ลือกระหึ่ม Mitsubishi เตรียมหยุดส่งออก SUV ไปยุโรปเดือนหน้า

การปรับตัวของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Mitsubishi ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเรโนลต์-นิสสัน เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขามีการประกาศว่าจะเดินหน้าบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แผนงานเล็ก ๆ แต่งดงาม ที่เน้นการลดต้นทุนและการสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่หลายรุ่นในอนาคต

แต่กลับตลาดอื่น ๆ ที่เคยมีความนิยมชมชอบรถของค่ายตราเพชรสามแฉกแล้ว กลับดูเหมือนเป็นฝันร้านตอนกลางวัน โดยเฉพาะกับตัวแทนจำหน่ายในภาคพื้นยุโรป เมื่อมีรายงานข่าวโดยไม่มีการระบุแหล่งข่าวที่ชัดเจน ว่ามิตซูบิชิกำลังเตรียมหักดิบในตลาดยุโรป ด้วยการงดการส่งออกรถเอสยูวีหลากหลายรุ่นให้กับตัวแทนจำหน่ายในยุโรป

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ แผนงานดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เพราะมีรายงานว่าการหยุดการส่งออกรถเอสยูวีไปทำตลาดยุโรปนั้นจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ทันที หลังจากที่เดือนที่ผ่านมา พวกเขาประกาศไปก่อนหน้านี้ ว่าจะมีการหยุดการแนะนำสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ในตลาดยุโรป แต่ไม่ได้มีรายละเอียดเรื่องทั้งหมดนี้ออกมา

รถรุ่นไหนที่เข้าข่ายงดส่งออกบ้าง

แน่นอนว่าเรื่องที่น่าเสียดายที่สุดก็คือ รถเอสยูวีที่อยู่ในโผที่จะโดนงดส่งออกด้วยก็คือ Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) รถที่กำลังจะมาผลิตเพื่อเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้ โดยที่บอกว่าน่าเสียดายเพราะว่ารถคันนี้นั้น ถือเป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในทวีปยุโรปเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ก็ยังมีรถเอสยูวีขนาดเล็กอย่าง Mitsubishi ASX (มิตซูบิชิ เอเอสเอ็กซ์) ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ขายดีที่สุดของแบรนด์เองในภูมิภาคนี้ รวมไปถึงเอสยูวีคูเป้อีกรุ่นอย่าง Mitsubishi Eclipse Cross (มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอส) ซึ่งรถยนต์ทั้ง 3 รุ่นนี้มียอดขายรวมกันมากกว่า 64% ของยอดขายรถยนต์นั่งของมิตซูบิชิในช่วงครึ่งปีแรกเลยทีเดียว

คำถามก็คือมิตซูบิชิจะเหลือสินค้าให้ขายกี่รุ่นในตลาดยุโรป หนึ่งในรุ่นที่เหลือก็คือ Mitsubishi Space Star (มิตซูบิชิ สเปซ สตาร์) หรือเจ้า Mitsubishi Mirage ในบ้านเรา และ Mitsubishi L200 (มิตซูบิชิ แอล200) รถกระบะที่ขายอยู่ในไทยในชื่อ Mitsubishi Triton ซึ่งแน่นอนว่าตัวแทนจำหน่ายของมิตซูบิชิคงไม่แฮปปี้กับเรื่องนี้นัก

การเปลี่ยนแปลงที่คืบคลานเข้ามาในมิตซูบิชิ

มิตซูบิชิมียอดจำหน่ายรถยนต์นั่งในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 ที่ 53,242 คันในตลาดยุโรป โดยในจำนวนนี้ เป็นรถยนต์เอสยูวี 3 รุ่นที่ทำตลาดอยู่มากถึง 64% ขณะเดียวกัน รถที่ขายดีอย่างสเปซ สตาร์และแอล200 นั้น ก็ไม่ได้มีอนาคตที่สดใส เมื่อมีรายงานเช่นกันว่าทั้ง 2 รุ่นจะได้ทำตลาดต่อไปจนถึงสิ้นปี 2564 เท่านั้น

ตัวแทนจำหน่ายของมิตซูบิชินั้นคงโกรธกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะแน่นอนว่ายังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการออกมาจากค่ายให้ชัดเจน และมีรายงานเพิ่มเติมว่า ดีลเลอร์ทั้งหมดได้รับการแจ้งล่วงหน้าเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ก่อนที่จะมีการประกาศแผนการหยุดแนะนำสินค้าใหม่ ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการทำตลาดรถยนต์ที่เหลือในตลาด

ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 (เมษายน-มิถุนายน) มิตซูบิชิ ยุโรปมียอดจำหน่ายประมาณ 3 หมื่นคัน ลดลงจากยอดจำหน่าย 5.8 หมื่นคันในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตรการหดตัวกว่า 48% ซึ่งน้อยกว่าการหดตัวเฉลี่ยทั่วโลกที่ 53% อาเซียน 68% หรืแแม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นเองก็ยังหดตัวมากกว่าที่ 52%

อย่างไรก็ตาม หากดูจากตัวเลขคาดการณ์การจำหน่ายในปีงบประมาณนี้ ก็จะพบว่าตลาดยุโรปจะมียอดขายเพียง 1.15 แสนคัน หดตัวมากถึง 47% สวนทางกับภาพรวมของตลาดรวมทั่วโลกที่คาดการณ์หดตัว 25% ในอาเซียนที่การหดตัวจะลดเหลือ 19% หรือในประเทศญี่ปุ่นก็จะลดเหลือ 21% ซึ่งน่าจะเกิดจากแผนการตลาดหลายด้าน

การปรับแผนงานครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเรโนลต์-นิสสัน ที่มีข่าวว่าพวกเขาตัดสินใจแยกกันเดิน ร่วมกันตีในตลาดโลก โดยได้แบ่งพื้นที่ที่แต่ละคนมีความแข็งแกร่ง เพื่อไม่ให้เกิดการทับซ้อนของการทำตลาดแข่งขันกันเอง โดยนิสสันจะเน้นตลาดทวีปอเมริกา มิตซูบิชิในเอเชีย และยุโรปจะปล่อยเรโนลต์ลุยเป็นหลัก