เทียบกระบะค่าตัว 1 ล้านบาทเศษ Ford Ranger vs Mitsubishi Triton

รถกระบะ 4 ประตูได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทยจากผู้ใช้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แอคทีฟ สามารถใช้รถปิกอัพในชีวิตประจำวันและตอบสนองกิจกรรมต่าง ๆ ช่วงสุดสัปดาห์

ค่ายรถยนต์ในประเทศไทยจึงนำเสนอรถกระบะ 4 ประตูให้ลูกค้าได้เลือกกันอย่างคึกคัก แน่นอนว่า Ford Ranger ที่มีรูปลักษณ์แข็งแกร่งและหรูหราคือตัวเลือกลำดับต้น ๆ

ด้วยโจทย์ง่าย ๆ ถ้าคุณมีงบประมาณ 1 ล้านบาทเศษและกำลังมองหารถกระบะสักคัน เราขอนำรุ่นดับเบิลแค็บ 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดซึ่งเป็นตัวรองท็อปลำดับที่ 3 มาเทียบกับรุ่น Mitsubishi Triton ดับเบิ้ลแค็บ 4WD 2.4 GT Premium เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดซึ่งเป็นตัวท็อป

มิติตัวถัง

Ranger 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider มีความยาว 5,434 มม. กว้าง 1,867 สูง 1,815 มม. ระยะฐานล้อ 3,220 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 230 มม. น้ำหนักตัวรถไม่ระบุ

Mitsubishi Triton ดับเบิ้ลแค็บ 4WD 2.4 GT Premium มีความยาว 5,300 มม. กว้าง 1,815 มม. สูง 1,795 มม. ระยะฐานล้อ 3,000 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 220 มม. น้ำหนักตัวรถไม่ระบุ

เมื่อดูจากตัวเลขมิติตัวถังพบว่า Ranger มีขนาดใหญ่โตกว่า Triton ในทุกมิติ รวมถึงระยะฐานล้อก็ยาวกว่าด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้เกิดข้อดีสำหรับ Ranger ในด้านพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารและพื้นที่หลังกระบะ แต่ข้อด้อยก็คือการขับขี่ในพื้นที่คับแคบก็จะยากลำบากมากกว่า Triton

ระบบขับเคลื่อน

Ranger มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว 2.0 ลิตร  ดีเซลเทอร์โบชาร์จเจอร์ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ พละกำลังสูงสุด 180 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที มาตรฐานไอเสีย Euro 4 ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 2 ล้อ

Triton ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบแถวเรียง ความจุ 2.4 ลิตร พร้อมระบบ MIVEC พละกำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และสามารถเลือกรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD II พร้อม Rear Differential Lock ได้

สำหรับระบบขับเคลื่อน Triton เหนือชั้นกว่าเล็กน้อยหากดูจากสเปกชีท ทั้งพละกำลังและแรงบิด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของค่ายจากแดนอาทิตย์อุทัยยังขึ้นชื่อลือชาและถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งแรลลี่โลก

รูปลักษณ์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

Ranger 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider ซึ่งเพิ่งได้รับการปรับโฉมใหม่เมื่อปลายปีที่แล้ว ได้รับการเปลี่ยนไฟหน้าเป็น Bi-LED พร้อมไฟเดย์ไลท์ LED ในตัว รวมถึงล้ออัลลอยลายใหม่ 6 ก้านคู่ทูโทนขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 อุปกรณ์อื่น ๆ ยังคงเดิมทั้งไฟตัดหมอกหน้า LED ไฟส่องสว่างกระบะท้าย กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตู ที่เปิดฝากระบะท้าย กันชนหลังตกแต่งด้วยสีดำ ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift ทำให้การเปิด-ปิดกระบะท้ายสะดวกสบายยิ่งขึ้น

อุปกรณ์มาตรฐานด้านรูปลักษณ์ของ Mitsubishi Triton รุ่นท็อปประกอบด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Bi-LEDไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำ ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกหน้า ไฟท้าย และไฟเบรกแบบ LED พร้อม LED Light Guide กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ กันชนหน้าด้านล่างสีเงิน แผงกันกระแทกด้านล่าง กระจังหน้าสีเงิน กรอบกระจกมองข้างโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไล่ฝ้า

ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกของ Ranger 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider มีดังนี้

- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ

- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง

- กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ

- คอนโซลทำความเย็น

- ช่องต่อไฟ 12V

- ช่องต่อไป 230V

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา

- หน้าจอข้อมูลบนหน้าปัด จอสีคู่ข้างละ 4.2 นิ้ว

- หน้าจอแสดงผลสีแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว

- รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ มีระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC สนับสนุนภาษาไทย

