Toyota Corolla Cross Hybrid Premium Safety 1.199 ล้านบาท ครอสโอเวอร์สายกลาง แต่ปลอดภัยครบเครื่อง

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) คือความพยายามแตกไลน์รถยนต์ในกลุ่มเอนกประสงค์ของผู้นำตลาดอย่าง Toyota (โตโยต้า) ที่จัดว่ามาได้ถูกช่วงถูกเวลา เมื่อรถยนต์ของคู่แข่งอย่าง Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) ก็เริ่มเข้าช่วงท้ายของอายุการทำตลาด

ขณะที่ Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เอชอาร์) นั้น แม้จะได้รับการยอมรับเรื่องการขับขี่ที่ดีเยี่ยม แต่ก็ไม่สามารถเอาใจลูกค้ากลุ่มรถยนต์ครอบครัวได้อย่างเต็มรูปแบบ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะเจาะ พวกเขาก็เลยเปิดตัวโคโรลล่า ครอส เพิ่มมาในไลน์อัพสินค้า เพื่อให้รองรับความต้องการได้ทุกกลุ่ม

ในช่วงแรกของการเปิดตัว หลายคนมัวแต่ไปเสียเวลาถกเถียงเรื่องรถคันนี้เป็นเซกเมนต์ไหน จนผู้บริหารต้องออกมาตอบว่าเป็นรถที่เบสมาจาก Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) ซึ่งเอาจริง ๆ หากมาดูกันใกล้ ๆ ก็จะเห็นว่าตัวรถนั้นดูใหญ่โตเอาเรื่องเลยทีเดียว

AutoFun Thailand นั้นเคยได้สัมผัสกับรถคันนี้มาก่อนแล้วนิดหน่อย แต่เพิ่งมีโอกาสได้ลองกันแบบเต็ม ๆ ทำให้รู้สึกว่าโคโรลล่า ครอสนั้น มีจุดขายที่ความเอนกประสงค์เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้งานแบบครอบครัว การตอบสนองนั้นก็ถือว่าดี แต่ไม่เป็นที่สุดในคลาส

นอกจากความเอนกประสงค์จะโดดเด่นแล้ว ในรุ่นท็อปนั้นยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยเต็มพิกัดที่เรียกว่าไม่เป็นรองใครหน้าไหนในท้องตลาด ซึ่งอาจจะทำให้ผู้บริโภคนั้นหันมาให้ความสนใจกับรถรุ่นนี้ได้ หากต้องการจับจองเป็นเจ้าของครอสโอเวอร์ดีดีกับเขาสักคัน

ผู้ซื้อรถโตโยต้า โคโรลล่า ครอส ทุกรุ่นจะได้รับการขยายเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่เป็น 5 ปี หรือ 1.5 แสนกิโลเมตร พร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะนาน 5 ปี สำหรับรุ่นไฮบริด ได้รับประกันระบบไฮบริดนาน 5 ปีและรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

ภายนอกใหญ่โตโอ่อ่าเอาเรื่อง

ถ้าคุณเอาโคโรลล่า ครอสไปจอดเดี่ยว ๆ แบบไม่เกี่ยวกับใคร คุณจะรู้สึกว่ามันไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย แต่หากเอาไปจอดเทียบกับคนอื่นแล้ว จะพบว่ารถคันนี้นั้นใหญ่เอาเรื่องเหมือนกัน สมกับที่เป็นรถที่มิติตัวถังกว้างและยาวที่สุดในคลาสเหนือกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่อยู่ในท้องตลาด

ด้วยมิติตัวถังกว้าง 1,825 มิลลิเมตร ยาว 4,460 มิลลิเมตร สูง 1,620 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,640 มิลลิเมตร และมีระยะต่ำสุดถึงพื้นที่ 161 มิลลิเมตร โตโยต้าเคลมว่ารถคันนี้มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดที่ 5.2 เมตรเท่านั้น ซึ่งหากมองดีดีก็จะพบว่าการออกแบบส่วนฝากระโปรงนั้น ยื่นออกมาพอตัว

ตัวถังนั้นยาวและกว้างที่สุดในท้องตลาดอย่างที่บอก ความสูงเป็นรองเพียงแค่ MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ขณะที่ฐานล้อนั้นสั้นกว่า Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) แต่อย่างที่บอกล่ะว่า หากนำรถคันนี้ไปจอดเทียบกับคันอื่น ๆ นั้น รถคันนี้จะดูใหญ่โดดเด่นเป็นสง่าออกมาอย่างแน่นอน

มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางมิชลินขนาด 225/50 R18 กระจกบังลมหน้าแบบลดเสียง ระบบไฟรอบคันของรถนั้นเป็นแอลอีดีเกือบทั้งหมด พร้อมด้วยระบบไฟส่องสว่างเมื่อดับเครื่องยนต์ กระจังหน้าสีดำเงาเพิ่มความสปอร์ต พร้อมดีไซน์แบบทูโทนรอบคัน เพิ่มความสวยงามลงตัว

