รีวิว 2021 Honda Accord EL Turbo อาวุธลับทำทำให้ไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่มซื้อรุ่นไฮบริดอีกแล้ว

เมื่อตอนที่เปิดตัว 2022 Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) สื่อมวลชนหลายคนได้มีโอกาสพบปะกับผู้บริหารใหม่ของ Honda (ฮอนด้า) ที่เข้ามารับตำแหน่งในประเทศไทย และมีการพูดคุยกันหลายยเรื่อง หนึ่งในนั้นคือการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์นั่ง

ผู้บริหารนั้นดูมั่นใจมาก ๆ ในเกือบทุกเซกเมนต์ จะมียกเว้นไปบ้างก็ในบางเซกเมนต์ที่อยู่ระหว่างการเตรียมเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ และก็มีคนถามถึง Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรก พวกเขามียอดขายรวมตามหลังผู้นำอยู่หลักร้อยคัน

ในวันนั้น ผู้บริหารของฮอนด้าระบุว่าพวกเขามีแผนที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดแน่นอน และบอกว่าขอเวลาอีกสักครู่ แต่ผ่านมาอีกอึดใจเดียว ฮอนด้า แอคคอร์ด เวอร์ชั่นอัพเกรดใหม่ก็ถูกเปิดตัวตามมาอย่างว่องไว เรียกว่าทันใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องให้รอกันนาน

อ่านเพิ่มเติม: โนริยุกิ ทาคาคุระ : Honda ตั้งเป้าเบอร์ 1 รถยนต์นั่ง พร้อมรบในทุกเซกเมนต์ปีนี้

แถมยังเป็นเหมือนกันดับเครื่องชนครั้งใหญ่ เมื่อการอัพเกรดในครั้งนี้ ฮอนด้าเลือกติดตั้งระบบ Honda SENSING (ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง) ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่นต้นอย่างเทอร์โบ พร้อมทำการปรับราคาหลักหมื่นบาท ทำให้ตัวรถมีความคุ้มค่า

จะเปรียบเป็นการทุบหม้อข้าวตีเมืองก็คงไม่ผิด เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้ตลาดรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท เรียกว่าไม่มีใครมาท้าชนได้ และที่น่าจะถามมากกว่าก็คือ ลูกค้าของไฮบริดเองจะไหลลงมาที่เทอร์โบกันแทนหรือเปล่า

AutoFun Thailand ขอสรุปความคิดของเราให้ฟังตามต่อไปนี้...

อ่านเพิ่มเติม: 2021 Honda Accord ใส่ Honda Sensing ทุกรุ่นย่อย รุ่นเริ่มต้นขยับราคาขึ้นเล็กน้อย

ย้อนกลับไป 3 แสนบาทคือราคาของความปลอดภัย

ก่อนหน้าที่จะทำการปรับโฉม ราคาจำหน่ายของฮอนด้า แอคคอร์ด เทอร์โบและไฮบริดนั้น จะแตกต่างกันอยู่ประมาณ 2-3 แสนบาทโดยประมาณ ขึ้นกับว่าเทียบกับรุ่นย่อยไหน โดยไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดก็คือการแตกต่างกันของระบบความปลอดภัยที่ให้มา

แอคคอร์ด ไฮบริดนั้น มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดที่ให้สมรรถนะและการขับเคลื่อนที่เนี๊ยบกว่า และติดตั้งระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยอย่างฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของระบบช่วยเหลือของรถที่ทำให้คุณควบคุมรถได้อย่างลงตัวมากกว่าเดิม

ก็เลยกลายเป็นคำถามที่หลายคนมักจะได้คำตอบเสมอเวลาถามเรื่องว่าจะซื้อไฮบริดหรือเทอร์โบดีกว่ากัน ว่าจริง ๆ แล้วเครื่องยนต์ก็ไม่ได้เลวร้ายทั้งคู่ ถ้าอยากได้ระบบความปลอดภัยก็ต้องยอมจ่ายแพงกว่าเดิม ซึ่งราคาหลักแสนก็ทำให้หลายคนคิดหนัก

มาวันนี้ ฮอนด้าทำการติดตั้งระบบฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ให้กับฮอนด้า แอคคอร์ด อีเแอล เทอร์โบ พร้อมเคาะราคาเพิ่มมาแค่ 2.4 หมื่นบาท ทำให้ราคาจำหน่ายของรถนั้นอยู่ที่ 1.499 ล้านบาทเท่านั้น เรียกว่าเป็นรถราคาต่ำกว่าล้านห้าที่ดูคุ้มค่าที่สุดแล้วตอนนี้

ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบความปลอดภัยเท่านั้น แต่พวกเขาก็ให้อุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงเรื่องของการตกแต่งมาเพิ่มเติม แม้จะขาดพวกเซนเซอร์ช่วยถอยอยู่ก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าระบบที่ให้มานั้นคุ้มค่ามาก และไม่สามารถไปติดตั้งเองข้างนอกได้ด้วย

อ่านเพิ่มเติม: 2021 Honda Accord ปรับออพชั่น อัดฉีดรุ่นล่าง ใส่ออพชั่นเยอะ แนะรุ่นย่อยไหนดีที่เหมาะกับคุณ?

ทำไมเราถึงตื่นเต้นกับ Honda SENSING

แน่นอนว่าในปัจจุบันนี้ ฮอนด้า เซนส์ซิ่งแทบจะกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถยนต์ของฮอนด้าในรุ่นท็อปเกือบทุกรุ่น แต่การที่ฮอนด้าขยายการใช้งานมาครอบคลุมถึงรุ่นเริ่มต้นด้วย ก็ทำให้เราชื่นชม แถมด้วยค่าตัวที่เพิ่มมาแค่ 2.4 หมื่นบาทอีกด้วย

จ่ายเพิ่มเท่านี้ คุณจะได้รถที่มาพร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ติดตั้งระบบการเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และระบบการควบคุมรถให้อยู่ในเลน แถมมีระบบเตือนการชนด้านหน้าสำหรับรถยนต์และคนเดินถนน ที่มาพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติให้ต่างหาก

และแน่นอนว่า ยังจะต้องมาพร้อมกับระบบควบคุมความเร็วรถแบบแปรผันอัตโนมัติ ที่สามารถปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าได้ ซึ่งระบบที่ให้มานั้นใช้งานได้อย่างสอดประสานลงตัว เพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถ โดยเฉพาะในเมืองได้เป็นอย่างดี

มีการตกแต่งเพิ่มหลายจุดทั้งภายนอก-ภายใน

แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่การเพิ่มเติมอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยเข้ามา แต่รถคันนี้มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มอุปกรณ์หลายชิ้น โดยภายนอกนั้นมีการติดตั้งเพิ่มในส่วนของไฟตัดหมอกหน้าแบบแอลอีดี และปลายท่อไอเสียแบบคู่เฉพาะรุ่นเทอร์โบเท่านั้น

นอกจากนี้ ก็จะมีการติดตั้งตำแหน่งของเซนเซอร์ระบบเซนส์ซิ่งที่ใต้ป้ายทะเบียนที่กันชนด้านหน้า นอกจากนั้นภายนอกก็เหมือนเดิมทั้งหมด ขณะที่ห้องโดยสารภายในก็มีการเพิ่มกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมไวร์เลส ชาร์จเจอร์มาให้

กระจกไฟฟ้าถูกเปลี่ยนเป็นแบบกดปุ่มทีเดียวก็เปิด-ปิดทุกบาน พร้อมการเพิ่มม่านบังแดดสำหรับกระจกข้างตอนหลังมาให้เรียบร้อย และยังเพิ่มที่ชาร์จไฟแบบยูเอสบี 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลังมาให้ ทำให้รถมีความน่าใช้งานเพิ่มมากขึ้นอีก

ห้องโดยสารหลังนั้นพับเบาะได้จากฝากระโปรงท้าย และยังมีช่องเปิดไปถึงที่เก็บสัมภาระอีกด้วย เบาะที่นั่งฝั่งผู้โดยสารตอนหน้ายังไม่ได้ติดระบบปรับเบาะจากด้านหลังมาให้เหมือนรุ่นท็อป แต่ก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น ของที่มีให้มาก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

ความสะดวกสบายและใหญ่โตภายในยังเป็นจุดขาย พอพอกับระบบความปลอดภัยที่นำมาโดยถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบความช่วยเหลืออื่น ๆ มีมาให้ครบครันเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Brake Hold มาพร้อม Honda LaneWatch และกล้องมองหลัง

ขับคล้าย ๆ เดิมล่ะ ยังไงไฮบริดก็เนียนกว่า

แม้จะปรับอุปกรณ์อื่น ๆ มาอย่างเต็มที่ แต่หากพูดถึงเรื่องของการควบคุมรถคันนี้เพียงอย่างเดียว แน่นอนว่าเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ถูกนำเครื่องไปโมลงฮอนด้า ซีวิค แต่ในรุ่นนี้ก็ยังให้แรงมากกว่าที่ 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร

การส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติซีวีที ลงระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ก็ไม่อาจที่จะเทียบเคียงกับเครื่องยนต์ไฮบริด ไอ-เอ็มเอ็มดี ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว เรียกพละกำลังระดับ 215 แรงม้า ออกมาต่อเนื่อง

พร้อมด้วยแรงบิดระดับ 315 นิวตันเมตร พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์อี-ซีวีที แน่นอนว่าการเรียกกำลังและแรงบิดของรุ่นไฮบริดที่เปลี่ยนชื่อเรียกเป็น e:HEV นั้น ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้เครื่องยนต์เทอร์โบจะให้การตอบสนองที่เรียกว่าไม่ได้เลวร้ายแล้วก็เถอะ

เราลองจับ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงดู พบว่าเวลาที่ทำได้นั่นห่างกันประมาณ 1 วินาที โดยไฮบริดทำได้ดีที่สุดที่ 8.04 วินาที ขณะที่เทอร์โบจะทำได้ที่ 9.09 วินาที เอาจริง ๆ ผมแอบชอบความรู้สึกของการขับเครื่องยนต์เทอร์โบอยู่มากกว่านิด ๆ เสียด้วยนะ

แต่สิ่งที่เทอร์โบไม่อาจจะสู้ได้จริง ๆ ก็คงเป็นเรื่องของอัตราการสิ้นเปลือง วันที่ทดสอบนั้นเราทำความเร็วสูงเกือบตลอดเพราะเวลาจำกัดมาก เทอร์โบนั้นทำได้ที่ 11-12 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่อี:เอชอีวีที่ขับใกล้เคียงกันทำได้ดีกว่าที่ 15-16 กิโลเมตรต่อลิตร

เลือกเทอร์โบเพราะถือว่าคุ้มค่ามากกว่าทุกรุ่น

การเลือกปรับเอาฮอนด้า เซนส์ซิ่ง มาติดตั้งในรุ่นเทอร์โบนั้น น่าจะเป็นไพ่ตายของฮอนด้า ในการดึงลูกค้ากลุ่มรถยนต์นั่งดี-เซกเมนต์กลับมา เพราะไม่ว่าจะมองเรื่องราคา ความคุ้มค่า อุปกรณ์ที่ให้มา และสมรรถนะของตัวรถเอง ก็ถือว่าไม่เป็นรองใครแล้ว

อย่างที่บอกว่า ก่อนหน้านี้เราอาจจะต้องจ่ายอีกหลายแสนบาทเพื่อเอาระบบนี้ ทำให้ลูกค้าลังเล หรืออาจจะหนีไปที่รถของคู่แข่ง ที่ทำราคาดัก 1.5 ล้านบาทบวกลบเอาไว้ใน 2 รุ่นเริ่มต้น ซึ่งเอาจริง ๆ เทอร์โบมันก็ไม่ได้โดดเด่นออกมาเหนือกว่าใครเขาขนาดนี้

แต่เมื่อให้ของทุกอย่างมาเพิ่ม พร้อมทำราคาล็อกเอาไว้ที่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ตลาดรถยนต์สำหรับผู้บริหารที่เน้นความคุ้มค่าต้องสั่นสะเทือน แถมฮอนด้าเองยังอัดแคมเปญใหม่ ๆ เข้ามารองรับความต้องการของลูกค้าชาวไทยกันเต็มที่แบบปิดจุดบอด

ต้องบอกว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด เองนั้นก็มีจุดขายในเรื่องของความสะดวกสบาย ห้องโดยสารตอนหลังที่โอ่อ่า สามารถนั่งโดยสารหรือทำงานได้อย่างสะดวก ช่วงล่างก็ออกแบบมาให้นุ่มนวล เก็บเสียงได้เงียบ แต่ยังให้ความมั่นใจเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง

หากมองว่าราคาของเทอร์โบนั้น ห่างจากอี:เอชอีวีตัวเริ่มต้นอยู่ 1.4 แสนบาทและห่างจากรุ่นท็อปอยู่ 3 แสนบาท ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่อยากได้รถที่อุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วน เครื่องยนต์ก็จัดว่าดี แถมภาพลักษณ์ก็ไม่เป็นรองใคร

แล้วถ้าจ่ายอีก 3 แสนได้อะไรเพิ่มมาบ้างนะ

ถ้ายอมจ่ายเพิ่มอีก 3 แสนบาท เพื่อครอบครอง Honda Accord e:HEV TECH ก็จะมีของเล่นที่ได้เพิ่มมาอีกเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้วดีไซน์พรีเมียม

