All-New 2019 Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2019) รถยนต์ SUV อเนกประสงค์ ที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา โดยในโฉมนี้ได้เปิดไลน์ผลิตครั้งแรกและรุ่นแรกของซูบารุที่โรงงานในนิคมลาดกระบัง ประเทศไทย

โดยทำการจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อยด้วยกันดังนี้ รุ่น 2.0i-L เริ่มต้น 1.33 ล้านบาท รุ่น 2.0i-S ราคา 1.38 ล้านบาท  รุ่น 2.0i-S Eyesight ราคา 1.45 ล้านบาท และรุ่น 2.0i-S Eyesight GT Edition ราคา 1.55 ล้านบาท ใช้เครื่องยนต์เบนซินสูบนอน ขนาด 2.0 ลิตรทุกรุ่น

ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ อาจจะเป็นรถยนต์รุ่นนึงที่เป็นที่สนใจในผู้คนเฉพาะกลุ่ม ครั้งนี้เราจะพาไปดู 5ข้อดีที่จะทำให้คุณนำเจ้าซูบารุ ฟอเรสเตอร์ไปไว้ในตัวเลือกของรถยนต์ SUV อเนกประสงค์อีกรุ่นนึง เพื่อพิจารณาเลือกใช้งานได้อย่างเต็มความต้องการของคุณได้

1. การควบคุมและทรงตัวของรถดี

เนื่องจากเจ้าฟอเรสเตอร์ใช้ขุมพลังเป็นแบบเครื่องยนต์สูบนอน (Boxer) ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้มีผลที่ดีต่อการควบคุมทิศทางของรถ และการเข้าโค้งที่ดีมากขึ้น ทำให้แก้ไขจ้อเสียของรถ SUV ที่มีลักษณะความสูงและชอบมีอาการแกว่ง หรือส่ายในช่วงเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี รวมถึงวงเลี้ยวที่มีระยะเพียง 5.4 ม. เท่านั้น

2. เครื่องยนต์ Boxer ให้กำลังที่พอดี

ขุมพลังเครื่องยนต์สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที อาจจะไม่แรงหวือหวาแต่เหมาะสมกับรถยนต์ครอบครัวที่เป็นลักษณะนี้ สามารถใช้งานได้เพียงพอกับทุกสภาพการจราจรบนท้องถนน รวมถึงอัตราการบริโภคน้ำมัน 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร ก็ถือว่าพอรับได้กับขนาดของรถยนต์ SUV ไซด์นี้

3. ภายในกว้างขวางนั่งสบาย

ภายในโทนสีดำ เบาะหนังสีดำตัดด้วยการเดินด้ายสีขาว รวมถึงเบาะทรงสปอร์ตที่โอบรับกับลำตัว แต่ไม่อึดอัดมากไป ยังมีความนุ่มสบายอยู่ และเบาะคู่หน้ายังเป็นแบบปรับระดับไฟฟ้า 8 ทิศทางอีกด้วย รวมถึงเบาะหลังที่มีพื้นที่วางขาของผู้โดยสารตอนหลังพอสมควร และสามารถปรับได้ 60:40 เพื่อการบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติม รวมถึงความสะดวกสบายด้วยฝาท้ายเปิด - ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

4. EyeSight และความปลอดภัยระดับ 5 ดาว

ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ทดสอบความปลอดภัยจาก EURO NCAP ได้ถึง 5 ดาว ซึ่งเป็นการการันตีได้ว่าทั้งโครงสร้างตัวถัง และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ให้มาเพียงพอกับการที่ต้องเจอเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา

รวมถึงระบบ EyeSight หรือ Subaru EyeSight Driver Assist เปรียบเสมือนตาอีกคู่นึง ที่จะช่วยผู้ขับขี่มองเห็นและอำนวยความสะดวกสบาย โดยหากเราเปิดใช้งานครูสคอนโทรลแล้ว ระบบ EyeSight  จะทำงานโดยอัตโนมัติ หากระบบตรวจพบว่ามีรถคันหน้าชะลอความเร็ว จนถึงสามารถเบรกหยุดรถตามคันหน้าได้ และหากคันหน้าเร่งความเร็วระบบก็จะเร่งความเร็วให้เท่ากับรถคันหน้า โดยไม่เกินความเร็วที่เราตั้งค่าไว้ เพื่อความปลอดภัยกับตัวรถยนต์และผู้ขับขี่

5. ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ X-Mode

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของเด็ดของดังจากทางค่ายดาวลูกไก่ ด้วยระบบ X-Mode ที่ปรับรูปแบบการขับเคลื่อนรวมถึงแรงบิดและการตอบสนองของคันเร่งได้ถึง 3 รูปแบบ ทำให้เป็นอีกหนึ่งรถครอบครัวที่สามารถจะลุยไปได้ในทุกสภาพพื้นผิวถนนในทุกเส้นทาง ด้วยการใช้งานที่ง่ายเพียงแค่หมุนเปลี่ยนโหมดเท่านั้น

และยังทำงานคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT 7 จังหวะ ที่ทำให้การต่อเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล และมีโหมด M ที่สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ด้วยตนเองที่พวงมาลัยได้ (Paddle Shift)