6 วิธีถนอมแบต EV ให้เสื่อมน้อยลง ที่มีอยู่ในคู่มือรถหลายรุ่นแล้ว แต่หลายคนไม่ค่อยเปิดอ่าน

Mr.Argus
Mr.Argus · 2023-03-06 08:13:57

การวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบ 6 วิธีที่เจ้าของ EV สามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในรถยนต์ สอดคล้องกับคำแนะนำการชาร์จที่พบในคู่มือติดรถจากผู้ผลิตอยู่แล้ว

  • งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย
  • มีอยู่ในคู่มือรถอยู่แล้ว
  • สรุป 6 วิธียืดอายุ

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย

การวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกน เกี่ยวกับวิธีที่เจ้าของ EV สามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในรถยนต์ ได้รับการเผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ใน Journal of Energy Storage โดยสรุปมี 6 วิธี ซึ่งการวิจัยนี้ได้รับการรับรองโดยพันธมิตรผู้รับผิดชอบแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นสมาคมของบริษัทผลิตภัณฑ์ใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น ฟอร์ดและฮอนด้า รวมถึงนักวิชาการ และองค์กรที่ต้องการจัดการแบตเตอรี่อย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อลดผลกระทบต่อวิถีชีวิตที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่มากขึ้นของเรา 

มีอยู่ในคู่มือติดรถแล้ว

วิธีการถนอมแบตต่าง ๆ นี้ ทีมงานวิจัยพบว่ามันมีคำแนะนำการชาร์จที่พบในคู่มือติดรถจากผู้ผลิตอยู่แล้ว ได้แก่ BMW, Chevrolet, Ford, Fiat, Honda, Hyundai, Kia, Mercedes-Benz, Nissan และ Tesla ซึ่งเจ้าของรถมักจะไม่ค่อยเปิดอ่าน หรืออ่านไม่ครบถ้วน ดังนั้นจึงมีบทความทำสรุปให้เข้าใจง่ายโดยแยกเป็นข้อ ๆ พร้อมเหตุผลของการใช้งาน

6 วิธีในการยืดอายุแบตเตอรี่ EV

1. เลี่ยงการชาร์จในอุณหภูมิสูงจัด ควรจอด EV ของคุณในที่ร่มเมื่อเสียบปลั๊กชาร์จไฟแบบด่วน เพื่อให้ระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่สามารถทำงานได้โดยไม่มีภาระรบกวนจากภายนอก 

2. ลดการใช้งานในอุณหภูมิต่ำเยือกแข็ง ในที่นี้หมายถึงแถบประเทศเมืองหนาวระดับหิมะตก แม้ว่าจะมีฮีตเตอร์ช่วยให้แบตเตอรี่อุ่นใจได้ แต่เมื่อความจุไฟฟ้าลดลงเหลือต่ำกว่า 10-15% แล้วถูกชาร์จหรือสตาร์ทใช้งานประจุไฟฟ้าขึ้นมา มันจะทำร้ายวัสดุในตัวแบตทีละเล็กทีละน้อย

3. ลดการชาร์จเต็ม 100% อยู่บ่อย ๆ แม้จะมีวงจรตัดไฟป้องกันการชาร์จเกิน แต่มันจะดีกว่าถ้าหากคุณจะใช้งานแบตอยู่ในระดับกลาง เช่น ใช้แบตลดลงในระดับ 30% แล้วชาร์จกลับเป็น 80% ดีกว่าการใช้แบตเตอรี่เหลือ 50% แล้วชาร์จกลับเต็มที่ 100% อยู่เสมอ นี่เป็นเรื่องของวินัยการชาร์จ เจ้าของรถที่เคร่งครัดจะทราบความต้องการในการขับขี่ประจำวันของตนเอง และปรับเวลาการชาร์จให้เหมาะสม โดยไม่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ทั้งคืนบ่อย ๆ

