รวมรถมือสอง 5 รุ่นสุดทนทายาด แม้เก่าเกิน 30 ปียังเห็นวิ่งได้เต็มถนน

รถยนต์นั้น เป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างแพง เมื่อเราจ่ายจำนวนหลักแสน หรือหลักล้านไปแล้ว เราก็ย่อมคาดหวังว่าจะต้องได้ของดี อยู่กับเราไปนาน ๆ อย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป

รถยนต์ใหม่ในปัจจุบันนั้น ก็ยังมีความทนทานหากบำรุงรักษาตามระยะปกติ แต่ก็ยังมีรถบางรุ่น ที่ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตามก็ยังสามารถเห็นได้บนถนนเป็นจำนวนมาก

แม้ตัวถังจะผุพังไปบ้าง แต่เครื่องยนต์ก็ยังวิ่งได้สบาย จะมีอะไรบ้าง เรารวบรวมมาให้

Mercedes-Benz W124

บางคนอาจมองว่า รถยุโรปนั้นไม่ทนเท่ารถญี่ปุ่น แต่ไม่ใช่กับ Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) รุ่น W124 หรือก็คือ Mercedes-Benz E-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส) เพราะรถรุ่นนี้ เป็นรุ่นแรกที่ใช้เหล็กตัวถังแบบ Ultra High Tensile ซึ่งมีการชุบกันสนิมแบบรถสมัยใหม่ จึงเป็นการลดช่วยอาการผุพังของรถยนต์ได้

นอกเหนือจากนั้น Mercedes-Benz W124 ยังถูกพัฒนาขึ้นมาแบบ "Overengineered" ที่ทุกชิ้นส่วนจะต้องทนทานกว่า 30 ปี จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกวันนี้เรายังเห็นรถรุ่นนี้วิ่งอยู่บนท้องถนนเป็นจำนวนมากกว่ารถหรูในอดีตรุ่นอื่น ๆ ปัจจุบันยังหาได้ไม่เกิน 150,000 บาท

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมกซ์) เป็นอีกหนึ่งรถที่ทนทานที่สุดในประเทศไทย เครื่องยนต์ 4J ดีเซลนั้นถูกใช้มาตั้งแต่ปี 1985 กับรถกระบะ Isuzu (อีซูซุ) อีกหลายรุ่น พิสูจน์ถึงความทนทานและความประหยัดโดยผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์

สิ่งสำคัญที่ทำให้ Isuzu D-Max และรุ่นอื่น ๆ ยังคงวิ่งอยู่มากมาย เพราะความแพร่หลายของอะไหล่ อีกทั้งราคาอะไหล่แท้เป็นหนึ่งในรถที่อะไหล่ถูกที่สุด และศูนย์บริการขึ้นชื่อเรื่องการดูแลเอาใจใส่ลูกค้า ทำให้รถเหล่านี้ยังคงกลับเข้าใช้ศูนย์บริการอยู่บ่อย ๆ แม้อายุจะเกือบ 20 ปีเข้าไปแล้ว

อ่านเพิ่มเติม Isuzu D-Max โฉมไฟตั้ง คือกระบะที่คุ้มเงินที่สุดในตอนนี้

Toyota Corolla ตระกูล AE

Toyota Corolla ตัวถังประเภท AE ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น AE80, AE92, AE101 หรือ AE111 เป็นรถที่ทนทานโดยไม่ได้ต้องแลกกับราคาแพง ไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตามใช้อะไหล่ที่คล้ายกัน สลับกันได้ การหาอะไหล่จึงทำได้อย่างง่ายดาย 

รุ่นที่ทนทานที่สุด น่าจะเป็น AE92 หรือที่ชาวรถจะเรียกกันว่าโดเรม่อน ซึ่งถูกพัฒนาและผลิตขึ้นในช่วงยุคฟองสบู่ของญี่ปุ่น แต่ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดก็ตามของ Toyota Corolla ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป ก็ยังพบเห็นได้ง่ายกว่ารถในยุคเดียวกัน

แถมราคายังน่าคบหามาก ๆ เพราะหาได้ไม่เกิน 100,000 บาท บางคันต่ำกว่า 50,000 บาทก็มี

Toyota Corolla Altis หน้าแบน

ท่านอาจสงสัย ว่าทำไมมี Toyota Corolla 2 รอบ แต่ Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรล่า อัลติส) นั้นเป็นรถที่แตกต่างกับ Toyota Corolla ยุคก่อนหน้าจนต้องแยกออกมา เพราะว่ารุ่นนี้ทนกว่ารุ่นเก่าเสียอีก

เราอยากจะแนะนำเป็น Toyota Corolla ZRE141 ที่ทำตลาดตั้งแต่ปี 2010 ถึงปี 2013 หรือที่เรียกกันว่าหน้าแบน เนื่องจากใช้เครื่องยนต์ตระกูล ZR ใหม่ เป็นระบบวาล์วไฮดรอลิก โซ่ราวลิ้น ระบบคอยล์แยก และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ทนที่สุดในบรรดารถทั่วไป คอนเฟริ์มจากผู้ขับแท็กซี่ที่บางคันเลขไมล์เกินล้านมาแล้ว

แม้รุ่นหน้าหมูจะทนก็จริง แต่เพิ่มเงินอีกนิดก็จะได้รุ่นที่ใหม่กว่าแล้ว และยังหาง่ายไม่เกิน 3 แสนบาท

อ่านเพิ่มเติม Toyota Corolla Altis หน้าแบน เครื่องไหนน่าใช้ แค่ 1.6 หรือไป 1.8 ดี?

Toyota Hilux

แม้ว่าจะมี Toyota (โตโยต้า) 3 คันในนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เขาทำรถออกมาได้ทนมาก ๆ กับ Toyota Hilux (โตโยต้า ไฮลักซ์) ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดก็ตาม ใช้แชสซีเหล็กกล่องขนาดใหญ่ ช่วงล่างแบบเรียบง่าย และเครื่องยนต์ดีเซลที่พัฒนาขึ้นมาโดยคำนึงถึงความทนทานเป็นเรื่องหลัก ใช้งานได้ยาว ๆ

และยังรวมถึง Toyota Hilux Vigo ที่เครื่องยนต์อัตราเร่งดีแม้บรรทุกหนัก ไม่มีปัญหาจุกจิก อะไหล่หาง่าย

อ่านเพิ่มเติม Toyota Hilux Vigo มือสองเมืองไทยทำไมยังน่าใช้ วิ่งกันให้เต็มเมือง