กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้าแผนการส่งเสริมการใช้รถพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยการศึกษาแนวทางการลดภาษีการนำเข้าและการประกอบในประเทศ เล็งเป้าหมายสู่การเป็นศูนย์กลางรถอีวีของอาเซียน
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมได้รับมอบหมายจากกระทรวงอุตสาหกรรมให้เป็นหน่วยงานผู้นำการศึกษาการปรับลดอัตราภาษีและแนวทางอื่น ๆ โดยจะทำงานร่วมกับคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติหรือ “บอร์ดอีวี” เพื่อแสวงหาแนวทางการสนับสนุนรถพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า มาตรการด้านภาษีจะช่วยเพิ่มความต้องการใช้รถพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยซึ่งปัจจุบันยังมีราคาสูง การส่งเสริมรถพลังงานไฟฟ้าจะช่วยลดปัญหามลพิษอย่างฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่เกิดจากรถเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป โดยเฉพาะรถที่ใช้งานมานานหลายปี
“รัฐบาลเชื่อว่าการลดภาษีจะช่วยให้รถพลังงานไฟฟ้ามีราคาจำหน่ายไม่สูงเกินไป” สุริยะ กล่าวเพิ่มเติม
ปัจจุบันการจัดเก็บภาษีศุลกากรสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ร้อยละ 80 รัฐมนตรีอุตสาหกรรมยืนยันว่าคณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้งล่าสุดจะพิจารณาแนวทางการปรับลดอัตราภาษีทั้งการประกอบในประเทศและการนำเข้ามาจำหน่ายทั้งคัน
นอกจากนี้ คณะทำงานยังจะศึกษาแนวทางด้านอื่น ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความต้องการใช้งานรถพลังงานไฟฟ้า อย่างการสนับสนุนบริษัทผู้ผลิตยานยนต์และการกำหนดนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุน ซึ่งจะทำให้รถพลังงานไฟฟ้ามีราคาจำหน่ายเริ่มต้นประมาณ 700,000 – 800,000 บาท
“เมื่อกำหนดราคาเป้าหมายแล้ว เราก็จะทราบได้ว่าควรจะปรับลดอัตราภาษีเท่าไหร่และออกนโยบายใดเพิ่มเติมเพื่อให้รถพลังงานไฟฟ้ามีราคาเท่าเทียมกับรถเครื่องยนต์สันดาปทั่วไป” สุริยะ กล่าว
ภายใต้แผนแม่บทการส่งเสริมรถพลังงานไฟฟ้า กระทรวงอุตสาหกรรมต้องการให้ประเทศไทยขึ้นแท่นเป็นศูนย์กลางการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าในอาเซียน โดยจะต้องมียอดการผลิตอยู่ที่ 750,000 คันหรือประมาณ 30% ของยอดการผลิตรถยนต์ทั้งหมด 2.5 ล้านคันภายในปี 2030
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}