Owner Review:มาฟังว่าคนที่ขับรถมาเกือบ 30 ปีทำไมถึงเลือก Toyota Corolla Cross Hybrid Safety

**บทความนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าของ 2020 Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety และไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงมุมมองของ AutoFun

ผู้ใช้รถจริง:ขับไปเรื่อย 

2020 Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety (2020 โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) เป็นรถอีกคันที่ตัดสินใจซื้อหลังจากเห็นหน้าค่าตาทางสื่อโซเชียล โดยที่ไม่ต้องเห็นตัวจริง ลองนั่ง ลองขับ ให้ยุ่งยาก เหตุผลง่าย ๆ อยากลองเครื่องไฮบริดมานานแล้ว ลังเลมานานตั้งแต่ ไบบริด เจนสาม จนมาเจนสี่นี่ค่อนข้างจะมั่นใจแล้ว ส่วนทำไมต้องเป็นครอส ไว้จะเล่าให้ฟังภายหลังในหัวข้อ การทดลองขับกับระบบใหม่ ๆ 

หลังจากเห็นหน้าค่าตาผ่านทางสื่อโซเชียล ประกอบกับมีศูนย์และเซลส์ที่รู้จักกันมานาน ซื้อกับเค้าก็หลายคัน คันนี้เป็นคันที่ห้า  ก็เห็นว่าบริการดี ยอมรับตรง ๆ ว่า ไม่ได้สนใจเรื่องส่วนลดมของแถมเท่าไหร่ อยากลดเท่าไหร่ อยากให้อะไร ก็ว่ามา ไม่มีเวลาไปหาศูนย์อื่นมาเปรียบเทียบ ก็ไลน์ไปถามและโอนเงินไปจองเรียบร้อย

หลังจากนั้น น้องเค้าก็ประสานงานกับไฟแนนซ์ (เนื่องจากผู้ขายคือ ศูนย์ในกรุงเทพ แถว  พระรามสอง แต่ผู้ซื้อ ซื้อมาตั้งแต่ยังอยู่ในกรุงเทพ จนปัจจุบันย้ายมาอยู่โคราช สี่ห้าปีแล้ว) นัดกับไฟแนนซ์ก็คือ โตโยต้าลิสซิ่ง สาขา นครราชสีมา มาเซ็นต์ถึงที่ ส่วนลดที่ได้ กลายเป็นส่วนลดดอกเบี้ย ที่เค้าว่า เป็นลูกค้าเก่า ได้มาที่ 1.49% โดยใช้เงื่อนไข ดาวน์ 20 เข้าไฟแนนซ์ 80 ผ่อน 48 งวด ส่วนของแถม ก็เป็นพวกประกัน, ฟิลม์ Lamina, กล้องหน้ารถ Toyota, แผ่นรองพื้นท้ายรถ,กรอบป้ายทะเบียน,น้ำมันตอนออกรถ 500 บาท 

สรุปว่า โอนเงินจองไป 29 ก.ค.63 นัดรับรถ 30 ส.ค.63 ตีคร่าว ๆ ว่าหนึ่งเดือน ส่วนตัวก็คิดว่า ไม่ช้าไม่เร็วไป สำหรับรถฮ๊อต ๆ รุ่นนี้ 

เหตุผลในการซื้อ

ทำไม่ต้องเป็น Cross Hybrid premium safety อย่างที่เล่าไปตอนแรก สิ่งแรกคืออยากลองระบบใช้ Hybrid มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยน้ำมันลิตรละ 30 กว่าบาท จนมาถึงปัจจุบัน (ก.ย.2563) แก๊สโซฮอลล์ E20 ราคาอยู่ประมาณ 20 นิดหน่อย เคยใช้ Camry 2.5G (2012) ตอนนั้นก็ลังเลอยู่ว่า จะเอาเครื่องเบนซินหรือไฮบริด สุดท้ายก็เลือกเบนซิน ทั้งที่มารู้ภายหลังว่า ไฮบริดเวอร์ชั่นนี้ ก็ขายดิบขายดีเหลือเกิน จนตั้งใจว่า คันหน้าของพี่โตนี้ จะต้องเป็นไฮบริดแน่ ๆ แต่แล้ว เมื่อ Camry ออกรุ่นปัจจุบันมา ก็ตั้งใจว่า จะไปถอยไฮบริดแน่ ๆ แต่ปรากฏว่า ดวงเราจะไม่เข้ากับไฮบริดอีก เพราะว่า แม่บ้านเริ่มเบื่อรถซีดาน อยากได้รถแนวครอบครัวมากขึ้น ประกอบกับระยะหลังเรื่องราคาน้ำมัน ไม่ใช่ประเด็นที่จะเอามาพิจารณนาในการซื้อรถมากเหมือนเดิม หวยเลยไปออกที่ Innova Crysta 2.8V ดีเซลแทน อดขับไฮบริดอีกตามเคย 