- ช่องต่ออุปกรณ์ USB 2 ตำแหน่ง

- ลำโพง 6 ตำแหน่ง

 ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกของ Triton ดับเบิ้ลแค็บ 4WD 2.4 GT Premium มีดังนี้

- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ

- ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง

- พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ และปรับเข้า-ออก แบบ 4 ก้าน

- เบาะคนขับปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง

- ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ แยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา

- ระบบหมุนเวียนอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

- สวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลในการขับขี่แบบสีพร้อม 3D แอนิเมชั่น

- สวิตช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลในการขับขี่บนพวงมาลัย

- กุญแจอัจฉริยะ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์

- ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย

- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

- เครื่องเสียง 2DIN - วิทยุ, ดีวีดี, ซีดี, MP3 พร้อมจอภาพระบบสัมผัส และระบบนำทางในรถยนต์

- สวิตช์ควบคุมวิทยุบนพวงมาลัยพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์

- ช่องต่ออุปกรณ์ USB 3 ตำแหน่ง

- ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ แบบ A2DP

- ลำโพง 6 ตำแหน่ง

ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารได้เปรียบเสียเปรียบกันคนละอย่าง Triton เหนือกว่าตรงที่มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังติดมาด้วยซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในสภาพอากาศร้อนจัดของบ้านเรา ส่วน Ranger ใช้หน้าจอบนคอนโซลขนาด 8 นิ้วรองรับการสั่งงานด้วยเสียง SYNC สนับสนุนภาษาไทย

ระบบความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยของ Ranger 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider มีดังนี้

- กล้องมองหลังขณะถอยจอด

- คานเหล็กนิรภัยด้านข้าง

- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX

- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 จุด

- ระบบควบคุมการทรงตัว

- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี

- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน

- ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ

- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD

- สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลัง

- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุดพร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ

- เข็มขัดนิรภัยด้านหลังทั้งสามที่นั่งแบบ 3 จุด

 ระบบความปลอดภัยของ Triton ดับเบิ้ลแค็บ 4WD 2.4 GT Premium มีดังนี้

- คานเหล็กนิรภัยบริเวณประตูหน้า และหลัง

- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง บริเวณหัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย รวม 7 ตำแหน่ง

- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง เฉพาะด้านคนขับ

- เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งคู่หน้า แบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง ปรับระดับได้

- เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง แบบ ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง

- จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่ง ที่เบาะนั่งแถวที่ 2

- ระบบเบรกแบบ ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD

- ระบบลดกำลังเครื่องยนต์ เพื่อช่วยเบรก

- ระบบเสริมแรงเบรก

- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล

- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน

- ระบบควบคุมรถขณะลงทางลาดชัน

- ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ

- ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว

- ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว

- ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา

- ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน

- ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด

- เซ็นเซอร์กะระยะจอดด้านหน้า และด้านหลัง

- กล้องมองภาพรอบคัน พร้อมเส้นกะระยะและเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ

ด้วยราคาที่สูงกว่า Triton จึงมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ป้องกันการชน และปกป้องเมื่อเกิดการชนด้วยถุงลมนิรภัยถึง 7 ลูก

 ราคาจำหน่าย

Ford Ranger 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider ราคา 1,029,000 บาท

Mitsubishi Triton ดับเบิ้ลแค็บ 4WD 2.4 GT Premium  ราคา 1,099,000 บาท

สรุป

ทั้งสองรุ่นถือเป็นผลิตภัณฑ์จากค่ายแบรนด์รองที่ต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงอันดับ 3 โดยปล่อยให้เจ้าตลาดอย่าง Toyota และ Isuzu ผลัดกันชิงบังลังก์สลับกันไป นั่นหมายความว่า ลูกค้าที่กำลังพิจารณารถกระบะ Triton หรือ Ranger ไม่ได้คำนึงถึงชื่อชั้นแบรนด์และราคาขายต่อมากนัก แต่ให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์และรสนิยมส่วนบุคคลของตนเอง

ด้วยราคาที่ต่างกัน 7 หมื่นบาท  ไม่มากไม่น้อยเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวรถที่ทะลุ 1 ล้านบาท หากดูจากรูปลักษณ์ถือว่ามีดีไซน์และบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดย Ranger มีความเรียบหรูและบึกบึน ส่วน Triton กับดีไซน์ Dynamic Shield มีความแข็งแกร่งเหมือนกันและดูจะหวือหวามากกว่า 

ขณะที่สเปกด้านการขับขี่มีความใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง ยกเว้นเพียง Ranger เป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ส่วน Triton ตะกุย 4 ล้อ ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแทบไม่ต่างกันมากนักในแง่ของการใช้งาน สุดท้ายมวยคู่นี้น่าจะวัดกันที่ความชื่นชอบในแบรนด์ของแต่ละคนมากกว่าคุณสมบัติของตัวรถ