Review: Suzuki Swift GL Max ถึงจะเป็นล้อกระทะ แต่ชนะใจด้วยชุดแต่ง 5,000 บาท

2020 Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เปิดตัวตั้งแต่ต้นปี 2018 ปัจจุบันก็ขายมา 2 ปีแล้ว โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนหน้าตาเลย มีเพียงรุ่นแต่งพิเศษ GL sport ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2019 จากนั้นในปัจจุบันปี 2020 ก็ผลัดใบจาก GL Sport กลายเป็น GL Max โดยยังคงหลักการเดิมนั่นคือ เอารุ่นล่างมาใส่พาร์ทเสริม แต่คราวนี้เติมเต็มกว่าคอแล็คชั่นปีที่แล้วไปอีกด้วย

เนื่องจากทางผู้เขียนเคยขับรถซูซูกิ สวิฟท์รุ่นท็อปสุดมาก่อนแล้ว ตอนแรกจึงคาดหวังว่าการลงมาขับรุ่นล่าง ก็ให้ฟิลลิ่งเหมือนกันแหละ แต่จากเดิมเคยขับรถที่ใส่ล้อแม็กซ์ขอบ 16 แล้วลงมาขับรถรุ่นเดียวกันใส่ล้อกระทะขอบ 15 ด้วยยางแก้มสูงกับล้อเหล็กที่หนักขึ้น ตามทฤษฎีแล้วมันต้องให้การทรงตัวห่วยกว่า ทุกคนรู้ เด็กม.ปลายที่อ่านสเปคออกก็ยังรู้ แต่จะขอลองของจริงกันแบบสิบปากว่าไม่เท่าขับจริง

เอารุ่นล่างมาใส่พาร์ท 2020 Suzuki Swift GL Max Edition

2020 Suzuki Swift GL Max Edition นับเป็นคอเลคชั่นชุดแต่งของสวิฟท์ประจำปีนี้ แต่ไม่ได้มีมาให้ในทุกรุ่นย่อย แค่มีเฉพาะรุ่น GL ซึ่งเป็นรุ่นรองโหล่ ตัวเกือบถูกสุด ที่ยังใช้ล้อกระทะพร้อมฝาครอบอยู่เลย ราคาขายแบบเดิม ๆ อยู่ที่ 536,000 บาท เมื่อปีที่แล้วก็ถูกนำมาใส่ชุดแต่งเพิ่มราคาอีก 5,000 บาท พอมาในปีนี้ก็ใช้มุกเดิม จับรุ่นรองโหล่มาใส่พาร์ทแต่งรอบคัน คงล้อกระทะไว้ แล้วเพิ่มราคาขึ้นเท่าเดิม กลายเป็น 541,000 บาท แต่เพิ่มเติมความคุ้มค่าด้วยของหลายชิ้นมากขึ้น

ชุดแต่งรอบคัน 2020 Suzuki Swift GL Max Edition

ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นแต่งพิเศษนี้ เพิ่มสเกิร์ตพลาสติกสีดำด้าน โดยด้านหน้าเล่นลวดลายนูนต่ำเป็นช่องรังผึ้ง ส่วนด้านหลังเล่นลวดลายรังผึ้งแบบเดียวกัน และเพิ่มขอบวงสีโครเมียม หลอกตาว่าเป็นปลายท่อไอเสีย แต่จริงๆแล้วทึบตัน นอกจากนี้ยังมีชุดคิ้วซุ้มล้อมาใหม่ (รุ่นแต่งปี 2019 ไม่มีแบบนี้) เป็นวัสดุพลาสติกสีดำด้านเช่นเดียวกัน มีขนาดใหญ่และหนา ยื่นออกมานอกตัวถังเล็กน้อย โดยมีเส้นสันนูนรับกับทรงสเกิร์ตล่าง อย่างต่อเนื่องกัน 

สปอยเลอร์หลัง และเสาอากาศ 2020 Suzuki Swift GL Max Edition

รุ่นมาตรฐานเดิม GL ไม่มีสปอยเลอร์หลัง และมีเสาอากาศเป็นทรงแท่งสูง แต่สำหรับรุ่นแต่งพิเศษ GL Max Edition ถูกเปลี่ยนใหม่เป็นเสาอากาศแบบครีบฉลาม ที่สั้นลงและลู่ลมขึ้น กับเพิ่มสปอยหลังที่เป็นพลาสติกสีดำด้าน โดยสปอยเลอร์ฝาท้ายนี้มีทรงต่างจากรุ่นแต่งปีที่แล้ว มีความบางและสั้นกว่าเดิม ตามเทรนด์การออกแบบยุคใหม่ ที่ไม่เยอะแต่สวย