อีกจุดที่ตัดสินใจซื้อทันทีคือ Adaptive cruise control กับ Moonroof 

สักสองสามปีมานี้ เริ่มได้ยินคำว่า Adaptive cruise control พอจะเข้าใจคร่าว ๆ ว่า เป็นระบบอัตราความเร็วคงที่อัตโนมัติ แต่มันแปรผันไปตามรถคันหน้า กล่าวคือ ตนเองนั้น เป็นคนใช้ cruise control มาสิบกว่าปีแล้ว เนื่องจากต้องขับรถ ไปกลับ กทม.โคราช ทุกสุดสัปดาห์มาร่วมยี่สิบปี ประกอบกับ หลังๆ มีการจำกัดความเร็วโดยการใช้กล้องถ่าย แล้วส่งใบสั่งมาที่บ้าน จึงเห็นว่า cruise control เป็นเรื่องจำเป็นในการขับรถไปเลย เพราะสามารถคงความเร็วที่ต้องการ โดยไม่ต้องกลัวว่า เท้าจะเพลินเหยียบคันเร่งจนเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดไว้ แต่ก็ยังขัดใจที่ว่า บางครั้ง พอมีรถคันหน้าชะลอความเร็ว หรือรถบรรทุกปาดขวาออกมา เราก็ต้องลดความเร็ว หรือ ยกเลิกระบบ cruise control จนเคยคิดเล่น ๆ ว่า น่าจะมีใครซักคนคิดระบบให้มันชะลอหรือเร่งความเร็วตามรถคันหน้าได้นะ แล้วในที่สุดความคิดก็เป็นจริง เมื่อมีคนคิดระบบนี้ขึ้นมา

เมื่อปีที่แล้ว มีโอกาสไปเช่ารถขับที่ประเทศเยอรมัน บนออโต้บาห์นอันลือลั่น แล้วเป็นการขับยาว ๆ ห้าวัน 1,200 กม.เหนือจรดใต้ แล้วให้บังเอิญอีกว่า รถที่เช่านั้น มันดันมีระบบนี้ เลยยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า รถคันต่อไปนั้น จะต้องเป็นไฮบริด และมีระบบ Adaptive cruise control มาให้อีก คราวนี้ ก็สนุกกันเลย ขับกันบนออโต้บาห์น ความเร็วพื้น ๆ คือ 120 พอจะแซงใครเค้าได้ อย่างน้อยต้องมี 150 ขึ้นไป ไม่งั้นแซงไม่พ้น แล้วถนนราบ ๆ ยาว ๆ โค้งกว้าง ๆ ขับในอุโมงค์ยาว ๆ เป็นสิบกิโล การได้ใช้ Adaptive cruise control มันช่างเป็นความสะดวกอย่างมากมาย เลยยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า รถคันต่อไปนั้น จะต้องเป็น Hybrid และมีระบบ Adaptive cruise control อย่างเป็นแน่แท้

