GolF ก็ว่า: Nissan กับการเดิมพันครั้งสำคัญในประเทศไทย

การประกาศหยุดการทำตลาดรถยนต์ Nissan (นิสสัน) อย่างเป็นทางการอีก 3 รุ่น อันประกอบไปด้วย Nissan Sylphy (นิสสัน ซิลฟี่) Nissan Teana (นิสสัน เทียน่า) และ Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์เทรล) นั้น เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้สร้างความประหลาดใจอะไรให้กับบรรดาผู้ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

เพราะเอาจริง ๆ นิสสันเริ่มแสดงสัญญานนี้ออกมาอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่พวกเขาเริ่มเอารถหลากหลายรุ่นที่ทำตลาดอยู่ในประเทศไทยออกจากเวบไซต์อย่างเป็นทางการไปทีละคัน โดยในเบื้องต้นมีการให้ข้อมูลเพียงว่ารถยนต์เหล่านั้นจำหน่ายหมดสต๊อกไปแล้ว และยังไม่มีแผนการอะไรเพิ่มเติมในช่วงเวลาที่ผ่านมา

กลับกลายเป็นว่า จดหมายถึงตัวแทนจำหน่ายเพื่อแจ้งให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายและแผนงานทั้งหมด ตามที่หลุดรอดออกมานั้น กลับสร้างความสับสนและความไม่สบายใจให้กับทั้งตัวแทนจำหน่ายและลูกค้า รวมถึงเริ่มมีคำถามถึงอนาคตของแบรนด์ ว่าจะอยู่รอดหรือไม่ในอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ประเทศไทย

สถานการณ์ที่แย่ลงเรื่อย ๆ ในตลาด

ถ้านับนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เป็นทีมฟุตบอล และนับปีปฏิทินนี้เป็นฤดูกาลแข่งขันที่ผ่านมาครึ่งฤดูกาลมาแล้ว ทีมระดับกลางอย่างนิสสันนั้น มีพัฒนาการที่แย่ลงตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา นอกจากตัวเลขจะลุ่ม ๆ ดอน ๆ แล้ว แผนงานแต่ละอย่างที่ออกมานั้นทำให้ลูกค้าและดีลเลอร์บ่นปวดหัวกันไปตาม ๆ กัน

ถ้าจำกันได้ พวกเขาเปิดปีด้วยการไล่ลดราคารถยนต์ รถปิกอัพและเอสยูวีของตัวเองมาอย่างเรื่อย ๆ และไม่ได้ลดกันแค่หลักหมื่น แต่หลาย ๆ รุ่นลดกันเป็นตัวเลข 6 หลัก แม้จะมีเหตุผลสวยงามห้อยท้ายว่าเพื่อเป็นการดูแลบุคลากรทางการแพทย์ช่วงโควิด แต่ก็รู้กันอยู่วา ใครก็เดินไปเลือกช็อปรถในโปรนี้กันได้ทั้งสิ้นแบบไม่เลือกอาชีพ

จากนั้นก็ยังมีข่าวลือเรื่องกระแสการมีเรื่องกับตัวแทนจำหน่ายหลายรายออกมาเป็นระยะ ซึ่งเป็นคดีความต่อเนื่องกันมาจากช่วงหลายปีก่อน มีการเปลี่ยนแปลงทีมบริหารหลายตำแหน่ง จากนั้นก็มาต่อด้วยการปลดรถหลาย ๆ โมเดลลงจากเวบไซต์อย่างเป็นทางการ เรียกว่าเป็นคอมโบข่าวร้ายที่ฟาดลงมาอย่างต่อเนื่อง

หันไปดูที่ด้านยอดจำหน่ายกันบ้าง แม้จะทำโปรโมชั่นโหมกระหน่ำกันอย่างหนักในช่วงต้นปีเพื่อการระบายสต็อก แต่หากดูยอดจำหน่ายของนิสสันแล้วก็ถือว่ายังเหนื่อย 7 เดือนแรกของปีนี้ พวกเขาขายรถรวมกันไปที่ 25,502 คันเท่านั้น หดตัวถึง 35.6% ซึ่งเป็นตัวเลขการหดตัวเหนือตลาดรวมที่หดตัวอยู่ 34.9%

แยกลงไปในแต่ละเซกเมนต์ กลุ่มรถยนต์นั่งที่ตลาดหดตัว 41.8% นั้น นิสสันทำยอดจำหน่ายไปได้ 14,777 คัน หดตัว 34.8% ซึ่งแม้จะดูเหมือนดีกว่าตลาด แต่ต้องบอกว่านิสสันควรจะทำได้ดีกว่านี้ ในปีที่มีการเปิดตัวรถยนต์นั่งในโครงการอีโคคาร์อย่าง Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) ที่มีสมรรถนะและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม

ตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์ ซึ่งรวมเอสยูวีด้วยตามการรวบรวมตัวเลขของคนรวม นิสสันหดตัว 36.6% หรือมียอดขาย 10,725 คัน หดตัวมากกว่าตลาดที่ลดลง 31.7% หากลงไปดูในรายละเอียดของปิกอัพ 1 ตัน นิสสันก็มียอดหดตัวเหนือกว่าตลาดที่ 39.5% หรือมียอดขาย 9,386 คัน ขณะที่ตลาดหดตัวเพียง 33% เท่านั้น

หากไล่ลงไปในรายละเอียดอีก Nissan Navara (นิสสัน นาวาร่า) มียอดจำหน่ายในช่วง 7 เดือนแรกของปีที่ 8,319 คัน หดตัว 43.2% ขณะที่ตลาดรวมหดตัว 31.1% และดูเหมือน Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) จะเป็นสินค้าที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 20.8% หรือขายไป 1,067 คัน สวนทางตลาดที่หดตัว 46.6% 

ถ้ามาดูยอดขายเดือนกรกฎาคมกันบ้างล่ะ อัลเมร่ามียอดขายที่ดีที่สุดของนิสสันที่ 1,428 คัน เป็นอันดับ 2 ของตลาดที่ห่างจากผู้นำเกือบ 1 ,000 คันและนำผู้ตามเพียงหลักสิบ Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) มียอดขายที่ 296 คัน และ Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ขายได้ 207 คัน อยู่อันดับที่ 7 และ 9 ของรถเล็ก 5 ประตูตามลำดับ

นิสสัน เทียน่า มียอดจำหน่ายหลักเดียวอย่างต่อเนื่องที่ 8 คัน และน่าจะมีสต็อกที่ดีลเลอร์อีกไม่มาก ปิกอัพอย่างนาวาร่านั้น มียอดขายที่ 1,346 คันเป็นอันดับ 5 ของตลาดที่มียอดขาย 10% ของผู้นำ ขณะที่ความหวังอย่าง Nissan Kicks (นิสสัน คิกส์) ก็มียอดส่งมอบกระท่อนกระแท่นที่ 211 คัน อยู่อันดับ 7 ของกลุ่มครอสโอเวอร์

ทำไมต้องยกเลิกทำตลาด 3 โมเดล

การประกาศยกเลิกการทำตลาดเอ็กซ์-เทรล, เทียน่าและซิลฟี่ แน่นอนว่าเป็นการประกาศแผนงานกลาย ๆ ว่ารถยนต์ทั้ง 3 รุ่นที่เคยทำตลาดในประเทศไทย ใช้ประเทศไทยเพื่อเป็นฐานการผลิตส่งออกในอาเซียน จะถูกยกเลิกการทำตลาดด้วยเหตุผลที่ทุกคนมองไปในทิศทางเดียวกันว่าไม่มีความคุ้มค่าในการพัฒนาโมเดลใหม่

เอาจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตามที่ยกเลิกไปนั้น หากมองไปที่ตลาดโลกและหยิบเอาโมเดลใหม่ ๆ ที่เปิดตัวไปแล้วมา ก็จะพบว่าเป็นรถที่มีความน่าสนใจทั้งการออกแบบและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ใส่เข้าไปมากมาย และก็น่าจะพอขายได้มากขึ้นจากเดิมแน่นอน หากตัดสินใจประกอบและทำการขายในประเทศไทยอีกครั้ง

ปัญหาก็คือ เมื่อพิจารณาถึงความล้มเหลวในการทำตลาดรถแต่ละรุ่นในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นในแต่ละเซกเมนต์ นิสสันเองก็ต้องประเมินกำลังของตัวเองด้วยว่าอยากจะทุ่มไปกับรถยนต์กลุ่มไหน และพวกเขาก็เลือกรถเล็ก รถกระบะและรถยนต์พลังงานทางเลือก เพื่อใช้ในการปรับทัพในครั้งนี้

ก็คงจะไวเกินไปที่จะบอกว่าทีมงานของนิสสันนั้นคิดผิดหรือคิดถูก ตอนนี้หลาย ๆ คนอาจจะยังโอดโอยที่อยากจะเห็นรถทั้ง 3 โมเดลทำตลาดอีกครั้ง แต่เราก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า หากพวกเขายังเดินหน้าต่อโดยที่ตลาดนั้นดูเหมือนจะมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีไปแล้ว ก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะก่อร่างสร้างทุกสิ่งใหม่อีกครั้ง