4. อย่าปล่อยให้แบตเหลือ 0% ก่อนการชาร์จ ในรถยนต์ไฟฟ้าแทบทุกรุ่น จะมีการตัดระบบใช้งานไฟฟ้าก่อนแบตตกลงเหลือ 0% อยู่แล้ว หรือแม้แต่เหลือเพียง 1-2% ก่อนชาร์จก็ไม่สมควรทำ เพราะเมื่อทำการชาร์จใหม่จากแบตที่เกลี้ยง มันจะทำร้ายขั้วแบตภายในอย่างมาก

5. หลีกเลี่ยงการใช้การชาร์จแบบเร็ว ผู้ผลิตรถยนต์ทราบดีว่าจุดขายสำคัญอย่างหนึ่งในการโฆษณา EV คือ ความสามารถในการชาร์จได้เร็วพอ ๆ กับเติมน้ำมัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าเตือนเรื่องการชาร์จ DC แรงดันสูงลงในโฆษณา การชาร์จไวนี้อาจจะอนุโลมให้ใช้ได้เมื่อเดินทางไกลไม่บ่อยนัก หรือชาร์จไวเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น แต่อย่าชาร์จไวอยู่ประจำจนติดเป็นนิสัย

6. หลีกเลี่ยงการคายประจุเร็วเกินความจำเป็น พูดง่าย ๆ คือ อย่าเร่งรุนแรง หรือเพิ่มโหลดไฟฟ้าอย่างฉับพลัน แม้ว่ารถหลายรุ่นจะมีโหมดขับเร็ว หรือช่วยออกตัวอย่างรวดเร็ว มันแค่เปิดโอกาสให้สามารถใช้งานได้บ้าง แต่ไม่ควรใช้ขับขี่แบบนี้เป็นกิจวัตรประจำวัน 

อ่านเพิ่มเติม : เผยค่าเปลี่ยนแบต Tesla Model S และ Model 3 ราคาเท่ากับ Almera ป้ายแดง 1 คันในสหรัฐอเมริกา

สรุปแล้ว การใช้ EV อย่างถนอมแบตเตอรี่ คือการชาร์จในอุณหภูมิไม่หนาวเยือกแข็ง และไม่ร้อนแดดเผา พยายามไม่ชาร์จแช้ไว้นาน ไม่ปล่อยแบตจนหมด ไม่รีดพลังแรง ไม่ชาร์จไวจนเป็นนิสัย และใช้งานความจุแบตในระดับกลาง ๆ ไม่ใช่ใช้ไปแค่นิดเดียวจน 100% แล้วกลับมาชาร์จไฟเพิ่มอีกจนเต็มอยู่ตลอด

ส่วนใครที่กำลังทำตรงข้ามกับคู่มือแนะนำ ก็ไม่ได้หมายความว่าแบต EV ของคุณจะพังภายใน 2-3 ปีแรกนี้ แต่มันแค่มีสภาพโทรมหนักกว่า เมื่อเทียบกับรถคันอื่นที่ทำตามคู่มือถนอมแบตเท่านั้นเอง

อ่านเพิ่มเติม : แบต Tesla มีอายุกี่ปี เผยข้อมูลจากเจ้าของรถใช้ไป 10 ปียังได้ 90% แต่ค่าเปลี่ยนโหดเอาเรื่อง

Mr.Argus

Mr.Argus นักเขียน

คุณกัส ผู้จำชื่อรถได้หมดตั้งแต่เด็ก ขับรถเป็นตั้งแต่มัธยม ซ่อมรถใช้เองตอนปริญญาตรี สะสมรถคลาสสิคและรถหายาก ทำงานเรื่องรถมานาน 5 ปี ผ่านการอบรมขับขี่ปลอดภัยจาก Sach มีรถทดสอบผ่านมือมาตั้งแต่รถกระบะ รถเก๋ง จนถึงรถสปอร์ต งานอดิเรกก็แค่ซ่อมรถสะสมที่มีอยู่ ติดตามชีวิตคนบ้ารถได้ที่กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/97434297973776

Toyota
Honda
Nissan
Mitsubishi
Mazda
Suzuki
Isuzu
Ford
Mercedes-Benz
BMW
Aston Martin
Audi