พอมีสองโจทย์นี้ ก็เริ่มมองรถที่เป็นระบบนี้เป็นหลัก ตัวต้น ๆ ก็คงหนีไม่พ้น Forrester รุ่นท้อปตัวที่มี Eye sight แล้วก็ยังวกมาแถว ๆ Camry Hybrid ตัวท้อป อยู่เหมือนเคย จนวันหนึ่ง มาอ่านเจอในสื่อโซเชียลว่า โตโยต้า ออกรถรุ่นใหม่ เป็นสไตล์ SUV หรือ Cross country ที่มีระบบไฮบริด และระบบ Safety ชั้นสูง ที่ครอบคลุมไปถึง Adaptive cruise control แถมยังมี Moonroof มาให้อีกต่างหาก ว่าด้วยเรื่อง Moonroof นี้ มีความทรงจำดี ๆ กับ Teana L33 2.5XV (2014) ตอนนั้น ที่ตัดสินใจซื้อมาก็เพราะระบบกล้อง 360 องศา, มีระบบเตือนออกนอกเลน, แล้วก็ได้ Moonroof มาเป็นของแถมอีก ปรากฏว่า ตัว Moonroof นี้ แม้ใช้รถมาแล้ว 6 ปี คิดว่า เคยเปิดรับลมไม่ถึงสิบครั้ง แต่ว่า เปิดดูแสงยามเช้า, ยามเย็น, ดูฟ้าตอนกลางคืน นี่เปิดทุกวัน มันให้บรรยากาศที่แตกต่าง จากรถที่ไม่มี Moonroof อย่างเห็นได้ชัด 

พอเจอตัวเลือกที่มีมาให้สามตัวรวมกันแบบนี้ จึงไม่ต้องพิจารณาอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว เห็นภาพในเน็ตปุ๊ป โทรหาเซลส์ปั๊ป จองรถไปโดยไม่ต้องไปลองนั่ง หรือเห็นตัวจริงแต่ประการใด 

วันรับรถกับความรู้สึกในการขับขี่

หลังจากรอรถประมาณหนึ่งเดือน ก็ใช้เวลาดูรีวิว จาก youtube บ้าง อ่านเอาจะคลับต่าง ๆ ใน facebook บ้าง เห็นว่า ส่วนใหญที่จะติกันเรื่องแรก ๆ คือ เรื่องเสียง สองเรื่องน้ำเข้าห้องเครื่อง แต่พอมาถึงวันรับรถจริงๆ ประกอบกับโชคดีที่ว่า รับรถเสร็จ มีเหตุต้องไปทำงานที่ จ.อุบล พอดี เลยทำให้ มีโอกาสได้ใช้รถยาว ๆ กทม.อุบล ซะเลยคราวนี้ ก็พอจะบอกถึงสิ่งต่าง ๆ หลังจากได้ขับครั้งแรก ยาว ๆ ประมาณ 1,500 กม. ได้ประมาณนี้

ข้อดี

ข้อดีก่อน สิ่งแรกที่ยอมรับว่า ดีกว่าที่คิดไว้คือ ความนุ่มนวลกับความเงียบของห้องโดยสาร เดิมเคยมีประสบการณ์กับรถ SUV คันแรกคือ CRV gen3 (2008) ตอนนั้นยอมรับว่า เป็นรถที่ไม่นุ่มนวลเอาซะเลย แถมเสียงยังดังเข้าห้องโดยสารอีก ตอนนั้น CRV เป็นรถแม่บ้าน แต่ตนเองนั้นใช้ MU7(2009) ยังรู้สึกว่า เจ้า MU7 นั่น นุ่มกับเงียบมากกว่า แต่มันมาดังเพราะเสียงเครื่องดีเซลเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม รถ SUV ย่อมมีสิ่งดีในตัวมันเองมากกว่าซีดานคือ รถสูงกว่า กว้างใหญ่กว่า มีความจุสัมภาระมากกว่า ซี่งหากดูข้อนี้ ก็พอจะเอามาชดเชยกับความไม่นุ่มและความไม่เก็บเสียงของมันก็ได้ แต่พอมาเจอในครอส ยอมรับว่า ข้อนี้ ทำได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก ถัดจากเรื่องนี้ ก็คงเป็นระบบ Handing, เบรค  รู้สึกทำได้ดีกว่าที่คิดไว้เช่นกัน และแน่นอน สิ่งที่ตั้งใจซื้อมาตั้งแต่แรก ก็คือ ระบบไฮบริด กับ ระบบความปลอดภัยทั้งหลาย มาเริ่มที่ระบบไฮบริดก่อน