เทียน่าและเอ็กซ์เทรลนั้น นิสสันทำพังไปกับมือตัวเองด้วยการประกาศดัมพ์ราคาครั้งใหญ่ ที่ส่งผลกระทบต่อราคาในตลาดมือสองและภาพลักษณ์ของสินค้าไปอย่างสิ้นเชิง ขณะที่ซิลฟี่นั้น นอกจากเวอร์ชั่นเทอร์โบแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ให้จดจำมากมาย ถ้านิสสันจะตัดสินใจไปทุ่มเทกับอะไรที่เป็นโลกอนาคตที่แท้จริงก็น่าจะดีกว่า

ฝากความหวังกับเทคโนโลยีแห่งโลกใหม่

ภายใต้แผนการของนิสสันที่ร่อนจดหมายถึงดีลเลอร์ ทำให้พอคาดการณ์ได้ว่าพวกเขาจะเดินหน้าทำตลาดสินค้าที่มีความเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่อาจจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของพวกเขา หรือไม่ก็กลุ่มลูกค้าที่ต้องการทดลองอะไรใหม่ ๆ ให้กับชีวิตบ้าง แม้จะยังไม่มีรายละเอียดอะไรที่ชัดเจนออกมามากมายก็ตามที

แน่นอนว่านิสสันจะไม่หยุดการทำตลาดรถกระบะอย่างนิสสัน นาวาร่า ที่มีคนเริ่มเห็นรถรุ่นใหม่พรางตัววิ่งกันบ้างแล้วในประเทศไทย ซึ่งน่าจะเปิดตัวกันในช่วงปีหน้า และแน่นอนว่าอนุพันธ์ของนาวาร่าอย่างเทอร์ร่าเอง ก็น่าจะยังอยู่ในแผนงานที่วางเอาไว้ เพียงแต่อาจจะต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาหน้าตากันอย่างจริงจัง

อัลเมร่า ก็น่าจะเป็นสินค้าที่อยู่รอดต่อไป รถเล็กในโครงการอีโคคาร์ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบขนาดเล็ก เป็นความหวังของหมู่บ้านนิสสัน ด้วยยอดจำหน่ายที่ยังพอไปได้ และความที่เป็นโครงการที่มีความผูกพันในระยะยาวเพื่อให้ทำได้ตามแผนที่กำหนดเอาไว้กับภาครัฐ ใครที่สนใจรถคันนี้อยู่ก็ถือว่าสบายใจได้

ต่อกันที่กลุ่มพลังงานทางเลือกใหม่ นิสสันนั้นได้แนะนำเทคโนโลยีไฮบริดอย่างอี-พาวเวอร์กับคิกส์ไปในช่วงที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับที่ดีพอสมควร แต่พวกเขาก็ติดปัญหาเรื่องการผลิตจากการที่ซัพพลายเออร์มีปัญหาในการส่งมอบชิ้นส่วน ทำให้ยังตอบได้ยากเหมือนกันว่าอนาคตของอี-พาวเวอร์นั้นจะเป็นอย่างไร

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นิสสันนั้นมีสินค้าอีกรุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์เหมือนกันอย่าง Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) ที่เป็นอีโคคาร์อีกรุ่นในรุ่นที่ผ่านมา และเริ่มมีคนเห็นรถรุ่นใหม่ออกมพรางตัววิ่งกันแล้ว หากกระแสอี-พาวเวอร์ดี แน่นอนว่าโน๊ตเองก็น่าจะได้ไปต่อในตลาด พร้อมกับเครื่องยนต์ทางเลือกใหม่นี้แน่นอน

อีกคันที่เริ่มมีกระแสข่าวมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือรถเอสยูวีไฟฟ้าอย่าง Nissan Ariya (นิสสัน อาริยะ) ที่แว่วว่าอาจจะเห็นถึงการเปิดสายการผลิตใช้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออก แต่ก็ยังต้องระวังประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย ที่ประกาศแผนดึงดูดเงินลงทุนและสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ว่าจะน่าสนใจมากน้อยเพียงใด

เอาจริง ๆ นี่ก็เป็นแค่การคาดเดาล่ะว่านิสสันน่าจะต้องขยับและปรับตัวอย่างรุนแรง หากแพลนของพวกเขาคือการยกระดับตัวเองเป็นผู้ผลิตยานยนต์เฉพาะทางเพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ต้องฝากความหวังไว้กับระบบอี-พาวเวอร์และระบบไฟฟ้าของพวกเขาว่าอย่ามีปัญหาให้ต้องตามแก้ไขอะไรกันในช่วงนี้

