ในงาน งานแสดงอุตสาหกรรมด้านพลังงานทดแทนและยานยนต์ไฟฟ้า ASEAN Sustainable Energy Week 2020 ที่ไบเทคบางนา ได้มีการจัดกิจกรรม Ride & Drive นำรถยนต์ไฟฟ้าที่มีวางจำหน่ายมาให้ลงทะเบียนทดลองขับกันได้ฟรีๆ วันนี้เอง ทางกระผมเห็นเป็นโอกาสดี บวกกับความอยากลองของเล็กน้อย จึงได้เลือกตัวแรงอย่าง Porsche Taycan ซึ่งนำตัวต้น 4S มาแสดง มาลองขับรีวิวเล็กๆให้ทุกคนได้ดูกัน
Porsche Taycan | |
---|---|
รุ่น | ราคา |
4S | 7,100,000 |
Turbo | 9,900,000 |
Turbo S | 11,700,000 |
วันนี้เราได้ลอง ปอร์เช่ ไทคานน์ 4 เอส ที่ติดตั้งชุด Performance Battery ให้พละกำลังสูงสุด 530 แรงม้า (390 กิโลวัตต์) สามารถสร้างอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปถึงระดับ ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 4.0 วินาที พร้อมทะยานทะลุความเร็วสูงสุดกว่า 250 กิโลเมตรต่อ/ชั่วโมง สามารถใช้ได้ยาวนานถึง 407 กิโลเมตร และเครื่องยนต์ที่เงียบมากๆด้วยความเป็นรถไฟฟ้า
พอได้ลองเข้ามานั่งแล้ว จะรู้สึกได้ถึงความเท่ห์และพลังของม้า 500 กว่าตัวที่อยู่ในมือคุณความหรูหราสไตล์ปอร์เช่ที่ยังคงอยู่ พวงมาลัยหุ้มหนังรู้สึกนิ่มมือ หน้าจอขนาดใหญ่มีลูกเล่นมากมายและการตั้งค่าต่างๆให้เลือก หลังคาซันรูฟรับแสง เบาะไฟฟ้านั่งสบายกระชับตัว เฮดรูมข้างหน้าเหลือๆ ด้านหลังอาจจะเหมาะสำหรับคนที่สูงน้อยกว่า 170 เซนติเมตรด้วยรูปทรงของรถ แต่แก้ด้วยพื้นที่ขาที่สามารถเหยียดออกไปได้กว้างมาก
ในเมื่อทางเขาเคลมว่าสามารถวิ่ง 0-100 ได้ใน 4 วินาที ทางกระผมเองจึงไม่รอช้าอยู่ใย กระทืบคันเร่งเพื่อพุ่งทะยานออกไป ก็พบกับความหลังติดเบาะจากรถไฟฟ้าที่เงียบมากๆจากมอเตอร์ พวงมาลัยที่ตอบสนองไว แม่นยำอย่างมาก ช่วงล่างที่นิ่มมากๆ แต่ยังเกาะถนนได้ดีอยู่ เบาะหนังที่มีความโค้งรับกับตัวคนขับทำให้ไม่ไถลขณะเลี้ยวได้
ภายนอกไม่ต้องพูดถึงเลยว่าสวยงาม เฉียบคม มีความสปอร์ตอยู่แล้ว แต่อาจจะเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับผม ที่เบาะไฟฟ้าเมื่อเราปรับไปในตำแหน่งที่ต้องการแล้ว หลังจากทำการดับเครื่อง เบาะจะเลื่อนกลับมาที่เดิม เพื่อให้เข้าออกรถได้ง่าย รวมถึงระบบกุญแจ Keyless ที่ทางวิศวกรกล่าวว่าเมื่อทำการปลดล็อคประตู ด้ามจับจะเปิดออกมาให้เอง เพื่อป้องกันการขโมยและการหนีบมือได้ ถือเป็นเรื่องที่ใส่ใจผู้ใช้อย่างมาก และหลังคาแก้วซันรูฟที่แทบจะเต็มหลังคาก็เพิ่มความสวยงามได้ไม่น้อย รวมถึงช่องชาร์จด้านข้างที่ปิดลงมาเองได้ด้วย
แน่นอนด้วยความเป็นรถสปอร์ตสุดหรู ตัวรถมีการยกสูงข้างหน้าและลาดลงมาด้านหลังตามทฤษฎี Aerodynamics ทำให้วิสัยทัศน์มองจากกระจกด้านหลังนั้นค่อนข้างแคบ แต่ก็แก้ปัญหานี้ด้วยกล้องมองรอบคัน และกล้องถอยหลังที่ชัดมากๆ จนลืมมองกระจกไปเลย และเซนเซอร์หน้าหลังที่ทำงานได้อย่างดี จึงไม่เป็นปัญหาใหญ่
อีกสิ่งหนึ่งคือตำแหน่งของเกียร์ที่เป็นแป้นให้กดขึ้นลงที่อาจจะยังไม่ค่อยชินมือ รวมถึงหน้าจอที่ยาวไปถึงด้านผู้โดยสารที่อาจจะต้องเอื้อมเอาเล็กน้อยหากมาคนเดียว
ระบบการชาร์จไฟ Porsche Taycan มีรายละเอียดดังนี้
– รองรับการชาร์จกระแสไฟ DC สูงสุดที่ 270kW ใช้เวลาชาร์จจาก 5-80% ในเวลา 22.5 นาที
– การชาร์จไฟด้วยกระแสไฟ DC 50kW ชาร์จจาก 5-80% ใช้เวลา 93 นาที
– การชาร์จไฟด้วยกระแสไฟ AC 11kW ชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลา 9 ชั่วโมง
หลังจากก้าวลงจากรถจนถึงบ้าน ยอมรับเลยว่านี่เป็นประสบการณ์ใหม่ของผมเลยก็ว่าได้ที่ได้ลองรถสปอร์ตหัวใจไฟฟ้า จนอยากกลับไปขับอีก ด้วยความหรูหรา ความแรง ความเงียบและลูกเล่นที่มีมาให้มากมายของรถทำให้ไทคานเป็นที่น่าจับตามองมากๆ จนถึงขนาดมียอดจองไปถึงปีหน้า โดยคาดว่าหลังจากนี้ ทิศทางของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จะน่าสนใจมากขึ้น และมีรถรุ่นอื่นๆมาให้เราชมกันอีกมากมาย
สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของ Porsche Taycan ซักคัน สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก AAS Auto Service ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Porsche Thailand ได้เลยครับ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}