สิ่งแรกที่จะมองข้ามไม่ได้เลยคือ เรื่องน้ำมัน หลังจากที่หน้าจอบอกว่า อัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 18.5-20 km./L บ้าง แต่ที่รู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดคือเงินที่จ่ายออกจากกระเป๋าไปกับค่าน้ำมัน เพราะคราวนี้ เติมน้ำมันครั้งหนึ่ง จ่ายไป 550-600 บาท แล้ววิ่งได้ประมาณ 500-600 กม. นั่นหมายความว่า อารมณ์ที่จ่ายค่าน้ำมัน กิโลละบาท ได้กลับมาแล้ว หลังจากที่ไม่ได้เจอกับอารมณ์นี้มากว่า 20 ปี ตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ ใช้รถ Corona Exior 1.6 (1997) ตอนนั้น ถ้าจำไม่ผิด น้ำมันไร้สารตะกั่ว น่าจะลิตรละ 10 บาทบวกลบ  กับสิ่งที่สอง ระบบความปลอดภัยทั้งหลาย 

อันแรกเลยคือ ระบบป้องกันการออกนอกเลน ด้วยการหน่วงน้ำหนักกับบิดพวงมาลัยเล็กน้อย พร้อมกับเสียงเตือน ปี๊ป ๆ ๆ อันนี้ แรก ๆ ก็ว้าว บวกรำคาญ แต่ใช้เวลาไม่นาน ก็ปรับตัวเข้ากันได้อย่างง่ายดาย คือ เปิดไฟเลี้ยว หรือไม่หากเจอถนนเล็ก ๆ ที่มันคดเคี้ยว ก็ปิดระบบมันซะเลย เพราะเค้าออกแบบมาให้เปิดปิดได้ง่าย ๆ ด้วยนนิ้วโป้งด้านขวาบนพวงมาลัย

แต่ที่มาว้าวสุด ๆ ก็คงหนีไม่พ้น ระบบ Adaptive cruise control ที่ทำงานร่วมกันกับ LTA ระบบประคองให้รถอยู่กลางเลน อันนี้ ขอบอกว่าใช้งานได้จริง และมีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับถนนดี ๆ ใหม่ ๆ เรียบ ๆ ยาว ๆ เช่น จากสุรินทร์ –ศรีสะเกษ- อุบล นั้น หากเราไม่อยากฝ่าฝืนกฏหมาย ก็กำหนดความเร็วไว้ที่ 120 (แต่ก็ยังโดนจับ ปรับไปสามร้อย เพราะคุณตำรวจท่านใจดีแนะนำว่า จริง ๆ เค้า อลุ่มอล่วยให้ประมาณ 110) เปิดระบบ LTA ทำงานร่วมด้วย อยากบอกว่า มันเป็นความสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การขับรถยาว ๆ ห้าหกชั่วโมง ระบบนี้ช่วยได้เยอะ เห็นผลจริงๆ 