ทุ่มหมดหน้าตักตัดเนื้อร้ายรักษาชีวิต

การทำงานของนิสสันในตอนนี้ ถ้ามองผ่าน ๆ ก็เหมือนกับการรักษาโรคด้วยการตัดส่วนที่เป็นปัญหาหรืออาจจะเป็นปัญหาออกไปให้หมด แล้วไปฝากความหวังกับยารักษาโรคใหม่ ที่ยังไม่รู้ว่าผลการรักษานั้นจะออกหัวหรือก้อย แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้โรคลามไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถจะควบคุมสถานการณ์อะไรใดใดได้อีก

แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายที่แบรนด์อย่างนิสสันจะคาดหวังถึงการตอบรับที่ยอดเยี่ยม แต่ในอดีตก็มีค่ายรถบางค่ายเหมือนกันที่เลือกเฉือนปัญหาอย่างรถยนต์นั่งออกไป แล้วหันมาบุกตลาดกระบะและพีพีวีแทน ซึ่งก็ทำให้พวกเขาอยู่รอดได้อย่างประคองตัวในตลาดประเทศไทยได้ และนิสสันเองก็น่าจะทำได้เหมือนกันแบบง่ายดายกว่า

แบรนด์นิสสันนั้นถือเป็นแบรนด์เก่าแก่อีกแบรนด์ในประเทศไทย ที่มีการลงทุนมหาศาลในประเทศนี้ โรงงานทั้ง 2 แห่งมีขีดความสามารถที่ยังไปต่อได้สบายในฐานะฐานการผลิตระดับโลก เอาเป็นว่าเราก็ได้แต่เอาใจช่วยให้พวกเขาแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ไวไว และกลับมาผงาดได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยสินค้าใดในเซกเมนต์ไหนก็ตาม

แต่ถ้างานนี้พลาด บอกเลยว่าเดิมพันของพวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างจากหลาย ๆ ค่ายที่พับกระเป๋ากลับบ้านไปนั่นล่ะนะ... มาลุ้นกันดีกว่าว่าจะหัวหรือก้อยกับการทุ่มหมดหน้าตักในครั้งนี้!!!

 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Pisan

หัวหน้าทีมบรรณาธิการ

Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่...

ขายรถเก่า-ซื้อคันใหม่ ไม่ยุ่งยาก ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Nissan Almera

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

รีวิว 2023 Nissan Almera VL ค่าตัว 6.99 แสนบาท หน้าใหม่ เพิ่มออพชั่น คุ้มค่าน่าใช้กว่าเดิม | AutoFun

รีวิว 2023 Nissan Almela ปรับหน้าใหม่ ใส่ออพชั่น เพิ่มความปลอดภัย น่าใช้งานกว่าเดิมไปอีก | AutoFun

พาน้องมาชม 3 อีโคคาร์อย่าง Yaris ATIV/Almera/City อยากรู้ว่า First Jobber คิดยังไง | AutoFun

รีวิว 2022 Nissan Almera สีพิเศษ หลังคาดำ แพงสุด 6.84 แสนบาท อัพออพชั่นน่าใช้ขึ้นไปอีกขั้น | AutoFun

เผย 5 เหตุผลสุดเร้าใจ ที่ทำให้ 2021 Nissan Almera VL Sportech เป็นรถที่คุ้มค่าเหนือใครในคลาสอีโคคาร์

ลองขับ 2022 Nissan Kicks อีกรอบ ใช้งานจริง วิ่งฉิว 20 กม./ลิตรในเมือง ทำได้จริงนะ | AutoFun

รีวิว 2021 Nissan Kicks รถไฟฟ้ามีเครื่อง น่าใช้ไหม แพงไปหรือเปล่า อี-พาวเวอร์เป็นยังไง มาหาคำตอบกัน

Nissan Kicks e-Power พร้อมโชว์สมรรถนะในทุกด้าน ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย

ทดลองขับ Nissan Kicks e-Power รถพลังไฟฟ้า ไม่ง้อที่ชาร์จ!

Nissan Kicks e-Power รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ไม่ต้องเสียชาร์จไฟ ทำได้อย่างไร...ไปชม

2021 Nissan Navara VL 1.129 ล้านบาท หน้าหล่อ เครื่องดีขึ้น ระบบแน่น พร้อมรบ Triton / Ranger / BT-50

Nissan Navara 4 ประตู S ราคา 599000 แต่งแล้วเหมือนคันละ ล้าน

รวมแนวทางการแต่ง Nissan Navara รถนอกกระแสแต่แต่งสวย

รีวิว 2021 Nissan Terra รุ่นท็อปขับสี่ 1.499 ล้านบาท อัพออพชั่น คุมราคาท้าชน MU-X และ Pajero Sport

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Nissan Almera
เช็คทันที