ในโลกของยานยนต์เริ่มมีความหลากหลายของรถให้เลือกมากขึ้น ทำให้เหล่าผู้ผลิตต้องปรับตัวเพื่อไล่ตามตลาดของคู่แข่งให้ทัน ทำให้ตอนนี้มี SUV ที่กำลังเหลือ ๆ และกระบะที่เร็วกว่าเก๋งหลายคันไปแล้ว

นั่นทำให้รถสปอร์ตที่อาจจะดูเหมาะแก่การทำความเร็วมากกว่า ก็สามารถเป็นรถที่ขับสนุก ใช้งานได้ในทุกวันพร้อมความสบาย เราจะพาไปดูกันว่า 5 รุ่นนั้นมีอะไรบ้าง

Toyota GR Supra

เมื่อได้ยินชื่อของ Toyota Supra (โตโยต้า ซูปร้า) ก็จะทำให้หลายคนนึกถึงรถสุดโหดของ Toyota (โตโยต้า) ที่ห่างหายจากตลาดไปหลายปี จนได้กลับมาอีกครั้งด้วยตรา GR 

และก็ยังถือเป็นรถสปร์อตที่ให้ได้ทั้งความแรงและความสบาย ด้วยช่วงล่างหน้า MacPherson Strut หลัง Multi-link และระบบควบคุมเฟืองท้าย ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลนที่ยังช่วยให้รถมีความปลอดภัย

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ ให้กำลัง 255 แรงม้า และตัวเลือกเครื่อง 3.0 ลิตร 6 สูบกำลัง 382 แรงม้า สำหรับในไทยจะมีให้เลือกเพียงเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดขับหลัง แต่ในต่างประเทศมีเกียร์ธรรมดา 6 สปีดแล้ว

BMW M2

หากอยากได้รถที่สัญชาติเยอรมันที่ขับสนุกแต่ราคาไม่แพง BMW M2 (บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอ็ม2) ยังถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสายมุดที่ไม่อยากได้รถขนาดใหญ่เกินไป ด้วยตัวถังที่ใหญ่กว่าเดิม, เครื่องอัพกำลังมาแล้ว และแชสซีที่ถูกปรับมาให้ขับบนสนาม จึงทำให้การขับขี่บนถนนสนุกอย่างปฏิเสธไม่ได้

ตัวรถในรุ่นท็อปสุด CS มีเครื่องยนต์เบนซินรหัส S55B30 เทอร์โบคู่ แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 450 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M Double Clutch 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง

Ford Mustang

เจ้าม้าป่า Ford Mustang (ฟอร์ด มัสแตง) น่าจะเป็นรถสปอร์ตที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในประเทศไทย ด้วยหน้าตาที่ดุดัน, ชุดแต่งมากมาย ตัวเลือกเครื่องยนต์ และชื่อเสียงที่สะสมมาหลาย 10 ปี ทำให้เป็นรถยนต์ที่หลายคนเลือกใช้

ที่สำคัญคือมีเครื่องยนต์ให้เลือกถึง 2 แบบในประเทศไทยเพราะตัวใหม่น่าจะเป็นปีหน้า คือเครื่อง 2.3L EcoBoost กำลัง 290 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร สำหรับคนไม่ขับเร็วมาก

และเครื่องยนต์ 5.0L V8 Ti-VCT กำลัง 449 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 529 นิวตันเมตร สำหรับคนชอบความแรงที่สุด

Subaru BRZ - Toyota GR86

หากมีการจัดอันดับเรื่องรถขับสนุกแล้ว ฝาแฝดอย่าง Subaru BRZ (ซูบารุ บีอาร์ซี) และ Toyota GR86 จะต้องติดเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยแน่นอน ด้วยราคาที่ถือว่าไม่แพง เพราะอยู่ที่ 2.699 ล้านบาทเท่านั้น ถูกกว่ารุ่นพี่ Subaru WRX (ซูบารุ ดับบลิวอาร์เอกซ์) ที่ขับสนุกพอกัน แต่มีความแรงมากกว่า

ด้วยน้ำหนักเบา, การควบคุมที่เฉียบคม, จุดศูนย์ถ่วงต่ำ และเครื่องที่ให้ความสนุกแม้ไม่ได้แรงมาก จึงทำให้ทั้งคู่เป็นรถที่หลายคนอยากได้

เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรบอกเซอร์ไร้เทอร์โบ 232 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตรขับเคลื่อนล้อหลัง เลือกได้ระหว่างเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

McLaren GT

เราเข้าใจว่า McLaren (แมคลาเรน) อาจไม่ใช่แบรนด์ที่มีราคาถูก แต่อย่างน้อยเขาก็ทำรถที่ขับในชีวิตประจำวันได้ดีด้วยรุ่น GT หรือแบบ Grand Tourer ที่เน้นความหรูหราและความสบายในการขับขี่ ด้วยออฟชั่นภายนที่มีการตกแต่งด้วยหนัง, ที่เก็บของที่เพียงพอ และเครื่องเสียงอย่างดี

มีระยะห่างจากพื้นที่ 4.3 นิ้วทำให้สามารถใช้งานได้ทุกสภาพจราจร และผู้ผลิตเผยว่าหากใช้ Lift Mode จะมีระยะห่างจากพื้นเพิ่มมาเป็น 5.1 นิ้วหรือเท่า ๆ กับรถเก๋งเลย

มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ทวินเทอร์โบ V8 612 แรงม้าแรงบิด 630 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ SSG 7 สปีด GT สามารถทำความเร็ว 0 – 96 กม./ชม. ได้ภายใน 3.1 วินาที 0 - 200 กม./ชม. ภายในเวลา 9 วินาที วิ่งเร็วถึง 326 กม./ชม.