ทุกวันนี้แม้จะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยให้คนขับปลอดภัยมากขึ้นจากอันตรายรอบด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังแก้ไม่ได้และเป็นปัญหามานานแล้ว นั่นคือปัญหาเมาแล้วขับ อันเกิดจากตัวผู้ขับขี่เอง
ทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกา กำลังร่างกฏหมายใหม่ที่จะกำหนดให้รถป้ายแดงทุกคัน ต้องมีเซนเซอร์ตรวจจับลมหายใจหรือระบบสัมผัส เพื่อตรวจสอบว่าผู้ขับดื่มแอลกอฮอลล์มาหรือไม่
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });
โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ท้องถนนปลอดภัยมากขึ้น หากระบบตรวจจับได้ว่าในกระแสเลือดมีค่าแอลกอฮอลล์ที่สูงเกินกว่า 0.8% จะทำให้รถยนต์นั้นสตาร์ทไม่ติด ไม่สามารถขับออกไปได้ ซึ่งกำลังทำการพัฒนาระบบอยู่ในตอนนี้
จากข้อมูลของ NHTSA ของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตกว่า 10,000 รายในอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับคนขับรถดื่มแอลกอฮอล์ในปี 2019 หรือประมาณ 30% จากอุบัติเหตุการจราจรทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ ทางรัฐบาลจึงกำลังร่วมมือกับกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์เพื่อหาทางผลิดเครื่องปองกันนี้ได้
อ่านเพิ่มเติม เบื้องหลัง “ศพมนุษย์” ถูกใช้ทดสอบการชนบนเส้นขอบจริยธรรม
เหล่าผู้ผลิตจะเรียกโปรแกรมนี้ว่า Driver Alcohol Detection System for Safety (ระบบตรวจจับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่เพื่อความปลอดภัย) ซึ่งกำลังดำเนินการหาทางแก้ไข ซึ่งก็มีตัวเลือกหลายอย่าง
หนึ่งในนั้นคือระบบตรวจจับลมหายใจ และระบบสัมผัสที่ใช้แสงอินฟาเรด
ซึ่งทั้งคู่จะสามารถทำให้รถไม่ขยับได้ หากพบว่าปริมาณแอลกอฮอลล์ในเลือดเกินกว่ากำหนด ซึ่งก็อาจจะช่วยลดอัตราในการเกิดอุบัติเหตุได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ก็มีชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งไม่พอใจกับสิ่งนี้ เนื่องจากจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และล่วงล้ำเกินไป
และแน่นอนว่าเทคโนโลยีนั้นอาจทำงานได้อย่างไม่สมบูรณ์ หากเกิดการเสียหายระหว่างทางอาจทำให้เกิดปัญหาที่ใหญ่กว่าตามมาได้
เร็วสุด 2026
อาจจะต้องมีการใส่เทคโนโลยีนี้เข้าไปในรถใหม่ทุกคัน อย่างเร็วก็ภายในปี 2026 และเป็นเพียงหนึ่งในเทคโนโลยีที่ NHTSA คิดไว้เท่านั้น
ประเทศไทยเป็นอย่างไร?
สำหรับในประเทศไทย สถิติคดีขับรถในขณะเมาสุราที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ สถิติยอดรวมสะสม 4 วัน ตั้งแต่ 29 ธันวาคม 2564 - 1 มกราคม 2565 มีจำนวน 2,952 คดี
จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 2,458 คดี ,คดีขับเสพ 484 คดี ,คดีขับรถประมาท 10 คดี
มีโทษอะไรบ้าง?
- เมาแล้วขับ หรือ ปฏิเสธการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 – 20,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน และศาลสามารถสั่งพักใบอนุญาตขับรถ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และสามารถยึดรถไว้ไม่เกิน 7 วัน
- เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น “บาดเจ็บ” จำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท และถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
- เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น “บาดเจ็บสาหัส” จำคุก 2-6 ปี ปรับ 40,000-120,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 2 ปี
- เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น “ถึงแก่ความตาย” จำคุก 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที
window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [
728,
90
], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });