2020 MG HS PHEV ปะทะ Honda CR-V คุณจะเลือกชื่อชั้นแบรนด์หรือคุณสมบัติตัวรถ?

2020 MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) เปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยราคาที่เรียกเสียงฮือในงานแถลงข่าวที่ 1,359,000 บาท ย่อมเยากว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ และทำให้คู่แข่งต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

การเปิดตัว HS PHEV ยังสั่นสะเทือนตลาดในวงกว้างและถูกนำไปเปรียบเทียบกับรถครอสโอเวอร์พลังไฮบริดรุ่นเดียวในตลาดอย่าง Toyota Corolla Cross ด้วยเช่นกัน แต่กระนั้น คู่แข่งโดยตรงของ HS PHEV ก็คือ Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) และ Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5)

วันนี้เราจึงขอนำรถปลั๊กอินไฮบริดรุ่นล่าสุดของ MG มาเปรียบเทียบกับ CR-V ตัวล่างสุด 2.4S ซึ่งมีราคาจำหน่ายที่ 1,369,000 บาทหรือแพงกว่า HS PHEV  อยู่ 1 หมื่นบาทถ้วน ทำให้เกิดคำถามตามมาว่าคุณจะเลือกสิ่งใด ระหว่างชื่อชั้นแบรนด์ที่แข็งแกร่งหรือคุณสมบัติของตัวรถที่เพียบพร้อม?

มิติตัวถังภายนอก

ขนาดตัวถังมีความใกล้เคียงกัน แต่ HS PHEV ซึ่งเปรียบเสมือนรุ่นท็อปของตระกูล HS ดูจะสมบูรณ์แบบมากกว่าด้วยการใช้ล้อ 18 นิ้วเต็มซุ้ม เส้นสายตัวถังที่โค้งมนในรูปแบบ British Shoulder Line กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะของ MG แบบ Stellar Magnetic Field

ไฟหน้าของ HS PHEV เป็นแบบโปรเจคเตอร์ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ไฟท้าย LED Space Light Field และไฟเลี้ยวแบบซีเควนเชียลที่แสดงผลแบบไล่ระดับทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้า-หลังและราวหลังคา บนหลังคายังมีพาโนรามิกซันรูฟกินพื้นที่เกือบ 90% เพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ และมีฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า

ขณะที่ CR-V มาพร้อมรูปลักษณ์ที่คุ้นตาชาวไทยเพราะทำตลาดมานานหลายปีแล้ว อย่างไรก็ตามตัวล่างสุดขาดอ็อปชั่นหลายอย่างโดยเฉพาะซันรูฟ แต่ยังมีไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าซีเควนเชียล มีเดย์ไลท์ ไฟตัดหมอกหน้า LED และกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว

CR-V ยังมีสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอย 17 นิ้ว เสาอากาศครีบฉลาม ตลอดจนฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี

ภายในห้องโดยสาร

HS PHEV สะดวกสบายด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสารด้วย NVH Luxury Silence Space เพิ่มฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก

มาตรวัดเป็นจออัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว และจอควบคุมกลางแบบทัชกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบเสียง BOSE 8.1 Sound System HS PHEV ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสื่อสารกับรถเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยเทคโนโลยี AI สร้างบรรยากาศและสีสันให้กับการขับขี่ด้วย Interactive Ambient Light ที่สามารถปรับเฉดสีได้ 64 เฉดสี นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start

ภายในห้องโดยสารของ CR-V มาพร้อมเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ตกแต่งภายในด้วยสีเงินและสีดำเปียโนแบล็ก มีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะและควบคุมประตูอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกดูอัลโซน กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ

บนแดชบอร์ดขออง CR-V มีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน การสั่งงานด้วยเสียง Siri เชื่อมต่อไร้สายบลูทูธ และ USB รวมถึงระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (ANC)

ระบบขับเคลื่อน

2020 MG HS PHEV ล้ำสมัยกว่าอย่างชัดเจนด้วยการใช้ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด สามารถโลดแล่นด้วยพลังไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ไกลกว่า 60 กม. ทำให้ความประหยัดน้ำมันเหนือชั้นทะลุหลัก 60 กม.ต่อลิตร เลยทีเดียว

ขณะเดียวกัน พละกำลังทั้งแรงม้าและแรงบิดของ HS PHEV ยังโดดเด่นอย่างมาก ผู้บริหารของ MG ยืนยันหนักแน่นว่านี่คือรถที่มีสมรรถนะดีที่สุดในระดับเดียวกัน

ความปลอดภัย HS PHEV นำโด่ง

MG ขึ้นชื่อในเรื่องการจัดเต็มระบบความปลอดภัย และ HS PHEV ก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System กว่า 25 ระบบ ไฮไลท์อยู่ที่ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ถือเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 (Level 2 Partial Automation) ดังนี้ ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน  และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน

นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ และระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ขณะที่ถุงลมนิรภัยมีทั้งหมด 6 จุด รวมถึงกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเบรกต่าง ๆ และระบบควบคุมเสถียรภาพ

ขณะที่ CR-V มีระบบความปลอดภัยดังนี้ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน และระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่

CR-V มาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบเบรกต่าง ๆ แต่ปราศจาก Honda Sensing ที่มีมาให้เฉพาะรุ่นท็อปที่มีค่าตัวแพงกว่าหลายแสนบาท

สรุป

ไม่ว่าจะมองในแง่มุมไหน MG HS PHEV ก็เหนือชั้นกว่าอย่างชัดเจนแถมยังมีค่าตัวย่อมเยากว่าด้วย นี่เป็นกลยุทธ์การกำหนดราคาอย่างยั่วยวนที่สร้างความสำเร็จให้แก่ MG ZS และ HS รุ่นมาตรฐานจนผงาดขึ้นเป็นผู้นำเซกเมนท์มาแล้ว

คำถามที่เราทิ้งไว้ตั้งแต่ต้นว่าคุณผู้อ่านจะเลือกสิ่งใด ระหว่างชื่อชั้นแบรนด์ที่แข็งแกร่งกับคุณสมบัติของตัวรถที่ยอดเยี่ยม เราไม่อาจตอบแทนได้ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความต้องการของตัวคุณเอง