New 2019 Mitsubishi Attrage (2019 มิตซูบิชิ แอททราจ) รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ล่าสุดของรถยนต์นั่งซีดานขนาดเล็กจากค่ายทรีไดมอนด์ ถือเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่หลังจากการเปิดตัว และเป็นการส่งรถคันนี้ไปแข่งกับคู่แข่งในโครงการอีโคคาร์ เฟสสองอย่างเป็นทางการ
นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาที่ทำให้รถคันนี้ดูโฉบเฉี่ยวขึ้นกว่าเดิมแล้ว ยังมีการเพิ่มอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไปมากมาย โดยเน้นที่ระบบความปลอดภัยที่อัดแน่นมาเต็มพิกัด เพื่อให้เทียบชั้นกับคู่แข่งรายอื่นได้อย่างไม่น้อยหน้า
แอททราจเปิดตัวในระเทศไทยใน 4 รุ่นย่อย เคาะราคาตั้งแต่ 4.94-6.24 แสนบาท โดยทำการปรับราคาขึ้นมาตั้งแต่ 7,000-19,000 บาทเท่านั้น คุ้มค่าเมื่อเทียบกับของเล่นที่เพิ่มมา และนี่คือ 5 สิ่งที่น่าสนใจในรถคันนี้ ที่ทำให้คุณต้องพิจารณามันเป็นหนึ่งในออพชั่นของรถใหม่ในอนาคตของคุณเอง
1.พัฒนาการด้านความปลอดภัยเหนือชั้น
การเป็นรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ เฟสสอง นอกจากจะสามารถดันเครื่องยนต์รุ่นเดิมให้ผ่านมาตรฐานที่เข้มข้นขนาดนั้นได้ ส่วนหนึ่งก็คือการหันไปแพคระบบเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยกันเต็มรูปแบบ เพื่อให้เป็นรถยนต์ที่น่าใช้งานมากขึ้น
มิตซูบิชิ แอททราจใหม่ จึงมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันในทุกรุ่นย่อย นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องจ่ายเงินมาก ควักกระเป๋าไม่ถึง 5 แสนบาท ก็สามารถได้รถยนต์นั่งไซส์เล็กที่มีถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่งที่คู่หน้าติดตั้งมาให้เรียบร้อย
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอีเลกทรอนิกส์ ระบบเสริมแรงเบริก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว รวมไปถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ซึ่งเทียบเท่ากับมาตรฐานของอีโคคาร์ เฟสสอง เลยทีเดียว
2.การออกแบบภายนอกที่ดูดีขึ้นเยอะ
ในโฉมเดิมของแอททราจนั้นดูธรรมดามาก ไม่ได้มีความสวยงามหรือสปอร์ตเลยแม้แต่น้อย ด้วยตัวรถนั้นเน้นจับกลุ่มผู้ใหญ่เสียมากกว่า แต่ทีมงานออกแบบก็ตัดสินใจเลือกดีไซน์ Dynamic Shield มาใช้กับการปรับโฉมให้กับรถรุ่นใหม่นี้
ผลที่ได้ก็คือรถที่มาพร้อมภาพลักษณ์ที่ดุดันขึ้น มาพร้อมการออกแบบช่วงด้านหน้าของตัวรถใหม่เกือบทั้งหมด กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ คาดเส้นสีแดงคู่ ไฟหน้าโปรเจกเตอร์เลนส์แบบไบ-แอลอีดี ไฟตัดหมอกหน้าดีไซน์เฉียบ พร้อมด้วยไฟท้ายแบบแอลอีดี ไลท์ ไกด์ดิ้งดีไซน์ใหม่
ล้ออัลลอยปรับเพิ่มเป็นขนาด 15 นิ้ว มาพร้อมยาง 175/55 R15 กันชนหน้าและกันชนท้ายดีไซน์ใหม่ ซึ่งแม้การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดอาจจะยังไม่ทำให้รถนั้นดูสปอร์ตเหมือนคู่แข่งรุ่นใหม่ ๆ แต่ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของรถแบบหน้ามือเป็นหลังมือ
3.ห้องโดยสารภายในที่ปรับมาใหม่เช่นกัน
ไม่ใช่แค่ภายนอกห้องโดยสารที่มีการเปลี่ยนแปลง มิตซูบิชิก็ทำการปรับเปลี่ยนภายในห้องโดยสารของพวกเขาเช่นเดียวกัน โดยเน้นไปที่รูปลักษณ์ที่ดุดัน และความสามารถในการใช้งานที่ครบครัน ในห้องโดยสารขนาดกะทัดรัดสมตัว
การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดก็คือการเปลี่ยนหน้าจอเครื่องเสียงพร้อมระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วที่ออกแบบมาใหม่ การเปลี่ยนเบาะนั่งมาใช้เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ เดินตะเข็บด้ยสีขาว และการปรับปรุงชุดมาตรวัดด้วยการเพิ่มดีไซน์ขอบสีแดงเข้ามา
ภายในห้องโดยสารยังให้โทนแบบผู้ใหญ่ขรึม ๆ ด้วยการตกแต่งโทนสีดำตัดวัสดุสีเปียโนแบล็ก ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอล พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน มาพร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์ แถมด้วยอุปกรณ์มากมายครบครัน
4.เครื่องยนต์ที่เหมาะสมสำหรับในเมือง
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงหลักของรถยนต์คันนี้ยังไปไม่ถึงเครื่องยนต์ที่ใช่มาอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องมีการปรับจูนเพื่อให้สามารถผ่านมาตรฐานที่เข้มงวดขึ้นของโครงการอีโคคาร์ เฟสสองไปได้ และทำให้เครื่องยนต์ของแอททราจก็ยังน่าใช้งานและเหมาะสมกับในเมืองอยู่ดี
เครื่องยนต์รหัส 3A92 ที่มาพร้อมปริมาตรกระบอกสูบ 1,193 ซีซี. แบบดับเบิบโอเวอร์เฮดแคมชาร์พ ไมเวค 12 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลังเป็นการจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรือเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที อินเวค ทรี โดยเครื่องยนต์สามารถรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้สูงสุดที่อี20 ซึ่งแม้จะไม่ใช่เครื่องยนต์ที่สมรรถนะดุดัน แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในเมืองอย่างแน่นอน
5.อุปกรณ์อื่น ๆ ไม่น้อยหน้าคู่แข่ง
ด้วยการเป็นรถที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากรุ่นเดิมในการเข้าโครงการสอง ทำให้แอททราจ ไมเนอร์เชนจ์นั้น มีอุปกรณ์ด้านความสะดวกที่อาจจะเรียกได้ว่ามากกว่าคู่แข่งในบางรุ่นเสียด้วยซ้ำ ซึ่งความใจป้ำของมิตซูบิชิ ก็ทำให้แอททราจมีภาษีดีกว่าในเรื่องของของเล่นมากมายที่ติดตั้งมาในรถ
แอททราจนั้นมาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ กระจกหน้าต่างไฟฟ้า 4 บาน ที่ฝั่งคนขับเป็นแบบขึ้น-ลงอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ระบบกุญแจอัจฉริยะ พร้อมด้วยปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
เครื่องเสียงที่รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย รวมถึงแอปเปิล คาร์เพลย์และแอนดรอยด์ ออโต้ มาพร้อมระบบนำทาง ช่องเชื่อมต่อยูเอสบีและลำโพง 4 ตำแหน่ง ซึ่งขอบอกว่าลูกค้าที่ซื้อไปไม่ต้องไปติดตั้งอะไรเพิ่ม ก็สามารถใช้งานชิลล์ได้เลย