• ยันไม่ขึ้นราคา-ตัดออพชั่นรถใหม่
• หวั่นกระทบเป้าการขาย 1,500 คันปีนี้
• มั่นใจสินค้าหลักพร้อมส่งมอบตลอดปี 2565

Audi (อาวดี้) ชี้การส่งมอบรถยนต์ใหม่อาจจะเริ่มมีปัญหาอย่างจริงจังในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และอาจจะส่งผลต่อเป้าหมายการจำหน่ายที่วางเอาไว้ แต่ยืนยันว่าจะไม่ใช้มาตรการปรับราคาจำหน่ายโดยไม่จำเป็น และจะไม่มีการตัดออพชั่นสำหรับรถยนต์ที่ทำตลาดในประเทศไทยอย่างแน่นอน

กฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อาวดี้ ในประเทศไทย เปิดเผยว่าการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์สำหรับการผลิตรถยนต์ เริ่มส่งผลกระทบไปแล้วทั่วโลก ทำให้รถยนต์บางรุ่นต้องชะลอเวลาในการส่งมอบออกไป

"ถ้าไปดูที่ต่างประเทศจะเห็นผลกระทบเรื่องนี้ชัดเจน อย่างกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า e-tron (อี-ทรอน) ในหลายประเทศรอนาน 12 เดือน ขณะที่ในประเทศไทย แม้จะเห็นผลบ้างแต่ก็ไม่มาก อยู่ที่ประมาณ 4 เดือน และยังพอหาสินค้าได้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเจรจากับบริษัทแม่มาอย่างต่อเนื่อง"

ท่ามกลางวิกฤตในครั้งนี้ อาวดี้จะฝันฝ่าไปได้อย่างไร...

เจรจาบริษัทแม่ ทั้งขอเพิ่มและยึดสต็อกในมือ

กฤษณะกรระบุว่า เป้าหมายในปีนี้ จะเป็นการนำเข้าสินค้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ทั้งหมด โดยจะต้องเจรจากับบริษัทแม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องของการขอเพิ่มสินค้าที่ได้รับความนิยม รวมไปถึงการรักษาสต๊อกสินค้าที่ได้รับการจัดสรรมาแล้ว เนื่องจากวิกฤตการขาดแคลนชิพนั้นเป็นวิกฤตทั่วโลก ทำให้ทุกประเทศต่างก็อยากได้รถยนต์ใหม่ทั้งสิ้น หากไม่มีการเจรจาหรือควบคุมที่ดีพอ ก็อาจจะตกไปเป็นโควต้าของประเทศอื่นแทนได้

ยันไม่ขึ้นราคา-ตัดออพชั่นเพื่อเน้นการทำตลาด

"อย่างไรก็ตาม นโยบายเราจะนำเสนอสินค้าที่มีออพชั่นที่เหมาะสมให้กับลูกค้าต่อไป โดยราคาที่มีการปรับขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงปลายปี 2564 ก็ยังเป็นราคาจำหน่ายนั้นอยู่ ซึ่งผมมองว่าการปรับราคารถยนต์ใหม่ปีละหลาย ๆ ครั้งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะ อาจจะมีปรับได้ตามการเปลี่ยนแปลงของรถหรือปัญหาค่าเงินจริง ๆ ปีละ 1-2 ครั้ง นอกจากนี้ ออพชั่นที่ติดตั้งให้กับลูกค้ารถยนต์กลุ่มนี้ก็มีความสำคัญ แม้จะมีคนถามผมว่าตัดออพชั่นบางตัวไหม ผมตอบเลยว่าไม่อย่างแน่นอน"

หวั่นผลกระทบรุนแรงครึ่งปีหลัง ส่งผลต่อเป้าการขาย

อาวดี้ ประเทศไทย ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายรถยนต์รุ่นใหม่ของพวกเขาเอาไว้ที่ 1,500 คันในปีนี้ แต่เชื่อว่าสถานการณ์การขาดแคลนชิปจะรุนแรงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และอาจจะทำให้ไม่สามารถทำเป้าหมายได้ตามที่คาดการณ์ ซึ่งก็อยู่ระหว่างการศึกษาช่องทางตลาดอื่น ๆ เช่น ในต่างประเทศบางแห่ง พบว่าราคาจำหน่ายรถยนต์มือสองบางรุ่นปรับตัวสูงขึ้นมาจากการที่ลูกค้าต้องรอรถใหม่นาน ทำให้ตัดสินใจซื้อรถยนต์มือสองมาทดแทน ซึ่งก็อาจจะเกิดกับประเทศไทยได้เช่นกัน

มั่นใจสินค้าหลักทุกรุ่นพร้อมส่งมอบตลอดทั้งปี

อย่างไรก็ตาม อาวดี้ยังมั่นใจว่ากลุ่มสินค้าหลักที่ทำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง และมีส่วนแบ่งการขายมากกว่า 70% ไม่ว่าจะเป็นรถสปออร์ต Audi TT (อาวดี้ ทีที) รถยนต์นั่ง Audi A5 (อาวดี้ เอ5) และเอสยูวีอย่าง Audi Q3 (อาวดี้ คิว3) นั้นจะมีสต๊อกสินค้าที่พร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าไปอย่างต่อเนื่องทั้งปี ซึ่งความนิยมนี้เป็นผลมาจากการทำราคาจำหน่าที่น่าสนใจ และความคุ้มค่าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย ทำให้เป็นกลุ่มสินค้าที่ขายดีที่สุดของอาวดี้

และจะเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้อาวดี้ก้าวผ่านปีนี้ไปได้อย่างแน่นอน!!!