Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ได้แต่งตั้งให้บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด (ในขณะนั้น) ได้รับสิทธิ์ในการเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ดาวสามแฉกอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเมื่อปี 2493 หรือกว่า 70 ปีมาแล้ว
ต่อมาในปี 2521 บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด ได้เริ่มประกอบรถเก๋งที่โรงงานในจ.สมุทรปราการ โดยเริ่มต้นด้วย Mercedes-Benz W123 จากนั้นพัฒนาสายการผลิตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่ผ่านมา จนฉลองความสำเร็จของการประกอบรถเบนซ์ในไทยครบ 100,000 คันในปี 2559 กลายเป็นความไว้วางใจจนได้เป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในปัจจุบัน
ในช่วงปี 2560-2562 มีโครงการริเริ่มให้มีโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฮบริดเมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นครั้งแรก ภายใต้การดูแลของบริษัท ธนบุรี เอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (TESM) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่ได้รับอนุญาตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์แต่เพียงผู้เดียว
โรงงาน TESM ซึ่งมีพื้นที่รวม 11,000 ตารางเมตรใช้พื้นที่ราว 10,000 ตารางเมตรสำหรับการผลิตแบตเตอรี่โดยเฉพาะ และแบ่งพื้นที่อีก 800 ตารางเมตรเพื่อการตรวจสอบและทดสอบคุณภาพของแบตเตอรี่ โดย TESM ได้เริ่มเดินสายการผลิตตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา มีความสามารถในการผลิตแบตเตอรี่ที่ 30 ชุด/วัน
ทั้งนี้ โรงงานแบตเตอรี่ในประเทศไทย เป็นหนึ่งในเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ทั่วโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยนับเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งที่ 6 ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งในปัจจุบันมีเพียง 7 แห่งทั่วโลก โรงงานนี้จะผลิตเพื่อรองรับความต้องการในประเทศและเพื่อส่งออก ตอบสนองความต้องการในตลาดอย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการผลิตรถยนต์ ซึ่งกลยุทธ์นี้จะทำให้มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่อันทันสมัยจากศูนย์กลางการผลิตในแต่ละพื้นที่ ไว้รองรับแผนงานรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท พูดง่าย ๆ ก็คือ โรงงานนี้จะเป็น Hub ทำแบตส่งให้เบนซ์นั่นเอง
TESM ได้เริ่มต้นผลิตแบตเตอรี่รุ่น PB300 สำหรับรถยนต์ Mercedes-Benz ปลั๊กอินไฮบริดรุ่น C-Class, E-Class และ GLC ขนาดความจุ 13.8 kWh ในเดือนกรกฎาคม 2562 และเริ่มส่งออกแบตเตอรี่ชนิดนี้ไปยังประเทศเยอรมนีในเดือนกรกฏาคม 2563 และในเดือนกันยายนที่ผ่านมา TESM ยังได้เริ่มต้นผลิตแบตเตอรี่รุ่น PB400 ขนาดความจุที่ใช้ได้ 21.4 kWh เพื่อให้เป็นแบตเตอรี่เจเนอเรชันใหม่สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด Mercedes-Benz S 580 e โดยเฉพาะ
อ่านเพิ่มเติม : 2021 Mercedes-Benz S-Class รุ่นประกอบไทย 2 รุ่นย่อย เคาะค่าตัว 6.69-7.19 ล้านบาท
แบตเตอรี่รุ่น PB400 ให้พลังไฟฟ้าที่มากขึ้นสำหรับรถยนต์ไฮบริด โดยหากเป็นการขับขี่โดยใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวก็สามารถพารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดไปได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร สำหรับการชาร์จ หากเป็นการชาร์จด้วยปลั๊กไฟฟ้าภายในบ้านจะใช้เวลา 6.15 ชั่วโมง (จาก 10-100%) หากเป็นการชาร์จผ่าน MB Wall Box จะใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง (จาก 10-100%) และหากเป็นการชาร์จด้วย DC Fast Charge จะใช้เวลาเพียง 20 นาที (จาก 10-80%)
อ่านเพิ่มเติม : Mercedes-Benz ชวนคนใช้รถปลั๊กอินเลิกเติมน้ำมัน รวมรุ่นเบนซ์ที่เสียบชาร์จไฟได้ในปี 2021
นอกจากความพร้อมในการผลิตแล้ว โรงงาน TESM ยังมีการทดสอบแบตเตอรี่ ภายใต้มาตรฐานการทดสอบระดับโลกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes Global Testing Standard) ทั้งในเรื่องความทนทานภายใต้อุณหภูมิที่แตกต่าง การทดสอบเรื่องการสั่น การกันน้ำและกันฝุ่น รวมไปถึงการทดสอบฟังก์ชันและสมรรถนะของแบตเตอรี่ ฯลฯ
อ่านเพิ่มเติม : Mercedes-Benz ยืนยันเปิดตัวรถใหม่เพียบปีนี้ นำโดย 2022 Mercedes-Benz EQS
TESM กำลังจะเริ่มต้นการผลิตแบตเตอรี่รุ่น EB40x สำหรับรถยนต์รุ่น EQS ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่จะมีการประกอบในประเทศไทย โดยแบตเตอรี่รุ่น EB40x เป็นแบตเตอรี่ขนาดความจุ 107.8 kWh ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนัก 670 กิโลกรัม สามารถใช้ขับขี่ได้ไกลถึง 770 กิโลเมตร ซึ่งเปิดตัวพร้อมขายในงาน Motor Expo 2021 ซึ่งนี่จะเป็นผลิตภัณฑ์จาก Mercedes-EQ รุ่นแรกที่ประกอบในประเทศไทย และจะมีรุ่นอื่น ๆ ตามมาอีกในอนาคตแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม : คันจริงมาแล้ว 2022 Mercedes-Benz EQS450+ สเปคประกอบไทย ลุ้นราคาในงาน Motor Expo 2021
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}