สติกเกอร์ลายพิเศษ 2020 Suzuki Swift GL Max Edition

แต่งรถวัยรุ่นทั้งที จะขาดสติ๊กเกอร์ได้ยังไง 2020 Suzuki Swift GL Max Edition ได้เพิ่มสติ๊กเกอร์ติดตัวถังลายใหม่ เป็นเส้นกราฟิคสีเทากับสีแดง เป็นเส้นโค้งไปตามสันนูน เริ่มตั้งแต่ขอบฝากระโปรงหน้า สันประตูข้าง จนไปถึงฝากระโปรงหลัง พร้อมด้วยสติ๊กเกอร์ตัวหนังสือชื่อรุ่น MAX Edition แปะติดอยู่บนขอบล่างของประตูด้านหน้า ซึ่งให้ชิ้นสติ๊กเกอร์มากกว่ารุ่นแต่งในปีที่แล้ว

เข้าไปนั่งแล้วเหมือนเดิม

ภายนอกอย่างเปรี้ยว แต่ภายในยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่น GL ธรรมดา ซึ่งไม่ต้องบรรยายว่ามีออพชั่นอะไรบ้าง เพราะหาอ่านสเปคได้ในโบรชัวร์อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ประทับใจก็คือ การเก็บเสียงในความเร็วต่ำ ก็ยังเหมือนรุ่นท็อป GLX ทั้งที่รถราคาถูกกว่า กลับไม่ได้ลดต้นทุนในส่วนนี้

ลองขับในสนามจริงด้วยล้อกระทะ

การลองขับครั้งนี้ ไม่ได้ทดสอบความลู่ลมของสเกิร์ตและสปอยเลอร์กันหรอกนะครับ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ นี่เป็นโอกาสดี ที่จะได้ขยี้รถล้อกระทะ ให้ไปยัดในโค้งแคบๆ นับว่าไม่ได้มีมาให้ทดสอบกันบ่อย ๆ เพราะรถลองขับนั้นมักจะเป็นรุ่นท็อปใส่ล้อแม็กซ์ ที่มีหน้ากว้างและแก้มเตี้ยกว่า ทำให้ผลลัพธ์การขับสนุกออกมาสวยหรูดูดี แต่คราวนี้เป็นรถล้อกระทะ หน้าแคบแก้มสูง แต่มาลองยัดโค้งดูบ้าง จะหลุดโค้งกันมั้ย

ลองเข้าโค้งแบบสถานการณ์จริง

สนามทดสอบนี้ จำลองทุกโค้งที่จะต้องเจอในชีวิตจริง รวมมิตรมาไว้ให้เป็นลู่วิ่งในสไตล์จิมคาน่า โดยมีโค้งตั้งแต่องศากว้าง แบบที่เจอกันในสะพานกลับรถ ในท่อนนี้สามารถเข้าได้เลยที่ความเร็ว 60-70 กม./ชม. แล้วแต่ความใจถึงว่าเราจะกล้าฝ่าเสียงร้องเอี๊อดอ้าดไปสุดตรงไหน โดยเส้นทางการขับที่เราเล็งไว้ด้วยตาว่าจะพารถไปกินหัวโค้ง (Apex) ด้วยความเร็ว 60 ก่อนกดคันเร่งส่ง ให้รถบานออกไปแตะขอบแทร็ค ก็สามารถทำได้สบาย 

ยัดโค้งยูเทิร์นยังไหว 2020 Suzuki Swift GL Max Edition

เมื่อขับผ่านโค้งองศากว้าง ก็จะเจอกับทางเลี้ยวแบบหักกลับเกือบ 180 องศา เพื่อจำลองการเลี้ยวกลับรถ ซึ่งเราแตะเบรคจาก 60 เหลือ 30 กม./ชม. แล้วยัดโค้งเข้าไปอย่างไม่ต้องถนอมดอกยางใด ๆ พบว่าหน้ารถยุบไปเยอะจนรู้สึกถึงท้ายยกเยอะตามกฎของแรง แถมยางแก้มสูง ก็บิดตัวล้มครืน จากเสียงดอกยางร้อง กลายเป็นเสียงครืนของแก้มยางไปถูถนน จนเกิดอาการอันเดอร์สเตรียนิด ๆ แต่เมื่อเราแค่เรายกคันเร่งแล้ว รถก็สามารถกู้สมดุลย์ของรถกลับมาตั้งตรงได้ง่าย จนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หักหลบกะทันหัน ยังไปได้อีกเยอะ