ข้อเสีย

ส่วนข้อเสีย ขอบอกในมุมมองส่วนตัว ที่ก่อนจะมาขับครอสคันนี้นั้น เดิมใช้รถหลัก ๆ อยู่สองคันคือ Teana L33 2.5xv กับ Innova Crysta 2.8 V เป็นหลัก แน่นอน ข้อแรก ความเล็ก,แคบ ยิ่งห้องผู้โดยสารด้านหลัง ช่องวางเท้าเหลืออยู่หน่อยเดียว แต่สำหรับคนที่มาจากรถที่เล็กกว่า คงจะผ่านข้อนี้ไปได้ เช่นวันไปอุบลนั้น ไปกับลุกชาย ซึ่งเค้าใช้ Yaris (2018) มาตั้งแต่เรียนมหาลัย ขานั้น มาเจอครอส ก็บอกว่า กว้างขวางสบายกว่ารถตัวเองเยอะ ต่อมาก็เรื่องการทรงตัว อันนี้ รู้สึกว่า ไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ โค้งแคบ กับความเร็วสูงหน่อย รู้สึกจะหวิว ๆ วูบ ๆ เหมือนกัน สุดท้ายก็อัตราเร่ง แน่นอน หากเทียบกับรถประจำที่ใช้ก่อนหน้านี้ มันคงเทียบกันไม่ได้กับพละกำลังของสองคันดังกล่าว โดยเฉพาะเครื่องดีเซล 2.8 ใน Innova ที่พี่โตเค้าเอาไปใส่ไว้ตั้งแต่ Revo, fortuner, ยัน Commuter ที่วิ่งสนั่นยังกับ fast8 fast9  แต่ถ้าไปเทียบรถเล็กว่า เช่น Yaris, Vios อันนี้ คงต้องรู้สึกดีกว่า แน่ ๆ ส่วนที่เค้าว่า เสียงเครื่องดังนั้น มันก็ดังจริงแหละ แต่ไม่ได้ถึงกับมีผลในการขับขี่ประจำวัน ยิ่งถ้าได้ขับแบบสัมพันธ์กับมอเตอร์ หรือรอบเครื่องแล้ว กลับรู้สึกว่า มันเงียบดีเสียด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องน้ำฝนเข้าเครื่อง อันนี้ ก็ไม่เคยคิดว่าจะเดือดร้อน เพรายอมรับจริงๆ ว่า ตั้งแต่ขับรถมา สามสิบกว่าปี ใช้รถมาสามสิบกว่าคัน ก็ไม่เคยได้สนใจไปเปิดดูฝากระโปรงหน้ารถเท่าไหร่นัก เพราะเปิดทีไร อารมณ์ที่เห็นก็คือ ต้องสกปรกแน่ ก็แน่ล่ะ มันคือห้องเครื่องนี่นา เพียงแต่ว่า รถที่ใช้มา ในระยะสิบกว่าปีให้หลังนี้ เข้าศูนย์เช็คระยะตลอด ยิ่งเดี๋ยวนี้ บางศูนย์ก็มีเสนอราคาทำความสะอาดห้องเครื่องให้อีก ก็เลยใช้เงินแก้ปัญหาเรื่องนี้ไป ไม่ได้มองเป็นเรื่องใหญ่ 

สรุป 

Cross Hybrid premium safety เป็นรถที่ไม่ผิดหวังในการซื้อครั้งนี้ ข้อเสียนั้น เป็นเรื่องที่ไม่คิดว่าใหญ่ หรือเสียหายอะไร สิ่งที่คาดไว้กับรถคัน ได้มาหมด สมหวัง ส่วนที่ผิดคาดไปหน่อย กับไม่เป็นไรมาก รับกันได้ หวังว่าข้อเขียนจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน และในขณะเดียว ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้า หากข้อเขียนนี้ อาจไม่ตรงใจ หรือให้ข้อมูลไม่เหมือนกับท่านอื่นไว้ด้วยครับ

 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:

เราและรถเรา. คอลัมน์นี้เผยแพร่เรื่องราวสำหรับแฟน ๆ AutoFunเรา ทุกอย่างที่กล่าวถึงเป็นเรื่องจริงของเจ้าของรถ คุณสนใจมาแบ่งปันเ...

ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Toyota Corolla Cross

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

รีวิว MY2022 Mazda CX-30 ใครว่าสู้ Corolla Cross - HR-V ไม่ได้ 1.199 ล. เทคโนโลยีมาเต็มคัน | AutoFun

รีวิว Honda HR-V RS เทียบ Toyota Corolla Cross GR Sport ครบครันหรือขับสนุก จะเลือกคันไหนดี | AutoFun

Review Toyota Corolla Cross GR Sport เด่นที่ช่วงล่าง ออพชั่นคงเดิม คุ้มค่า 1.249 ล้านบาท | AutoFun

ชีวิตติดDRIVE[EP.6] Toyota Corolla Cross อย่าคิดว่าอืด..ถ้ายังไม่ได้ลอง

ทดลองขับ Toyota Corolla CROSS ค่าตัวเริ่มต้นแค่ 9xx,xxx !!

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Toyota Corolla Cross
เช็คทันที