ซีอีโอ BMW เผย “กังวลใจอย่างยิ่ง” ต่อนโยบายล็อกดาวน์สุดเข้มงวดของรัฐบาลจีน

หัวเรือใหญ่ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) แสดงความกังวลต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นจากมาตรการล็อกดาวน์อันเข้มงวดของรัฐบาลจีน

โอลิเวอร์  ซิปส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BMW เปิดเผยว่ามาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนที่ทวีความเข้มงวดอย่างต่อเนื่องนั้นจะส่งผลต่อการผลิตรถยนต์อย่างมาก

“ในประเทศจีน การล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ลดลงเลย” ซิปส์ กล่าวเพิ่มเติม “ผมมีความกังวลเพราะดูเหมือนว่าเรามิอาจหลุดพ้นจากมาตรการล็อกดาวน์ได้เลยในอนาคต ดูแล้วรัฐบาลจีนไม่มีทางออกที่ชัดเจนในเรื่องนี้”

ส่งผลต่อสายการผลิต

BMW มีโรงงานผลิตรถยนต์ 3 แห่งในเมืองเฉินหยาง ประเทศจีนซึ่งบริหารงานโดยการร่วมทุนกับบริษัท Brilliance Auto

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในแดนมังกรมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลที่ยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบเฉียบพลันด้วยการปิดประตูโรงงาน ห้างสรรพสินค้า รวมถึงอพาร์ทเมนท์ที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อแม้เพียงไม่กี่ราย

โรงงานของฟ็อกซ์คอนน์ ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเลคโทรนิคยักษ์ใหญ่ในเมืองเจิ้งโจวต้องปิดทำการหลังพบผู้ติดเชื้อ ทำให้พนักงานในโรงงานก่อการประท้วงโดยอ้างว่าสภาพแวดล้อมการทำงานย่ำแย่และมีการค้างค่าแรง

กระนั้น ซีอีโอ BMW มองว่าถึงแม้สถานการณ์ในจีนจะยังไม่กระเตื้อง แต่คาดว่ายอดขายรถยนต์แบรนด์ธงฟ้าขาวจะยังคงตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

“ถึงแม้สถานการณ์ในจีนจะไม่สู้ดี แต่ตลาดอื่น ๆ ทั่วโลกมีการเติบโตทำให้สามารถชดเชยกันได้” ซิปส์ กล่าว

โรงงานของ BMW ในจีนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง iX3 พร้อมกับเตรียมผลิตรถซีดานอีวี i5 รวมถึง MINI Electric และ Aceman เจนเนอเรชั่นต่อไปด้วย

ประเทศจีนยังเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่แห่งหนึ่งในโลก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ต่างชาติอย่าง Tesla, Polestar  รวมถึงแบรนด์เจ้าถิ่นอย่าง MG, BYD และเครือ GWM ตลอดจนซัพพลายเออร์แบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่อย่าง CATL