มาพร้อมสปอยเลอร์หลังและไฟเบรกดวงที่ 3 ไฟตัดหมอกท้ายมีเพียงด้านเดียว เสาอากาศแบบครีบฉลาม พร้อมแร็คหลังคาสีดำที่ตัดกับตัวรถสีสดอย่างลงตัว อย่างรถที่นำมาทดสอบเป็นสีแดงสดก็จะเห็นชัดขึ้น และเพิ่มความโอ่อ่าด้วยหลังคาซันรูฟสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเปิดได้ชิลล์ชิลล์

ภายในของเล่นเพียบ แต่ไม่โอ่อ่าขนาดนั้น

แม้ภายนอกของตัวรถจะมาพร้อมความใหญ่โตเต็มพิกัด แต่เมื่อก้าวเข้ามาในห้องโดยสารนั้น กลับไม่ได้ใหญ่โตตามไปด้วย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการออกแบบให้ด้านหน้าของตัวรถยื่นออกไปเป็นพิเศษ ทำให้พื้นที่ของห้องโดยสารไม่ได้ขยายออกไปมากอย่างที่หลาย ๆ คนอยากจะให้เป็นกัน

การก้าวเข้าออกจากห้องโดยสารนั้นทำได้อย่างง่ายดาย ด้วยบานประตูที่เปิดกว้างพอสมควร และพื้นห้องโดยสารที่ไม่ต่ำมาก เบาะที่นั่งออกแบบมาให้สูงพอดีกับการก้าวขาเข้าไปในห้องโดยสารแล้วหย่อนตัวนั่งเลย ซึ่งแน่นอนว่าผู้โดยสารที่เป็นเด็กหรือผู้สูงวัย สามารถเข้าออกได้สะดวก

โคโรลล่า ครอสนั้น ดูเหมือนเป็นการออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาห้องโดยสารของซีเอช-อาร์มาทั้งหมด อะไรที่เคยมีคนบอกว่าไม่ดีในรถรุ่นนั้น เหมือนจะได้รับการปรับปรุงมาเป็นอย่างดี ภายในห้องโดยสารสีดำที่มีดีไซน์ลูกเล่นของเบาะที่นั่งก็ดูดีขึ้น แม้จะให้เบาะปรับไฟฟ้ามาตำแหน่งเดียวก็ตาม

ภายในห้องโดยสารที่ดูน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด มีการตกแต่งด้วยหนังสลับโครเมียมอย่างลงตัว การควบคุมระบบส่วนใหญ่จะทำได้ผ่านหน้าจออินโฟเทนเมนต์กลางรถอยู่แล้ว ที่นอกเหนือจากนั้นก็เป็นแค่ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลที่ยังมีปุ่มมากมาย พอพอกับพวงมาลัยมัลติฟังชั่นส์

ใครใช้งานพวงมาลัยครั้งแรกอาจจะแปลกใจกับระบบควบคุมเครื่องเสียงนิดหน่อย เพราะพอย้ายระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติมาไว้ที่ด้านขวา ทำให้ต้องแบ่งส่วนควบคุมเครื่องเสียงไปไว้ที่ด้านล่างของแป้นควบคุมหลัก ขณะที่ด้านซ้ายนั้นเอาไว้คุมจอเล็กที่ด้านหลังพวงมาลัยอยู่แล้ว

เบาะนั่งด้านหลังนั้่นปรับเอนได้ 1 ระดับ พร้อมพับแยกแบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ แต่การเก็บงานในห้องเก็บสัมภาระนั้นไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าที่ควร และไม่ได้ทำมาเป็นพื้นเรียบ ประตูบานหลังเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า และสามารถเตะที่ใต้มุมกันชนซ้ายเพื่อเปิด-ปิดได้อย่างสะดวก

เครื่องเสียงที่ติดตั้งมาให้รองรับทั้งแอนดรอยด์ ออโต้และแอปเปิล คาร์เพลย์ มาพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่งที่ให้เสียงดีพอประมาณ มาพร้อมระบบที-คอนเนคต์ เทเลมาติกส์ เพื่อให้สามารถตรวจสอบสถานะต่าง ๆ ของรถได้ตลอดเวลาผ่านแอพพลิเคชั่น พร้อมระบบช่วยเหลือมากมาย

เครื่องยนต์แนวชายกลางเหมาะสมกับในเมือง

แม้รูปลักษณ์ของรถจะออกมาในแนวของรถยนต์ครอบครัวแบบเต็มพิกัด แต่ในการขับขี่จริงแล้ว ต้องบอกว่าห้ามประมาทเป็นอันขาด โดยเฉพาะเมื่อคุณเจอกับเวอร์ชั่นไฮบริดบนท้องถนน และบังเอิญว่าพวกเขานั้นมีแบตเตอรี่เต็มถังที่พร้อมจะลากแข่งกับคุณไปบนถนนอย่างเต็มพิกัด

แน่นอนวว่าเครื่องยนต์ไฮบริดนั้นจะแตกต่างกันไปตามสภาพการใช้งานและเงื่อนไขต่าง ๆ มากมาย ทั้งลักษณะการทำงานของเครื่องยนต์ ปริมาณแบตเตอรี่ อุณหภูมิหรือแม้แต่การขับขี่ของผู้โดยสารเอง ซึ่งโดยรวมแล้ว โตโยต้าก็ไม่ได้เซตอัพรถคันนี้ให้ตอบสนองแบบดุดันเท่าใดนัก

โคโรลล่า ครอส รุ่นไฮบริด มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 1,798 ซีซี. ที่ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า พร้อมแรงบิด 163 นิวตันเมตร 

เมื่อผสานการทำงานเข้าด้วยกันแล้ว รถคันนี้จะให้กำลังสูงสุดจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 122 แรงม้า การส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ แบบอี-ซีวีที ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุดถึงแก๊สโซฮอล์ อี20 โดยพื้นฐานทางวิศวกรรมมาจาก TNGA ทั้งหมด

ลองทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงดูก็จะอยู่ที่แถว ๆ 12-13 วินาที ความเร็วสูงสุดแบบเค้น ๆ อยู่ที่มากกว่า 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแน่นอน แต่ถ้าถามว่าช่วงความเร็วไหนที่รถขับได้สนุกที่สุดแบบไม่เหนื่อย ก็อยู่ที่ไม่เกิน 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกินกว่านี้ต้องกดคันเร่งแช่กันบ้าง

พวงมาลัยแม่นยำ แต่ช่วงล่างแอบสะท้าน

สิ่งที่ดีงามมากสำหรับโคโรลล่า ครอสก็คือความแม่นยำของพวงมาลัยที่ให้น้ำหนักและการควบคุมที่ดีงามใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ถือเป็นท็อปของคลาส ระยะฟรีและน้ำหนักของการควบคุมนั้นสนุกสนานและง่ายต่อการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง ที่ย่านความเร็วที่มีความแตกต่าง

ต้องขอบคุณพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPAS ที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี โหมดการขับขี่ของรถนั้นมีให้เลือกได้เป็นโหมดอีวี ที่ต้องดูว่ามีแบตเตอรี่เหลือพอหรือไม่ โหมดสปอร์ตที่เรียกเสียงมอเตอร์อย่างดุดัน พร้อมการตอบสนองที่สนุกขึ้น รวมถึงโหมดการขับขี่แบบอีโคและโหมดธรรมดา 

เสียงของมอเตอร์ที่ดังกระหึ่มเวลากดคันเร่งนั้น อาจจะสร้างความรำคาญให้กับผู้ขับขี่และผู้โดสารพอสมควร แต่สิ่งที่แอบกวนใจกว่านิด ๆ ก็คือการซับแรงกระแทกของช่วงล่าง ที่เมื่อออกแบบรถมาโดยเน้นความสะดวกสบายของการโดยสารเป็นหลัก การซับแรงกระแทกก็ลดลงไปด้วย

โคโรลล่า ครอสนั้น เปลี่ยนช่วงล่างด้านหลังมาเป็นทอร์ชั่น บีม พร้อมเหล็กกันโคลง ขณะที่ด้านหน้าใช้แมคเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงเหมือนซี-เอชอาร์ ระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน หลังเป็นดิสก์ ที่ให้ความหนึบแน่นในการหยุดรถอย่างว่องไว

ถ้าซี-เอชอาร์คือรถที่มีความกระชับฉับไว การโยนตัวต่ำเมื่อมีการเปลี่ยนเลน โคโรลล่า ครอส ก็จะเป็นรถที่ให้ความนุ่มสบายมากกว่าบนพื้นถนนผิวเรียบ เมื่อต้องวิ่งผ่านสิ่งกีดขวางไวไว ช่วงล่างหลังจะออกลูกตึงตังมากกว่าอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับความมั่นใจในการขับขี่นะ

ระบบความปลอดภัยมั่นใจเต็มพิกัด

เมื่อชื่อรุ่นมีคำว่า Safety มาให้ แน่นอนว่าโคโรลล่า ครอส รุ่นท็อป ก็ต้องมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัย 7 ที่นั่ง พร้อมกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ที่ปรับมุมมองและการแสดงผลได้หลายรูปแบบ ทั้งมุมมองแบบ 2 มิติและ 3 มิติตามต้องการ

