Rêver Automotive (เรเว่ ออโตโมทีฟ) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวบริษัท ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายสำหรับแบรนด์ BYD (บีวายดี) อย่างเป็นทางการ ด้วยการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อรุกตลาดเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ไทยสู่ NEV Nation เต็มรูปแบบ
ทาง Rêver Automotive ยังไม่เปิดเผยว่ารถรุ่นใดของ BYD จะได้จำหน่ายในประเทศไทย แต่ได้วางเป้าหมายให้ BYD เป็นค่ายรถที่ติดอันดับ Top 5 ของไทยภายใน 5 ปีถัดจากนี้ เนื่องจากทางผู้บริหารมั่นใจในศักยภาพของแบรนด์เอง รวมถึงบริการการขายและบริการหลังการขายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
นอกจากนี้ยังประสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ผ่าน Rêver Super Application ที่จะเปิดตัวพร้อมรถรุ่นแรก และขยายโครงข่ายพันธมิตร โดยจะมีตัวแทนจำหน่ายที่มีทั้งโชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขายเต็มรูปแบบ 31 แห่งภายในปีนี้
และยังร่วมมือกับ SHARGE เพื่อเปิดสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นจากเดิมในไทยให้ถึง 1,000 สถานี ครอบคลุมทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันก็สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้รถอีวี และการชาร์จไฟภายในบ้าน
AutoFun Thailand ได้เข้าร่วมพบปะทีมผู้บริหาร ที่นำทีมมาโดย ประธานวงศ์ - ประธานพร พรประภา ทายาทรุ่นที่ 3 ของสยามกลการ เพื่อพูดคุยและได้ทำความรู้จักบริษัทให้มากขึ้น ด้วยคำถามทั้ง 9 ข้อนี้
1. Rêver Automotive เป็นผู้จัดจำหน่าย BYD ทุกรุ่นในไทยหรือไม่
สำหรับ Rêver Automotive นั้นได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด ให้ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
คำถามที่ว่า การทำตลาดของรถยนต์ BYD ก่อนหน้านี้เกี่ยวข้องกับ เรเว่ ออโตโมทีฟ หรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่ เนื่องจากบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่าย “รถยนต์นั่งส่วนบุคคล” แต่เพียงผู้เดียว หรือมีเป้าหมายที่ B2C ไม่เกี่ยวข้องกับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่นำมาจำหน่ายก่อนหน้านี้ ซึ่งแตกต่างกันทั้งรูปแบบของรถและโมเดลธุรกิจของรถที่จำหน่าย
2. สาเหตุที่มั่นใจว่า BYD จะกลายเป็น Top 5 ในไทยภายใน 5 ปี
เนื่องจาก BYD มีพนักงานกว่า 290,000 คนทั่วโลก โดยมีวิศวกร R&D มากกว่า 40,000 คน และสถาบันวิจัย 11 แห่งทั่วโลก ทีมออกแบบ in-house ประกอบด้วยนักออกแบบกว่า 400 คน จาก 10 ประเทศ และยังเป็นแบรนด์จีนรายแรกที่เข้าสู่ "One Million Club" ของยานยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งปัจจุบัน BYD ขยายธุรกิจ ไปกว่า 400 เมือง ในกว่า 70 ประเทศและภูมิภาค ครอบคลุม 6 ทวีป
ประธานวงศ์ พรประภา กล่าวถึงเป้าหมายของ Rêver Automotive ในความต้องการเป็นผู้ผลิตรถชั้นนำของไทยในเวลาเพียง 5 ปี ด้วยสาเหตุที่ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีตัวเลือกและปริมาณของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดไม่มากนัก จึงมีที่ว่างให้กับแบรนด์ใหม่ ๆ รวมถึงรถเซกเมนต์ใหม่ ๆ ได้อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม : 2022 BYD Seal กวาดยอดขาย 110,000 คันในเดือนเดียว มาไทยจะกระฉูดแค่ไหน?
