อเย็น ให้มีอัตราการเร่งที่ดีมากยิ่งขึ้น ตอบสนองการออกตัวและเร่งแซง ส่วนความประหยัดน้ำมันก็เชื่อถือได้ตามสไตล์ Isuzu ด้วยตัวเลขราว 14 – 16 กม.ต่อลิตร
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}