มาพร้อมระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง ระบบเตือการชนด้านหน้าพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานรถ

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน ที่ทำงานร่วมกับระบบประคองรถให้อยู่ในช่องจราจร สามารถเปิดปิดและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ง่ายดาย รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยพื้นฐานในการใช้งานอย่างครบครัน ทั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายและเสริมแรงเบรก

ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบป้องกันการออกตัวแบบฉุกเฉิน ไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างจุดยึดเบาะนั่งเด็ก สัญญาณกันขโมย รวมถึงชุดปะยางฉุกเฉิน

หากมองด้านระบบและอุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ติดตั้งให้มาแล้ว โตโยต้า โคโรลล่า ครอส ถือว่ามีความโดดเด่นกว่าคู่แข่งหลายรายที่ยังไม่ได้ใส่ของเล่นมาให้อย่างเต็มที่ แต่นั่นก็หมายถึงว่า คุณจะต้องจ่ายค่าตัวที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน เพื่อแลกกับความปลอดภัยต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นมา

ทางเลือกที่ลงตัวของทุกความต้องการ

การกลับมายืนหนึ่งเป็นผู้นำในตลาดครอสโอเวอร์อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาของ Toyota Corolla Cross ด้วยยอดจำหน่าย 2,124 คัน กินส่วนแบ่งตลาดประเดือนไปถึง 37.3% ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 2 ที่พวกเขาเริ่มทำการส่งมอบรถคันนี้อย่างเป็นทางการ 

นั่นก็หมายความว่า โคโรลล่า ครอสนั้นกำลังเดินหน้าสู่การเก็บยอดขายเป็นกอบเป็นกำอีกครั้งหนึ่ง แม้หลายคนอาจจะบอกว่ารถรุ่นนี้นั้นไม่สุดไปทางใดทางหนึ่ง แต่ด้วยการผสมผสานความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าและลงตัวกลมกล่อมก็ทำให้พวกเขาแย่งชิงตลาดไปได้อย่างต่อเนื่อง

แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ได้ขับสนุกสนานเหมือนซี-เอชอาร์หรือซีเอ็กซ์-30 ความกว้างขวางทั้งห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระก็สู้เอชอาร์-วีไม่ได้ แต่ด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เหนือกว่า และความสดใหม่ของสินค้า ก็ทำให้ลูกค้านั้นตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแน่นอนในช่วงเวลาอันแสนดุเดือดนี้

สิ่งที่ผมขัดใจจริง ๆ ก็คือการที่รถนั้นไม่มีเบรกมือไฟฟ้าและระบบหยุดรถอัตโนมัติ ซึ่งมันเป็นอุปกรณ์ที่ควรจะมีอยู่ในรถยนต์ที่ใช้ระบบไฮบริด พอเอาเบรกเท้ามาใช้มันดูย้อนวัยมาก ผมไม่ได้หมายถึงอะไรดีกว่าอะไรนะ อีกอย่างที่น่าหงุดหงิดพอกันก็ฝาถังน้ำมันที่ต้องเปิดจากในรถนี่ดูโบราณไป

ถ้าถามถึงอัตราการสิ้นเปลือง ดูกันที่มาตรวัดดิจิตอลเลยนะครับ หน้าจอดิจิตอลของคันที่ผมขับบอกว่าผมใช้รถคันนี้ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 18-19 กิโลเมตรต่อลิตร หรือหมายถึงเติมน้ำมันเต็มถัง 36 ลิตร ผมจะขับได้ประมาณ 600 กิโลเมตร ถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับรถครอสโอเวอร์รูปแบบนี้เลย

การแข่งขันในตลาดซับคอมแพคท์ ครอสโอเวอร์ ที่มีคู่แข่งมากหน้าหลายตานั้น โตโยต้า โคโรลล่า ครอส อาศัยทั้งความสดของสินค้า แบรนด์อันโดดเด่นและการเซตอัพรถที่เบียดบังเข้าไปได้ทุกความต้องการของลูกค้า แย่งชิงยอดขายมาเก็บไว้ในมือก่อนได้เป็นกอบเป็นกำตลอดทั้งปีนี้แน่

ต้องรอดูว่าการมาถึงของ Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) ที่คาดการณ์กันว่าจะมาถึงในช่วงต้นปี 2564 จะสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนได้หรือไม่ รวมไปถึงซีเอ็กซ์-30 และแซดเอส ที่ยังพยายามรักษายอดจำหน่ายของตัวเองให้คงที่ จะส่งผลกระทบต่อความร้อนแรงของโคโรลล่า ครอส เพียงใด

หากไม่พลาดเป้า โคโรลล่า ครอส น่าจะเบียดแซงเข้าวินได้แน่นอนล่ะ ในช่วงสิ้นปีนี้...