ด่านนี้เป็นการทดลองหักหลบสิ่งกีดขวางกะทันหัน แต่ด้วยเป็นการทดสอบการขับ ไม่ใช่การทดสอบการคว่ำ ดังนั้นจึงถูกจัดวางรูปสนามให้ทำความเร็วได้น้อย อยู่ที่ไม่เกิน 20 กม./ชม. แล้วหักหลบกรวยในระยะประชิดต่อเนื่องกันในองศาแคบ คิดภาพเหมือนตอนเราขับรถอยู่ในเลนตัวเองดี ๆ แล้วดันมีรถโผล่หัวออกมาจากซอยตัดหน้า การที่เราต้องหักหลบกระชั้นชิดขนาดนี้ ถ้าไม่ได้รถที่มีพวงมาลัยเบาจะทำได้ยากมาก หรือทำได้แต่ออกแรงเยอะ คนขับจะเหนื่อยและไม่สนุก แต่กับสวิฟท์ 2020 รุ่นนี้ พวงมาลัยนี้เบาจนเราสามารถควงแค่ 2 รอบไปกลับก็สามารถพารถพ้นกรวยไปได้ง่าย ซึ่งการไม่ต้องออกแรงสาวพวงมาลัยหนัก ๆ นี้ทำให้เรารู้สึกสนุกที่ได้ควงพวงมาลัยคุมรถ 

สิ่งที่อยากได้เพิ่ม 2020 Suzuki Swift GL Max Edition

ไม่ใช่ชุดแต่งหรือสติ๊กเกอร์ที่เราอยากให้เพิ่ม แต่เป็นคันเร่งไฟฟ้า ที่มันยืดย้วย ขาดความกะตือรือร้นที่จะทำรถพุ่งตามน้ำหนักเท้าของเรา แม้แต่สับเกียร์ไปโหมด L แล้วก็ตาม ก็ยังมีอาการคิดก่อนพุ่งให้รู้สึกได้ คิดว่ามันน่าจะมีทางจูนกล่องคันเร่งให้ติดเท้ากว่านี้ โดยที่ล้อไม่ฟรีทิ้งตอนออกตัว

ถึงยางร้อง แต่น้องยังไหว 2020 Suzuki Swift GL Max Edition

น้องสวิฟต์รุ่น GL นี้รับมือได้ในทุกโค้ง จนลืมไปเลยว่าใช้ล้อกระทะ แต่ในชีวิตจริง หลายคนอาจจะขับไม่ได้ถึงขนาดนี้ เพราะเมื่อได้ยินเสียงยางร้อง ก็พากันถอนคันเร่งไปกลางคันกันหมด ไม่รอให้แก้มยางล้มครูดพื้นถนนแบบนี้กัน หรือพูดง่าย ๆ คือ ผู้เขียนทดสอบเกินเบอร์จากที่คนทั่วไปใช้ เพื่อให้รู้ว่าลิมิตของยางและล้อกระทะแบบนี้ มันก็รับไหว แต่ผู้ใช้ไม่ควรทำ

เมื่อทดลองขับมาแล้ว ผู้เขียนสามารถคุยเกทับพวกอ่านสเปคได้เลยว่า ยางแก้มสูง กับล้อเหล็ก มีผลต่างกับล้อแม็กซ์รุ่นท็อปจริง ซึ่งเป็นความแตกต่างที่อยู่ในการควบคุมได้ในวิธีการขับแบบมนุษย์ทั่วไป ส่วนใครซื้อรุ่นนี้แล้วมีวิธีการขับได้โหดจัดอย่างที่ทดสอบแบบนี้จริง ๆ ก็แนะนำให้ไปเปลี่ยนเป็นล้อแม็กซ์เบา กับยางดอกเหนียวสักชุด ดังนั้น 2020 Suzuki Swift GL Max (ซูซูกิ สวิฟท์) จะเหมาะกับคนชอบซิ่ง ไม่สนความหรู ไม่สนของเล่นไฮเทค จะเอามาแต่งต่ออยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นแพง ๆ แล้วเอาไปเทิร์นล้อ 16 นิ้วออกไป มาซื้อรุ่นล่างกว่าแทน เพิ่มแค่ 5,000 เป็นค่าจัดทรงให้ดูซิ่งจากโรงงาน ถือว่าคุ้มค่า น่าจะขายดีตรงกลุ่มเป้าหมายเขาล่ะครับ