ติดตั้งสปอยเลอร์หลังมาให้ พร้อมด้วยซันรูฟพร้อมระบบ One-Touch ภายในยังมีปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ รวมถึงปุ่มควบคุม HUD ที่ให้เพิ่มขึ้นมาบนพวงมาลัย

เพิ่มระบบฟอกอากาศในห้องโดยสาร พลาสม่าคลัสเตอร์ เพื่อความสะอาดในการหายใจของคนในรถ มาพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย เครื่องยนต์สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้งเครื่องยนต์อย่างเดียว ไฟฟ้าอย่างเดียว หรือระบบไฮบริด

ในรุ่นท็อปยังมาพร้อมระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ทำงานผ่านกล้องที่ติดตั้ง 4 จุดรอบคัน ทำงานร่วมกันเซ็นเซอร์กะระยะหลัง 4 จุด ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย รวมถึงระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมระบบช่วยเบรก ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

เอาจริง ๆ เลยถามว่าจ่ายเพิ่มมันคุ้มค่าไหม ถ้าเกิดเป็นสายเงินถึงและต้องการของเล่นให้ครบครัน ของส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นมาก็เป็นจุดที่ไปติดตั้งเพิ่มเองข้างนอกไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้น ถ้าต้องการอะไรให้มันครบ ๆ จะจัดรุ่นใหญ่ให้จบไปเลยก็ไม่ผิดอะไร

แล้วถ้าไปคู่แข่งล่ะจะได้อะไรมาบ้าง

ขอโฟกัสไปที่ 2021 Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) ที่เป็นคู่เทียบกับรุ่นเทอร์โบ โดยในตลาดนั้น พวกเขามีจำหน่ายอยู่ 2 รุ่นที่ไม่ใช่เครื่องยนต์ไฮบริด ได้แก่รุ่น 2.0G ราคา 1.455 ล้านบาท และรุ่นถัดมาอย่าง 2.5G เจ้าของค่าตัว 1.599 ล้านบาท ให้ลูกค้าเลือก

เอากันที่เครื่องยนต์กันก่อน รุ่นเริ่มต้นอย่าง 2.0จี มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตรที่ 4,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด รองรับเชื้อเพลิงอี85

รุ่น 2.5จี เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาที การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เรียกว่าให้สมรรถนะที่ไม่ธรรมดาจากเครื่องสันดาป

ติดตั้งอุปกรณ์คล้ายคลึงกันแต่ก็มีจุดที่ต่างกัน เช่น รุ่นล่างจะมาพร้อม Idling Stop แต่รุ่นบนมาพร้อมแพดเดิลชิฟท์ และมีโหมดการขับขี่ให้เลือกหลากหลาย หน้าจอแสดงผลการขับขี่คนละไซส์ แต่ให้เบรกมือไฟฟ้าและไวร์เลสชาร์จเจอร์มาให้ครบแต่ต้น

ถุงลมนิรภัย 7 ลูกติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่เริ่มต้น มีกล้องมองภาพถอยหลัง ระบบบเตือนมุมอับสายตา ระบบช่วยเตือนการชนด้านท้าย และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติมาให้ เอาเป็นว่าลองเปรียบเทียบดู ถ้าคิดว่าคุ้มค่ากว่าก็มาทางนี้ได้เลย

อ่านเพิ่มเติม: 2021 Honda Accord ไมเนอร์เชนจ์ใหม่เริ่มผ่อนเพียงเดือนละ 13,000 หรือจะเอา Toyota Camry ดอกเบี้ย 0%

 

 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Pisan

หัวหน้าทีมบรรณาธิการ

Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่...

ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Honda Accord

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

รีวิว 2021 Honda Accord ที่คิดว่า EL Turbo 1.499 ล้านบาท คือคุ้มค่าที่สุดกว่า e:HEV และคู่แข่งไปเลย

รีวิว แตร Accord Hella แดง แตรเดิม Honda HR-V

Honda Turbo City Civic Accord เปลี่ยนนํ้ามันเครื่องเมื่อไหร่ ?

รีวิว Accord 1.5 Turbo ภายนอก ภายใน เบื้องต้น

Honda Accord ท้าย 2 ก้อน ที่มาพร้อมกับเครื่อง H22A แบบชุดใหญ่ By BoxzaRacing.com

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Honda Accord
เช็คทันที