นิสสัน (Nissan) ทำการปรับเปลี่ยนเกรดของรถและปรับเพิ่มรุ่นตกแต่งพิเศษให้กับ New 2020 Nissan Note (2020 นิสสัน โน๊ต) รถยนต์รุ่นสุดท้ายในโครงการอีโคคาร์ เฟสแรกของพวกเขา ซึ่งน่าจะเป็นการปรับปรุงครั้งสุดท้ายก่อนการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
แน่นอนว่าหลาย ๆ คนอาจจะมองข้ามนิสสัน โน๊ต ไปเพียงเพราะอายุอานามในการทำตลาดที่ไม่สดใหม่ หรือมองว่าเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ความแรง 79 แรงม้านั้น ไม่เพียงพอต่อการใช้งานเสียแล้ว เมื่อคู่แข่งพากันหนีไปทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า
แต่เชื่อไหมว่านิสสัน โน๊ต นั้นก็ยังมีข้อดีมากมายหลายประการที่น่าสนใจอยู่ เรามาลองดู 5 จุดเด่นที่ทำให้รถคันนี้ยังไม่ควรจะหลุดออกไปจากลิสต์อีโคคาร์ที่น่าสนใจ หากต้องการรถไว้ใช้งานจริง ๆ แบบไม่คิดจะไปซิ่งแข่งกับใครกันเถอะ

1.การปรับราคาที่น่าสนใจมากขึ้น

การประกาศลดราคากว่าครึ่งแสนบาท ทำให้นิสสัน โน๊ตนั้น ดูน่าสนใจขึ้นมาทันทีกับรถยนต์ขนาดบี-เซกเมนต์ในโครงการอีโคคาร์ ที่มาพร้อมออพชั่นต่าง ๆ มากมาย โดยสนนราคาใหม่ของนิสสัน โน๊ตนั้น เคาะออกมาที่ 5.29-5.89 แสนบาทเท่านั้น
การปรับราคาในครั้งนี้ ทำให้ราคาจำหน่ายของโน๊ตมีความเหมาะสมมากขึ้น จากเดิมที่การวางตำแหน่งราคาจะต้องหลบให้กับนิสสัน มาร์ช (Nissan March) ที่หยุดทำตลาดไปแล้ว หลายคนถึงกับบอกเลยว่าถ้าโน๊ตมาราคานี้ตั้งแต่ช่วงแรก คงขายกันวิ่งเต็มถนนมากกว่านี้

2.ผู้นำด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย

แม้จะผ่านการทำตลาดมาได้สักระยะ แต่หากดูจากออพชั่นที่ติดตั้งเข้าไปในรถคันนี้แล้ว ถือว่านิสสัน โน๊ต ยังคงสามารถทำตลาดแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ได้อย่างสบาย โดยเฉพาะบรรดาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่พวกเขาใส่เข้าไปอย่างเต็มที่
ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะทั้งสำหรับรถยนต์และคนเดินถนน ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง รวมถึงระบบตรวจจับวัตถุและบุคคลรอบคัน ซึ่งหลายระบบนั้น เพิ่งได้รับการแนะนำในอีโคคาร์รุ่นใหม่ ๆ ในรุ่นท็อปเท่านั้น

3.ห้องโดยสารที่กว้างขวางมากมาย

ไม่ใช่แค่การนำรถยนต์ที่ใหญ่กว่ามาเข้าโครงการ แต่นิสสันนั้นได้ทำการออกแบบห้องโดยสารภายในของโน๊ตให้มีความโปร่งสบาย ปรับความหนาของเบาะตอนหน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการโดยสารตอนหลัง หากเป็นคนที่มีข้าวของอุปกรณ์เยอะหน่อยน่าจะชื่นชอบรถคันนี้
ประตูบานหลังเปิดอ้าได้ 89 องศา เพื่อความสบายในการเข้าและออกจากห้องโดยสาร เบาะที่นั่งแถวหลังพับได้แบบ 60:40 รังสรรค์การใช้งานพื้นที่อย่างชาญฉลาด เมื่อมารวมกับการตกแต่งที่สวยงามไม่ดูทึบทึม ก็ทำให้รถคันนี้ยังน่าใช้งานอยู่เหมือนเดิม

4.ชุดแต่งที่ดูสปอร์ต ปราดเปรียว

แน่นอนว่าการปรับโฉมครั้งนี้ นิสสันได้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าสายสปอร์ต ด้วยการใส่ชุดแต่ง N-Sport Package เข้ามาให้ในรถรุ่นรองท็อป พร้อมวางราคาเท่ากับรุ่นท็อปที่มีอุปกรณ์ของเล่นมากกว่า เพื่อให้ลูกค้าเลือกกันไปเลยว่าอยากสวยหรืออยากได้ของครบ
ชุดแต่งที่เพิ่มขึ้นมานั้นประกอบไปด้วยกระจกมองข้าง สีดำด้าน มือเปิดประตูภายนอก สีดำด้าน สปอยเลอร์ สีดำด้าน หลังคา สีดำด้าน สเกิร์ตข้าง สีดำเงา สเกิร์ตหน้า สีดำเงา พร้อมลายคาร์บอน สเกิร์ตหลัง สีดำเงา พร้อมลายคาร์บอน และล้ออัลลอย 15 นิ้ว สีทูโทน ปัดเงา

5.ความเชี่ยวชาญในการดูแลรถคันนี้จากศูนย์บริการ

แม้จะเป็นรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ที่มีอายุในการทำตลาดมาไม่นาน แต่เครื่องยนต์ HR12DE นั้นเป็นเครื่องยนต์รุ่นมาตรฐานที่ทำตลาดมาแล้วในมาร์ชและอัลเมร่า ที่มียอดจำหน่ายในประเทศและยอดการส่งออกจำนวนมหาศาลจากฐานการผลิตในประเทศไทย
ดังนั้น คงไม่เป็นการเกินไปที่จะบอกว่าศูนย์บริการของนิสสันนั้น ก็ควรจะต้องมีความเชี่ยวชาญในการดูแลรถยนต์รุ่นนี้มากเป็นพิเศษ รวมไปถึงอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์ก็น่าจะพร้อมที่สุดเช่นกัน และเครื่องรุ่นนี้ก็มีค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพงมากเสียด้วยนะ