3. ใน 3,000 ล้านบาท ลงทุนอะไรบ้าง
ผู้บริหารระบุว่า ในการลงทุน 3,000 ล้านบาท จะมาจากการลงทุนของทาง Rêver โดยตรง ภายใน 2 ปีแรก โดยจะเป็นการปั้นแบรนด์ให้แข็งแรง ให้มีรากฐานที่มั่นคง โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ ส่วนของการตลาด 450 ล้านบาท, ส่วนของโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้า 150 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะเกี่ยวข้องกับการหมุนเวียนรถที่จะนำมาจำหน่าย
ทั้งนี้ ในงบประมาณข้างต้นยังไม่รวมการลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาทเพื่อเปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่ทำอยู่ในคราวเดียวกัน
4. เป้าหมายยอดขายของ BYD ภายใต้การบริหารของ Rêver Automotive
ด้วยความที่เป้าหมายของ Rêver Automotive ต้องการไปอยู่ใน Top 5 ผู้ผลิตรถของบ้านเราให้ได้ ทางผู้บริหารจึงตั้งยอดขายในปีนี้ที่หลักพันคัน และทำยอดขายในปีแรกในหลักหมื่นคัน ซึ่งถือว่าเป็นเป้าหมายที่ใหญ่มากสำหรับค่ายรถยนต์ที่เพิ่งเริ่ม แม้จะเป็นแบรนด์ใหญ่ก็ตาม
5. สถานการณ์ขาดแคลนชิปทั่วโลกส่งผลต่อ BYD อย่างไร
ในสถานการณ์ขาดแคลนชิปทั่วโลก หากมียอดจองรถในบ้านเรามากอย่างที่คาดการณ์ไว้ จะต้องรอรถนานหรือไม่ ผู้บริหารทั้งสองกล่าวว่า เนื่องจาก BYD สามารถผลิตชิปได้ด้วยตัวเอง ความกังวลด้านการขาดแคลนชิปจึงน้อยกว่าแบรนด์รถยนต์อื่น ๆ ที่ต้องอาศัยซัพพลายเออร์จากภายนอก
6. ตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ BYD แข่งกับแบรนด์ไหน
BYD เป็นองค์กรที่มีขอบเขตธุรกิจครอบคลุมด้านอิเล็กทรอนิกส์, พลังงานใหม่, การขนส่งระบบราง และรถยนต์พลังงานใหม่ ในฐานะ “บริษัทที่เน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม” (Technology-based, Innovation-oriented)
ทางผู้บริหารจึงต้องการให้รถทุกรุ่นของ BYD เน้นในด้านของเทคโนโลยีเป็นหลัก ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาที่จะแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ และต้องการให้ BYD จำหน่ายรถครอบคลุมทุกเซกเมนต์ รวมถึงการเปิดเซกเมนต์ใหม่ ๆ
“เราเป็นบริษัทที่นำด้วยเทคโนโลยี ที่ตัดนู่นตัดนี่เพื่อขายถูก…ราคาไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ใช่ว่าเราจะขายแพง…เราอยากใส่เทคโนโลยีที่มีอยู่ให้มากที่สุด เราคิดว่าน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า”
อ่านเพิ่มเติม : BYD Seal อีกหนึ่งคู่แข่งโดยตรงของ Tesla Model 3
BYD Seal
7. รถรุ่นแรกที่จะเปิดตัว
ทางผู้บริหารยังไม่เปิดเผยถึง BYD รุ่นแรกที่จะเปิดตัวในประเทศไทย แต่มีการแง้มว่าจะเป็นรถในกลุ่ม Ocean Line ของแบรนด์ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน เพราะกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นอีวี 100% และเราสามารถคาดการณ์ว่าอาจจะเป็น BYD Dolphin , Seal หรือเป็นอีกรุ่นก็ได้ที่อยู่ในไลน์อัพนี้
สำหรับบริการหลังการขาย สามารถบริการแก่ BYD รุ่นที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ Rêver ได้ไหม
สำหรับการบริการหลังการขายต่าง ๆ เช่น การซ่อมบำรุง ในศูนย์บริการที่จะมีในอนาคตนั้นสามารถบริการแก่รถ BYD รุ่นที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ Rêver ได้หรือไม่ คุณประธานวงศ์ ระบุว่า สามารถทำได้ หากไม่เป็นการรบกวนแก่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้ Rêver
อ่านเพิ่มเติม : รู้จัก 4 รถยนต์ไฟฟ้าน่าสนใจจาก BYD ที่คงจะดีหากมีในไทย นำทีมโดย BYD Dolphin
8. มีโรงงานเมื่อไหร่ เริ่มจำหน่ายตอนไหน
สำหรับข้อมูลของโรงงานผลิต BYD ในบ้านเรานั้นทางผู้บริหารกล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในขณะนี้ เพราะอยู่ในกระบวนการการพูดคุย
ส่วนรถ BYD จะเริ่มจำหน่ายเมื่อไหร่ ทางผู้บริหารระบุว่าภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 นี้แน่นอน และช่วงแรกจะเป็นการนำเข้าสเปคพวงมาลัยขวาจากจีนก่อนจะสร้างโรงงานประกอบในประเทศภายหลังเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการยื่นเรื่องแก่รัฐบาล
9. หากรถเปิดจำหน่าย สามารถจองรถได้ที่ช่องทางใดได้บ้าง
ผู้บริหารระบุว่า ณ ขณะยังไม่มีระบบจอง แต่ได้วางแผนไว้ว่าการจองรถสามารถจองได้ที่ดีลเลอร์โดยตรงและสามารถจองผ่านแอพลิเคชั่นของแบรนด์ซึ่งจะมีการเปิดตัวพร้อมกับรถรุ่นแรก
อ่านเพิ่มเติม : BYD เอาจริง จองพื้นที่ใหญ่สุดงาน Motor Expo พร้อมโชว์ตัวเต็มระบบสิ้นปีนี้